13/09/04	15/09/04	20/09/04
ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES-9 เพื่อติดตามสภาพอากาศ พบว่าช่วงกลางเดือนกันยายน มีกลุ่มเมฆปกคลุม ในบริเวณประเทศไทย บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฝนตกหนัก ในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณภาคเหนือมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

13/09/04	17/09/04	20/09/04
ภาพฝนสะสมรายวันจัดทำโดย สถาบันวิจัยทหารเรืออเมริกา จากภาพบริเวณพื้นที่สีฟ้าแสดงปริมาณฝนสะสมรายวัน พบว่าในช่วงกลางเดือนกันยายน บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย ปริมาณฝนสะสมมีจำนวนมาก ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

14/09/04	19/09/04	21/09/04
การติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ โดยใช้สถิติของการกระจายตัวของ น้ำฝนเพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม ประยุกต์ ใช้ภาพตรวจอากาศด้วยเรดาห์ และ ค่าปริมาณฝนที่ตก ซึ่งตรวจวัดโดยสถานี ตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยบริเวณวงกลมสีแดงหมายถึงพื้นที่ที่มีฝนตกหนัก จากภาพจะพบว่าในช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนกันยายน มีฝนตกชุกในพื้นที่ตอนบนของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 10 กันยายน ที่จังหวัดเชียงใหม่ี มีปริมาณฝนถึง 144.4 มิลลิเมตร และในวันที่ 21 กันยายน ที่จังหวัดตาก มีปริมาณฝน 122.4 มิลลิเมตร ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

12/09/04	15/09/04
ในช่วงกลางเดือนกันยายน ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนกำลังแรงพาดผ่านทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ประกอบกับสมมรสุมยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน ส่งผล ให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะทางภาคเหนือซึ่งมีปริมาณฝนตกหนักในหลายจังหวัดทั้งเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก น่าน พิษณุโลก สุโขทัย ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

กราฟแสดงระดับน้ำเขื่อนภูมิพล	กราฟแสดงระดับน้ำเขื่อนสิริกิติ์
	จากกราฟแสดงระดับน้ำของแต่ละเขื่อนในภาคเหนือ จะเห็นได้ว่าระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วช่วงกลางเดือนกันยายน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก
กราฟแสดงระดับน้ำเขื่อนแม่งัด

แผนผังแสดงสภาพน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเริ่มจากปริมาณฝนสะสม 14 วันสูงสุดเหนือเขื่อน และปริมาณน้ำกักเก็บของเขื่อน ภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ จากนั้นแสดงภาพ การไหลไปยังประตูระบายน้ำต่าง ๆ ในลุ่มน้ำ เจ้าพระยา เขื่อนเจ้าพระยา และลงสู่อ่าวไทย จากการที่มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมภาคเหนือช่วงกลางเดือนกันยายน มีผลทำให้น้ำเหนือได้ไหลบ่าเข้าสู่พื้นที่ภาคกลางในช่วงปลายเดือน โดยเฉพาะที่จังหวัดนครสวรรค์ แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นทีเกษตร ส่วนจังหวัดอยุธยา จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมมากนัก เพราะี้ปริมาณน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา และป่าสัก ยังมีไม่มากนัก ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ย้ำพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระวังน้ำป่าและดินถล่มต่อไปอีก หลังจากที่เมื่อวานนี้ น้ำป่าได้ถล่มอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายโดยพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน คือ 6 หมู่บ้าน ของตำบลโป่งผา,ตำบลเวียง และเขต เทศบาลตำบลแม่สายซึ่งนอกจากจะมีน้ำป่าไหลทะลักลงมาแล้วบางจุดยังมีดินโคลนและ ท่อนซุงตามมาด้วย สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของประชาชนและถนนสายหลักทำ ให้ขณะนี้ทางจังหวัดต้องเร่งสำรวจเพื่อช่วยเหลือต่อไป ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมให้เพิ่มความระมัดระวัง เกรงอาจจะซ้ำรอยอีกเพราะระยะนี้ยังมีฝน ตกหนักต่อเนื่อง

พายุฝนกระหน่ำจังหวัดเชียงใหม่พื้นที่หลายชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ยัง มีน้ำท่วมขังถนน และบ้านเรือนประชาชนทางเทศบาลต้องเร่งช่วยเหลือกันทั้งคืน ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังอย่างหนัก ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูง รวมทั้งระดับน้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ประชาชนในหลายชุมชนทั้งชุมชนกาดก้อม ชุมชนศรีปิงเมือง และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติด กับคลองแม่ข่าตลอดสายเนื่องจากระดับน้ำในคลองแม่ข่าได้เอ่อล้นเนื่องจากไม่สามารถระบายออกได้ทัน

เหนือ-อีสาน ยังมีฝนตกหนักระวังน้ำป่า [ BEC NEWS 12 ก.ย. 47 ]

ศูนย์อุตุนิยมวิทยายังแจ้งเตือนพื้นที่ภาคเหนือ และอีสานร่องฝนยังพาดผ่านหลายพื้นที่ ยังมีฝนตกหนักได้ต่อไป รวมทั้งฝากเตือนภาคเหนือระวังน้ำป่า ดินถล่ม และน้ำท่วม ฉับพลันเนื่องจากฝนตกหนักมานานติดต่อกันหลายวัน ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนกำลังแรงพาดผ่านทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ประกอบกับสมมรสุมยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยต่อไปส่งผล ให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนตกหนักต่อไปได้อีก 2-3 วัน โดยเฉพาะทางภาคเหนือซึ่งมีปริมาณฝนตกหนักในหลายจังหวัดทั้งเชียงใหม่ เชียงราย – แม่ฮ่องสอน ตาก และจังหวัดน่าน

กรมอุตุนิยมวิทยายังคงมีคำเตือนให้ให้ระวังภาวะน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วม ฉับพลัน โดยเฉพาะ 12 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ อิสานและกลาง คือจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง น่าน แม่ฮ่องสอน หนองคาย นครพนม ศรีสะเกษ อุบล - ราชธานี ยโสธร จันทบุรี และตราด ซึ่งจะเจอมรสุมฝนตกหนักที่เกิดจากร่องความกดอากาศต่ำ หรือร่องฝนพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน สำหรับ พื้นที่ลุ่มน้ำยมขณะนี้ระดับน้ำก็เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อาจทำให้น้ำล้น ตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลันได้ ส่วนทางด้านแม่น้ำโขงก็อยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว บางจุดได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว โดย เฉพาะที่จังหวัดมุกดาหาร

แม่น้ำสำคัญยังวิกฤตทำให้น้ำท่วมต่อเนื่อง [ BEC NEWS 14 ก.ย. 47 ]

แม่น้ำสายสำคัญยังหนุนสูงจนเอ่อล้นเข้าท่วมอีกไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดเชียงราย แม้น้ำท่วมขังในเขตเทศบาลจะลดลงแล้วแต่จุดที่ยังไม่คลี่คลาย ยังคงอยู่ที่บริเวณถนนพหลโยธินสายเก่า ขาเข้าตัวเมืองน้ำยังท่วมสูง แม่น้ำกรณ์ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ส่วนแม่น้ำน่าน ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับ พื้นที่การเกษตรชาวบ้านไปแล้วกว่า 1 พันไร่ เช่นเดียวกับแม่น้ำโขงด้านอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานีน้ำได้ไหลเข้าท่วมไร่ข้าวโพดชาวบ้านเสียหาย กว่า 1 พันไร่ ด้านจังหวัดนครพนม ลำน้ำสงครามที่เป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง ก็ได้เอ่อล้นเข้าท่วม บ้านเรือนประชาชนถึง 9 ตำบล ด้านภาคกลาง แม้จะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ก็ได้เตรียมความพร้อมที่เขื่อนเจ้าพระยา ก็เตรียมรับน้ำเหนือไหล บ่าด้วยการเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อน ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ยังคงย้ำเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนืออีสาน และกลาง ให้เพิ่มความระมัดระวังอันตราย จากสภาพอากาศ เนื่องจากระยะนี้ประเทศไทย ยังคงมีฝนตกชุก อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันได้

น้ำท่วมเหนือ จ.สุโขทัย น่าห่วงที่สุด [ BEC NEWS 15 ก.ย. 47 ]

สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ตอนนี้ที่น่าห่วงที่สุด คงจะอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย เพราะล่าสุดน้ำในแม่น้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมบางจุดของเขตเทศบาลแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งขนกระสอบทรายมาทำแนวกั้นน้ำ พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำออก เนื่องจากยังคงมีน้ำสะสมในพื้นที่จังหวัดแพร่อีกมาก ที่จะไหลบ่าลงมา แต่หากคืนนี้มีฝนเทลงมา ก็มีความเป็นไปได้สูง จะทำให้เกิดน้ำท่วมในเขตตัวเมือง สุโขทัย ส่วนที่จังหวัดแพร่ ระยะนี้ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างมาก ส่งผลให้น้ำยมไหลผ่านสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งระยะนี้จะยังคงมีฝนตกหนักอีก เตือนจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน ตาก พิษณุโลก เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะฝนที่ตกหนัก อาจทำให้ที่ลุ่มเชิงเขาในพื้นที่ดังกล่าว ประสบกับปัญหาดินถล่ม น้ำป่าไหล หลาก น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ดังกล่าวได้

"สันกำแพง" อ่วม น้ำท่วมหมู่บ้านโอท็อป [ ข่าวสด 15 ก.ย. 47 ]

ที่ จ. เชียงราย มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมหลายอำเภอ ส่วนใหญ่เกิดจากแม่น้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะอ.เมือง แม่น้ำกรณ์ยังคงไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ต.รอบเวียง ต.ป่าอ้อดอนชัย ระดับน้ำสูง 50 ซ.ม. ส่วนที่อ.เวียงชัย และอ.พญาเม็งราย น้ำอิงระดับน้ำยังไม่ลดลง ส่วนที่จ.เชียงใหม่ หลังจากเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรในอ.สันกำแพงอย่างรวดเร็ว สรุปความเสียหายน้ำท่วมเบื้องต้นในเขตอำเภอสันกำแพง เสียหาย 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน มีต.สันกำแพง ต.ห้วยทราย และต.ต้นเปา ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด บ้านห้วยทราย ต.ห้วยทราย และบ้านสันกลาง ต.ต้นเปา อ.สันกำแพงซึ่งเป็นหมู่บ้านโอท็อป รวมทั้งหมดมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 300 ครอบครัว กว่า 2,500 คน ที่อ.เด่นชัย จ.แพร่ หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้น้ำป่าไหลออกจากลำห้วยแม่พวกอย่างรุนแรงเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนตลอดจนสถานที่สาธารณะหลายแห่ง รวมทั้งถนนในหมู่บ้านหลายสายถูกน้ำตัดขาด ด้านจ.พิจิตร เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่เขตอำเภอเมืองอย่างหนัก ตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 13 ก.ย. ทำให้ถนนในเมืองหลายสายเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะที่บริเวณถนนศรีมาลา ถนนสระหลวง ส่วนถนนศรีมาลาน้ำสูงกว่า 50 ซ.ม. ส่วนภาคอีสาน ที่จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำในแม่น้ำโขงวัดที่อ.โขงเจียม ระดับน้ำสูงเอ่อล้นท่วมไร่นาริมตลิ่ง โดยมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเสียหายประมาณ 1,500 ไร่ ที่จ.กาฬสินธุ์ ที่ อ.สมเด็จ อ.คำม่วง อ.กุฉินารายณ์ และอ.ห้วยผึ้ง เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่นาเสียหายจำนวนมาก และน้ำทั้งหมดคาดว่าจะไหลลงไปในเขื่อนลำปาวที่จะส่งผลให้น้ำในเขื่อนจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น

เหนือวิกฤติน้ำท่วมอพยพหนีอลหม่าน [ เดลินิวส์ 15 ก.ย. 47 ]

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 ก.ย. มีรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จ.แพร่ เชียงราย และเชียงใหม่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่างๆมีระดับสูงขึ้น โดยเฉพาะที่จ.แพร่น้ำป่าจากห้วยแม่พวกและห้วยไร่ ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลังคาเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ของต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย ทำให้ถนนในหมู่บ้านมีน้ำท่วมสูง 30-50 ซม.สรุปความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมในเบื้องต้นมีมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท ที่จ.เชียงราย น้ำป่าจากเทือกเขาขุนกรณ์ไหลหลากลงมาตามลำน้ำแม่สาด ได้เอ่อท่วมบ้านเรือนจำนวน 5 หมู่บ้าน ในต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนต้องอพยพหนีน้ำกันอลหม่าน เนื่องจากบางพื้นที่มีระดับน้ำท่วมสูงถึง 80 ซม. นอกจากนี้ปริมาณน้ำยังทะลักเข้าท่วมชุมชนวัวลาย และถนนพหลโยธินช่วงขาเข้าตัวเมืองเชียงรายอีกระลอก ทำให้ยานพาหนะไม่สามารถขับผ่านได้ ขณะที่แม่น้ำกกก็เอ่อท่วมบ้านเรือนตามริมน้ำบริเวณบ้านกะเหรี่ยงร่วมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ทำให้ปางช้างของชาวกะเหรี่ยงต้องอพยพช้างกว่า 30 เชือกขึ้นไปอยู่ที่สูง ส่วนแม่น้ำลาวก็ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ 3 หมู่บ้านของต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย มีบ้านเรือนราษฎรเดือดร้อนกว่า 800 หลัง เช่นเดียวกับแม่น้ำอิงก็มีระดับน้ำสูงถึง 7.21 เมตร จึงเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนใน 10 ตำบล ของอ.เทิง ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 2,000 ครอบครัว กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก กรณีมีฝนตกหนักช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำลาว อ.เวียงป่าเป้า สูงขึ้นจากปกติอีก 80 ซม. ส่วนแม่น้ำอื่นๆ เช่น แม่น้ำกก,แม่น้ำสาย,แม่น้ำจัน มีระดับสูงขึ้นเช่นกัน และเอ่อเข้าท่วมถนนสายเชียงราย-เวียงป่าเป้า สูงถึง 50 ซม. คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ ปริมาณน้ำจากแม่น้ำต่างๆจะไหลบ่าเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่แน่ ที่จ.เชียงใหม่ ขณะนี้ได้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ห้วยทราย ต.แม่ปูคา ต.ต้นเปา และต.สันกำแพง ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเดือนร้อนกว่า 1,200 ครอบครัว

น้ำป่าทะลักจม 10 อำเภอ เชียงใหม่ [ ข่าวสด 16 ก.ย. 47 ]

จ.เชียงใหม่ น้ำจากฝายกั้นน้ำห้วยปงน้อย แตกทะลักเข้าท่วมบ้านร้อง หมู่ 1 บ้านแม่เหียะ หมู่ 2 บ้านเหล่า หมู่ 3 และบ้านป่าแขม หมู่ 4 ต.เวียง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ บ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 500-600 ไร่ สวนส้ม และสวนลำไย 400 ไร่ สัตว์เลี้ยงของชาวบ้านมีควาย 3 ตัว ถูกกระแสน้ำพัดสูญหาย ถนนบ้านร่องหาด หมู่ 1 ขาดเสียหาย 2 จุด หมู่ 4 อีก 1 จุด สะพานขาด 1 แห่ง สำหรับการเกิดพายุฝนตกในเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 9-15 ก.ย.ที่ผ่านมาทำให้น้ำยังท่วมใน อ.สันกำแพง อ.ดอยสะเก็ด ส่วนที่ อ.สารภี เกิดน้ำท่วมขังในหมู่บ้านและที่สำคัญน้ำไหลเข้าท่วมเวียงกุมกามที่เป็นเมืองประวัติศาสตร์ อายุกว่า 700 ปีหลายจุด ที่พบว่าท่วมขังมากที่สุดคือวัดประวัติศาสตร์วัดกู่ป้าด้อมน้ำท่วมขังมากที่สุด สำหรับ กิ่ง อ.เอราวัณ จังหวัดเลย น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมใน 2 หมู่บ้าน คือบ้านเอราวัณหมู่ 3 และหมู่ 7 ท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ต่ำและถนนในหมู่บ้านลึกถึง 50 ซ.ม. จนเวลาประมาณ 09.00 น. ระดับน้ำจึงเริ่มลดลงรถราไปมาสะดวกขึ้น ด้านนายวิสา ยัญญลักษ์ หัวหน้ากิ่งอ.เอราวัณ จ.เลย กล่าวว่า น้ำที่ท่วมในครั้งนี้เกิดจากน้ำป่า เนื่องจากเมื่อคืนนี้ฝนตกหนักมาก และทางด้านทิศใต้ของตลาดเอราวัณก็เป็นภูเขาทำให้น้ำป่าทะลักลงมาทางด้านนี้ วันเดียวกัน เวลา 18.00 น. แม่น้ำยมมีระดับสูงอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำใน 3 อำเภอได้แก่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และ อ.เมือง ของจ.สุโขทัย เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนสองฝั่ง โดยเฉพาะในเขต อ.เมือง ทำให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองมีระดับน้ำท่วมสูง 50 ซ.ม.

ภาคกลางได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือไหลบ่าแล้ว [ BEC NEWS 21 ก.ย. 47 ]

สถานการณ์น้ำท่วมภาคกลาง หลังน้ำเหนือไหลบ่าเข้าท่วม ส่วนเรื่องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นเพื่อกักเก็บน้ำ รวมทั้งสกัดการไหลของน้ำลงพื้นที่ภาคกลาง นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะใช้ สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นเป็นทางเลือกสุดท้าย และจะต้องไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ หากมีพื้นที่เพียงพอก็จะให้เป็นการสร้าง อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่รองรับแทน กรมอุตุนิยมวิทยาย้ำภาคกลางตอนล่างภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออกยังมีฝนตกชุก ส่วน ภาคเหนือและภาคอีสานเริ่มมีฝนลดลง สำหรับสภาวะน้ำท่วมยังคงเกิดขึ้นได้ในที่ลุ่ม และที่ลาดเชิงเขา บริเวณประเทศไทย ตอนบน

น้ำเหนือยังไหลบ่าพื้นที่ภาคกลาง [ BEC NEWS 22 ก.ย. 47 ]

ชาวบ้านพื้นที่ภาคกลางที่อาศัยอยู่ริมน้ำเร่งขนข้าวของไปยังที่ปลอดภัย หลังน้ำเหนือยังคงไหลบ่ามายังพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะที่จังหวัดนครสวรรค์ แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมสวนผัก บริเวณบ้านกลางแดด หน้าเทศบาลโกรกพระ และหมู่บ้านหัวแหลม ส่วนจังหวัดแพร่ แม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอีกระลอก กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ระยะนี้ภาคกลาง ตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ยังมีฝนฟ้าคะนองกระจายส่วนภาคอีสานมีฝนลดน้อยลง สำหรับภาวะน้ำท่วม ยังคงเกิดขึ้นได้ในที่ลุ่มและลาดเชิงเขาบริเวณประเทศไทยตอนบน น้ำเหนือกำลังไหลบ่าเข้าสู่พิษณุโลก ศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ รายงานถึงปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัยที่ยังไม่ลดลง เป็นเพราะต้นน้ำของแม่น้ำยม ยังคงมีฝนตกอยู่ ทำให้ระดับน้ำที่อำเภอเมือง ศรีสำโรง และศรีสัชนาลัย ที่ล้นตลิ่งอยู่แล้วท่วมมากยิ่งขึ้น และปริมาณน้ำเหนือ ดังกล่าวก็กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร โดยอำเภอที่จะประสบปัญหาน้ำท่วมขังมากที่สุดคือ บางระกำ วังทอง และโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิษณุโลก

น้ำท่วมเหนือหนัก สะพานแม่ปิงถล่ม [ ข่าวสด 22 ก.ย. 47 ]

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดต่างๆ ว่า ที่จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 16.00 น.รายงานว่าหลังจากที่จ.เชียงใหม่มีฝนตกหนักติดต่อกันนานเป็นเวลาหลายวันทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำปิง อ.แม่แตง แม่ริม เชียงดาว และอ.เมืองได้รับความเดือดร้อน ที่ อ.แม่ริม ได้เกิดสะพานขนาดใหญ่ข้ามแม่น้ำปิงเกิดหักกลางเนื่องจากกระแสน้ำปิงที่พัดอย่างรุนแรงและเชี่ยวกราก กัดเซาะดิน ทำให้สะพานทรุดตัว ลงไปในแม่น้ำปิง ขนาดความยาวประมาณ 60 เมตร ขณะที่จ.พิจิตร ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านปากคลองและบ้านรังนกบ้านเนินยุ้ง จำนวน 5 หมู่บ้าน อ.สามง่าม เกือบ 200 หลังคาเรือน ที่จ.พะเยา ระดับน้ำในกว๊านพะเยาได้ไหลท่วมฝั่งบริเวณหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในเขตเทศบาลบริเวณริมกว๊านฯเรื่อยมาจนถึงบ้านต๊ำดอนมูล เขตต.บ้านต๊ำ ระดับน้ำยังสูงขึ้นเรื่อยเฉลี่ยแล้ววันละ 10 ซ.ม. ต้องเปิดประตูน้ำ ทำให้ต.เวียง เทศบาลเมืองพะเยา ต.ดอกคำใต้,ดงสุวรรณ,สันโค้ง ต.ป่าลาน ในเขตอ.ดอกคำใต้ และต.แม่อิง ต.ห้วยแก้ว ในเขตกิ่งอ.ภูกามยาวประสบภัยน้ำท่วมจากการปล่อยน้ำลงจากกว๊านพะเยาในครั้งนี้ด้วย