บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมบริเวณจังหวัดกาญจบุรี ราชบุรี เพชรบุรี (1-5 ตุลาคม 2553)

ภาพดาวเทียม GOES-9

25/09/2553

26/09/2553

27/09/2553

28/09/2553

29/09/2553

30/09/2553

1/10/2553

2/10/2553

3/10/2553

4/10/2553

5/10/2553

6/10/2553
จากภาพถ่ายดาวเทียม GOES-9 พบว่าตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนตุลาคม มีกลุ่มเมฆค่อนข้างหนาปกคลุมพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธุ์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


ภาพแผนที่อากาศ

25/09/2553

26/09/2553

27/09/2553

28/09/2553

29/09/2553

30/09/2553

1/10/2553

2/10/2553

3/10/2553

4/10/2553

5/10/2553

6/10/2553

จากภาพแผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ รวมถึงอ่าวไทย ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกค่อนข้างมาก และหลังจากวันที่ 30 กันยายน ได้มีร่่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนหนัก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


ภาพเรดาร์กรมอุตุนิยมวิทยา
เรดาร์ดอนเมือง รัศมี 240 กิโลเมตร

25/9/2553
06:03GMT

26/9/2553
19:03GMT

27/9/2553
09:03GMT

28/9/2553
17:03GMT

29/9/2553
17:03GMT

30/9/2553
18:03GMT

1/10/2553
16:03GMT

2/10/2553
13:03GMT

3/10/2553
14:03GMT

4/10/2553
12:03GMT

5/10/2553
02:03GMT

6/10/2553
08:03GMT
dBz
เรดาร์หัวหิน รัศมี 240 กิโลเมตร

25/9/2553
23:29GMT

26/9/2553
15:29GMT

27/9/2553
15:29GMT

28/9/2553
17:29GMT

29/9/2553
15:29GMT

30/9/2553
17:29GMT

1/10/2553
12:29GMT

2/10/2553
13:29GMT

3/10/2553
18:29GMT

4/10/2553
23:29GMT

5/10/2553
03:29GMT

6/10/2553
16:29GMT
dBz
เรดาร์ระยอง รัศมี 240 กิโลเมตร

25/09/2553
11:03GMT

26/09/2553
08:03GMT

27/09/2553
14:03GMT

28/09/2553
15:03GMT

29/09/2553
22:03GMT

30/09/2553
20:03GMT

1/10/2553
23:03GMT

2/10/2553
13:03GMT

3/10/2553
13:03GMT

4/10/2553
23:03GMT

5/10/2553
02:03GMT

6/10/2553
23:03GMT
dBz
ข้อมูลจากเครือข่ายภาพเรดาร์กรมอุตุนิยมวิทยา เรดาร์ดอนเมือง หัวหิน และระยอง พบว่ามีฝนตกในพื้นที่ภาคกลางตอนล่างตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นมา และตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ปริมาณฝนได้เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี (อ.เมือง, อ.ด่านมะขามเตี้ย, อ.หนองปรือ, อ.บ่อพลอย, อ.ห้วยกระเจา, อ.ไทรโยค, อ.ศรีสวัสดิ์ ) จังหวัดราชบุรี (อ.สวนผึ้ง, อ.บ้านคา, อ.จอมบึง, อ.ปากท่อ, อ.เมือง) จังหวัดเพชรบุรี (อ.เมือง, อ.ท่าย่าง, อ.บ้านแหลม,อ.เขาย้อย, อ.หนองหญ้าปล้อง, อ.บ้านลาด, อ.แก่งกระจาน,อ.ชะอำ) ที่ จ.เพชรบุรี น้ำท่วมทุกอำเภอ โดยเฉพาะบริเวณใกล้เขื่อนเพชรบุรี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ดอนเมือง หัวหิน ระยอง

แผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมรายวันจากสถาบันวิจัยทหารเรืออเมริกา

26/09/2553
[12:00]

27/09/2553
[00:00]

28/09/2553
[00:00]

29/09/2553
[12:00]

30/09/2553
[00:00]

1/10/2553
[12:00]

2/10/2553
[00:00]

3/10/2553
[12:00]

4/10/2553
[00:00]

5/10/2553
[12:00]

6/10/2553
[00:00]

7/10/2553
[00:00]


จากแผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมของสถาบันวิจัยทหารเรืออเมริกา พบว่าวันที่ 27-30 กันยายน มีกลุ่มฝนกระจุกตัวค่อนข้างมากทางด้านตะวันตกของประเทศ โดยเฉพาะวันที่ 28 กันยายน มีกลุ่มฝนครอบคลุมพื้นที่ตะวันตกของประเทศตั้งแต่ตอนเหนือจรดใต้ และตั้งแต่วันที่ 1-4 ตุลาคม กลุ่มฝนกระจุกตัวกันค่อนข้างหนาในพื้นที่ภาคกลางฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร เพชรบุรี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว

รายละเอียดเพิ่มเติม


แผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมรายวันจาก NASA

25/09/53[00Z]-26/09/53[00Z]

26/09/53[00Z]-27/09/53[00Z]

27/09/53[00Z]-28/09/53[00Z]

28/09/53[00Z]-29/09/53[00Z]

29/09/53[00Z]-30/09/53[00Z]

30/09/53[00Z]-1/10/53[00Z]

1/10/53[00Z]-2/10/53[00Z]

2/10/53[00Z]-3/10/53[00Z]

3/10/53[00Z]-4/10/53[00Z]

4/10/53[00Z]-5/10/53[00Z]

5/10/53[00Z]-6/10/53[00Z]

6/10/53[00Z]-7/10/53[00Z]
จากแผนภาพฝนสะสมของ NASA พบว่าช่วงวันที่ 26 ก.ย. - 3 ต.ค. มีฝนตกค่อนข้างมากบริเวณด้านตะวันตกของภาคกลางตอนล่าง ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว


ข้อมูลปริมาณฝนจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา

วันที่
สถานี
จังหวัด
ปริมาณฝน
สะสมรายวัน(มม.) 
4/10/2553
เพชรบุรี เพชรบุรี
148.10
กาญจนบุรี กาญจนบุรี
114.50
กำแพงแสน (1) นครปฐม
62.80
ราชบุรี (1) ราชบุรี
50.80
3/10/2553
หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
126.20
เพชรบุรี เพชรบุรี
96.30
ราชบุรี (1) ราชบุรี
64.80
2/10/2553
เพชรบุรี เพชรบุรี
66.20
1/10/2553
เพชรบุรี เพชรบุรี
83.20
ประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์
56.10
หมายเหตุ : สีแดง หมายถึง ข้อมูลฝนที่เกิน 100 มิลลิเมตร
สีส้ม หมายถึง ข้อมูลฝน 80-99 มิลลิเมตร

การเตือนภัยข้อมูลปริมาณฝนผ่านโทรศัพท์มือถือ (sms)

วันเตือนภัย
เวลาเตือนภัย
ช่วงเวลาฝนสะสม
สถานที่
ปริมาณฝน (มม.)
ระดับการเตือนภัย
4/10/2010
8:00:00
ฝนวานนี้
ต.ท่ากระดาน จ.กาญจนบุรี                  114.5
เฝ้าระวังสูงสุด
4/10/2010
8:00:00
ฝนวานนี้
ต.ช่องสะแก จ.เพชรบุรี                  148.1
เฝ้าระวังสูงสุด
4/10/2010
6:00:00
ฝน04/07-05/06น.
ต.บ้านบึง จ.ราชบุรี                    96.0
เฝ้าระวังสูงสุด
3/10/2010
8:00:00
ฝนวานนี้
ต.ช่องสะแก จ.เพชรบุรี                    96.3
เฝ้าระวังสูงสุด
3/10/2010
8:00:00
ฝนวานนี้
ต.หนองพลับ จ.ประจวบคีรีขันธ์                  126.2
เฝ้าระวังสูงสุด


ข้อมูลระดับน้ำล้นตลิ่งจากสถานีวัดระดับน้ำท่า กรมชลประทาน

(K.17)บ้านบ่อ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
(ระดับตลิ่ง 5.9 ม.)

(K.37)บ้านวังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
(ระดับตลิ่ง 7.5 เมตร)
จากกราฟแสดงข้อมูลระดับน้ำจากสถานีตรวจวัดน้ำท่ากรมชลประทาน พบสองสถานีที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมากในช่วงที่เกิดน้ำท่วม ได้แก่ สถานีบ้านบ่อ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี วัดระดับน้ำสูงสุดได้ 5.6 เมตร ในวันที่ 4 ตุลาคม และสถานีบ้านวังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี วัดระดับน้ำสูงสุดได้ 7.6เมตร ในวันที่ 5 ตุลาคม

รายละเอียดเพิ่มเติม


ข้อมูลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนศรีนครินทร์

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนวชิราลงกรณ์

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนปราณบุรี

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนแก่งกระจาน

จากการที่มีฝนตกค่อนข้างมากอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคกลางฝั่งตะวันตก ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงที่เกิดฝนตกหนักนี้อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างสูงสุดอยู่ที่ 63.69 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 5 ตุลาคม เขื่อนวชิราลงกรณ์ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างสูงสุด 16.05 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 3 ตุลาคม เขื่อนแก่งกระจานมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างสูงสุดอยู่ที่ 7.56 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 5 ตุลาคม และเขื่อนปราณบุรีมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างสูงสุดอยู่ที่ 2.08 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 5 ตุลาคม เช่นเดียวกัน

ตารางและกราฟแสดงข้อมูลน้ำรายวันในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่


ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมแสดงพื้นที่น้ำท่วมจาก GISTDA (คลิ๊กที่ภาพเพื่อแสดงภาพเต็ม)

ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-2 บันทึกข้อมูลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2553 เวลา 06.19 น. แสดงพื้นที่น้ำท่วมบริเวณบางส่วนของจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม และ สุพรรณบุรี โดยจังหวัดกาญจนบุรี มีน้ำท่วมในอำเภอบ่อพลอย 2,666 ไร่ จังหวัดนครปฐมเกิดน้ำท่วมในอำเภอกำแพงแสน 61 ไร่ จังหวัดสุพรรณุบรี มีน้ำท่วมในอำเภออู่ทอง 47,114 ไร่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี 25,968 ไร่ อำเภอบางปลาม้า 24,980 ไร่ และอำเภอสองพี่น้อง 19,319 ไร่ ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-2 บันทึกข้อมูลเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2553 เวลา 06.15 น. แสดงพื้นที่น้ำท่วมบริเวณบางส่วนของจังหวัดชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นครปฐม สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และ อ่างทอง โดยจังหวัดนครปฐมเกิดน้ำท่วมในอำเภอบางเลน 6,432 ไร่ อำเภอกำแพงแสน 3,197 ไร่ จังหวัดราชบุรีเกิดน้ำท่วมในอำเภอโพธาราม จำนวน 8,349 ไร่ อำเภอเมืองราชบุรี 7,538 ไร่ อำเภอบางแพ 1,958 ไร่ อำเภอดำเนินสะดวก 763 ไร่ อำเภอบ้่างโป่ง 418 ไร่


ข่าวจากหนังสือพิมพ์

--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมราชบุรีเริ่มคลี่คลาย-พื้นที่เกษตรพังแสนไร่ [ โพสต์ทูเดย์ : 5 ต.ค.53 ]

หลังจากพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.ราชบุรี ประกอบด้วย อ.สวนผึ้ง อ.บ้านคา อ.จอมบึง อ.ปากท่อ และอ.เมือง ถูกน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร เส้นทางคมนาคม รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ฝนเริ่มหยุดตกในหลายพื้นแล้ว ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังอยู่ได้ลดลง และบางพื้นที่น้ำเริ่มแห้งแล้ว คงเหลือทิ้งไว้แต่ร่องรอยของความเสียหายที่เกิด โดยคาดว่า หากฝนหยุดทิ้งช่วงสักระยะหนึ่งก็เชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ราชบุรี จะคลี่คลายลง

ขณะที่ในส่วนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายโดยเฉพาะเส้นทางคมนาคม สะพานข้ามคลองต่างๆ ซึ่งมีทั้งหมด 6 แห่ง ขณะนี้ทางกรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี ได้เข้ามาทำการซ่อมแซมเพื่อให้ใช้การได้ชั่วคราว เพื่อรองบประมาณมาทำการซ่อมแซมอย่างถาวรอีกครั้ง

ทั้งนี้ นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้สรุปความเสียหายในเบื้องต้น ว่าพื้นที่ทางการเกษตรนั้นน่าจะเสียหายไม่ต่ำกว่า 100,000 ไร่ ส่วนบ้านเรือนประชาชนนั้นอยู่ในระหว่างสำรวจว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งหมดกี่ราย เพื่อที่จะได้ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป

--------------------------------------------------------------------------------------
เมืองกาญจน์อ่วมฝน น้ำท่วมหลายพื้นที่ [ ไทยรัฐ : 5 ต.ค. 53 ]

4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จ.กาญจนบุรี ได้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี บนถนนสายสำคัญ เช่น ถนนแสงชูโต ถนนสายกาญจนบุรี-อู่ทอง และถนนบายพาส (เลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ) มีน้ำท่วมขัง ทำให้การจราจรติดขัด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ผู้ปกครองต้องไปส่งลูกหลาน และเป็นช่วงเวลาที่คนออกมาทำงาน โดยตำรวจสภ.เมืองกาญจนบุรี ต้องจัดตำรวจจราจรดูแลการจราจรอย่างทุลักทุเล

ด้านนายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่มีฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืน ช่วงเช้าวันเดียวกัน ตนได้สั่งการให้อำเภอต่างๆ สำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นได้รับแจ้งว่า นอกจากพื้นที่เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จะได้รับความเสียหายแล้ว ยังมีพื้นที่อีกหลายอำเภอที่ได้รับผลกระทบด้วย โดยขณะนี้กำลังสำรวจอยู่ คาดว่าช่วงบ่ายวันนี้จะทราบผลสรุปความเสียหายแต่ละพื้นที่



--------------------------------------------------------------------------------------
คันกั้นริมแม่น้ำเพชรพังน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน-สถานที่ราชการ [ ผู้จัดการออนไลน์ : 5 ต.ค. 53 ]

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีล่าสุด เช้าวันนี้ (5 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. น้ำในแม่น้ำเพชรบุรีที่มีจำนวนมากได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในซอยเสลาธง ต.คลองกระแชง อ.เมืองเพชรบุรี ซึ่งน้ำได้ซัดตลิ่งกันแม่น้ำพังจนทำให้น้ำไหลเชี่ยวเข้าท่วมบ้านเรือนสูงระดับ 40 ซม. รวมถึงที่ตัวอาคารศูนย์ประสานงานป่าไม้เพชรบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ที่น้ำเข้าท่วมภายในตัวอาคารทั้งหมด
       
ทั้งนี้ มณฑลทหารบกที่ 15 พ.อ.พีรฉัตร พานทอง หัวหน้ากองกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่ 15 ได้นำกำลังทหารกว่า 20 เข้าช่วยวิดน้ำที่ท่วมขัง รวมถึงช่วยยกสิ่งของชาวบ้านขึ้นบ้านเรือนประชาชนพร้อมนำกระสอบทรายเข้าปิดกั้นเพื่อบรรเทา แต่ไม่สามารถปิดกั้นได้เนื่องจากน้ำมีกระแสที่แรงประกอบกับคันกั้นเป็นดินและเกิดการทรุดตัว
โดยน้ำไหลข้ามถนนและเข้าท่วมบ้านพักข้าราชการทหารเป็นบางส่วนแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม มณฑลทหารบกที่ 15 ยังคงวางกำลังทหารคอยเฝ้าช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องในพื้นที่
       
ส่วนที่หมู่ 5 บ้านท่าโล้ ต.ยางหย่อง อ.ท่ายาง นางพิจิตรา พานิชพรพันธุ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยมณฑลทหารบกที่ 15 สถานีกาชาดที่ 8 เพชรบุรี นำถุงยังชีพจำนวน 200 ชุด เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลยางหย่องแล้ว


--------------------------------------------------------------------------------------
เมืองเพชรอ่วมน้ำยังท่วมหนัก สภากาชาดไทยมอบข้าวสาร-น้ำดื่มช่วยชาวบ้าน [ ผู้จัดการออนไลน์ : 5 ต.ค. 53 ]

เมื่อช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.) สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ที่มีองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์อุปนานิกาสภากาชาดไทย ได้มอบข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มจำนวน 1,200 ชุดให้กับเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี และสถานีกาชาดที่ 8 เพชรบุรี เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนประสบอุทกภัย โดยมีพลทหารในสังกัดมณฑลทหารราบที่ 15 และกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์กว่า 50 นายมาช่วยในการบรรจุสิ่งของ

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.) ช่วงเวลา 23.30 น. น้ำได้ไหลเอ่อในแม่น้ำเพชรบุรีได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในเขตพื้นที่หมู่ 5 และหมู่ 13 ต.บ้านกุ่ม อ.เมือง และหมู่ 2 ต.บางครก อ.บ้านแหลม อย่างรวดเร็ว จนทำให้ท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้วกว่า 100 หลังคาเรือน โดยประชาชนต่างขนสิ่งของรวมถึงนำสัตว์เลี้ยงไปไว้บนที่สูงก่อนล่วงหน้าแล้วหลังจากมีการประกาศเตือนจากผู้นำชุมชนและจังหวัด แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ยังคงน่าเป็นห่วงหากมีฝนตกซ้ำลงมาอีกระรอก

นกระทั่งเช้าวันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำป่ายังคงไหลหลากเข้าท่วมถนนเพชรเกษม บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 132-134 ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ทำให้เส้นทางการจราจรใช้ได้เพียง 1 ช่องทางเท่านั้น ตำรวจต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเร่งระบายรถ และนำป้ายเตือนน้ำท่วมมาตั้งไว้ เพื่อเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวัง แต่ยังมีรถยนต์และรถบรรทุกหลายคันตกลงไปข้างทาง

ขณะที่ นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ออกสำรวจน้ำท่วมพื้นที่ อ.ท่ายาง พบว่ามีน้ำท่วมขังหลายแห่ง และถนนบางช่วงชำรุด จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปซ่อมแซม ขณะที่เขื่อนเพชรมีปริมาณน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เกินปริมาณการกักเก็บ

สำหรับพื้นที่ จ.เพชรบุรี ขณะนี้ถูกน้ำท่วมทุกอำเภอ โดยเฉพาะอำเภอที่อยู่เหนือและอยู่ด้านล่างเขื่อนเพชร โดยปริมาณน้ำมีแนวโน้มขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ส่วนการช่วยเหลือ เหล่ากาชาดจังหวัดได้นำน้ำและอาหารไปมอบให้ชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น รวมทั้งตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกอำเภอด้วย



--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมกาญจน์หนักสุดในรอบ 15 ปี [ โพสต์ทุเดย์ : 4 ต.ค. 53 ]

นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งวันแรกได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวเร่งสำรวจความเสียหายโดยเฉพาะเขตพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอหนองปรือ อำเภอบ่อพลอย และอำเภอห้วยกระเจา หลังเกิดฝนถล่มน้ำท่วมหนักในรอบ15 ปี

เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักยาวนากว่า 4 ชม.ทำให้พื้นที่ของตัวเมืองกาญจน์ โดยเฉพาะที่ถนนพัฒนาการ เลียบทางรถไฟ มีน้ำท่วมสูงกว่า 20 ซม.เป็นระยะทางกว่า 5 กม.รถยนต์ขนาดเล็ก และรถจักรยายนต์ไม่สามารถวิ่งสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้หยุดเดินรถไฟเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

นายไชโย ฤทธิรงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หากฝนหยุดตก เจ้าหน้าที่จะเข้าไปสำรวจพื้นที่ความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที  นอกจากนี้น้ำป่ายังได้ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จนทำให้ถนนในหมู่บ้านขาด และน้ำยังได้ไหลท่วมทางหลวง สายกาญจนบุรี-ไทรโยค แต่รถสามารถวิ่งสัญจรไป-มาได้ ขณะที่พื้นที่ของ ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ ก็ได้รับผลกระทบจากสาเหตุดังกล่าวด้วยเช่นกัน ส่งผลให้เส้นทางเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ   

สำหรับพื้นที่ของ อ.ด่านมะขามเตี้ย ได้เกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ 4 ตำบล ประกอบด้วย หนองไผ่ ด่านมะขามเตี้ย จรเข้เผือก และกลอนโด และถนนสายกาญจนบุรี – ด่านมะขามเตี้ย โดยผู้ที่จะใช้เส้นทางดังกล่าวจะต้องขับด้วยความระมัดระวัง สำหรับพื้นที่ของ ต.หนองไผ่ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีระดับน้ำสูงเฉลี่ยประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร และระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุเกิดจากน้ำแม่น้ำลำพาชี จาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้เออล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรประมาณ 1,000 หลัง และพื้นที่เกษตรประมาณ 3,000 ไร่ ถนนถูกตัดขาด 30 สาย ในส่วนของพื้นที่ ต.ด่านมะขามเตี้ย ต.จรเข้เผือก และ ต.กลอนโด ซึ่งสาเหตุเกิดจากน้ำป่าไหลหลาก ได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของราษฎร ถนนในหมู่บ้านหลายสาย และยังมีเสาไฟฟ้าหักโค่น สะพานถูกน้ำพัดพังเสียหายอีกหลายแห่ง  



--------------------------------------------------------------------------------------
ราชบุรีอ่วมน้ำท่วมหนัก-ดินพังทลาย [ โพสต์ทุเดย์ : 4 ต.ค. 53 ]

น้ำท่วมสวนผึ้งวิกฤตสะพานขาดหลายแห่ง ดินพังทลายทำให้บ้าน-รีสอร์ทที่ปลูกอยู่บนเนินเขาได้รับความเสียหาย ขณะที่ยังมีนักท่องเที่ยวติดพื้นที่กว่า 40 คน

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในวันนี้ (4ต.ค.) ยังอยู่ในภาวะ วิกฤตหนัก เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำป่าที่ไหลจากเทือกเขาตะนาวศรีลงแม่น้ำลำภาชีปริ่มจนเกือบถึงสะพานข้ามแม่น้ำ ซึ่งเป็นสะพานสายหลักที่จะเข้าสู่อำเภอสวนผึ้ง โดนคาดว่าหากยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องอาจทำให้สะพานพังเสียหายจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวได้

นอกจากนี้รีสอร์ดทในพื้นที่อ.สวนผึ้งหลายแห่ง อาทิ สวนผึ้งคันทรีฮิลล์รีสอร์ท ซึ่งอยู่บ้านห้วยคลุม หมู่ 6 ต.สวนผึ้ง ยังมีนักนักท่องเที่ยวติดอยู่ภายในรีสอร์ทรวมทั้งรีสอร์ทข้างเคียงอีกกว่า 40 คน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เนื่องจากเส้นทางที่จะเข้าไปช่วยเหลือนั้นคอสะพานขาดหลายแห่งทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร อำเภอสวนผึ้ง และชาวบ้านต้องระดมกำลังช่วยกันทำสะพานชั่วคราวให้รถข้ามไปได้ เพื่อนำอาหารและน้ำดื่มไปให้นักท่องเที่ยวประทังชีวิต

ขณะที่ในพื้นที่อื่นๆของอำเภอสวนผึ้งซึ่งส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ทและบ้านพักก็ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากทำให้ดินพังทลายหลายจุด ส่งผลให้บ้านที่ปลูกอยู่บนเนินเขาได้รับความเสียหาย

ส่วนพื้นที่ในอำเภออื่น อาทิ อำเภอปากท่อ น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหายรวมทั้งหมด 8 ตำบลแล้ว ส่วนอำเภอจอมบึงและอำเภอเมืองราชบุรี น้ำป่าได้ไหลท่วมนาข้าวที่กำลังจะทำการเก็บเกี่ยวได้รวมทั้งไร่ผักและบ้านพักได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง

ด้าน นายสุเทพ  โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ประกาศให้พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมนั้นเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว และเร่งเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือพร้อมทั้งประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำลำภาชีหรือริมสองฝั่งลำห้วยให้เตรียมขนของย้ายหนีไปอยู่ในที่สูง เนื่องจากปริมาณน้ำป่านั้นยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่กรมชลประทานว่า จะต้องทำการระบายน้ำในเขื่อนท่าเคย อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ออกเพราะปริมาณน้ำกำลังจะล้นเขื่อน


--------------------------------------------------------------------------------------

ข้อมูลอ้างอิง
  • ไทยรัฐ : http://www.thairath.co.th
  • ผู้จัดการออนไลน์ : http://www.manager.co.th/
  • โพสต์ทูเดย์ : http://www.posttoday.com