ข่าวจากหนังสือพิมพ์
--------------------------------------------------------------------------------------
ฝนถล่มหนักหาดใหญ่หลายพื้นที่น้ำเริ่มทะลัก [ ไทยรัฐ : 20 พ.ย. 52 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนที่ตกติดต่อกัน 2 วัน ทำให้วันนี้ (20 พ.ย.) น้ำได้เอ่อท่วมถนนหลายสายในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เช่น ถนนกาญจนวนิช ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ และสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยบางช่วงระดับน้ำสูงถึง 30 เซนติ เมตร ซึ่งล่าสุดหลายพื้นที่ยังมีฝนตกอยู่
วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 16 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงยังคงปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงอย่างต่อเนื่องอีก 1-3 องศา นอกจากนั้น มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนหนาแน่น และฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยของ จ.สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี ยะ ลา และนราธิวาส ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กโดยเฉพาะในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 20-22 พ.ย.นี้
--------------------------------------------------------------------------------------
ประกาศสงขลา เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ หลังน้ำท่วมหนัก [ ไทยรัฐ : 21 พ.ย. 52 ]
วันนี้(21 พ.ย.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจใน จ.สุโขทัย พิษณุโลก และพิจิตร ถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.สงขลา ว่า ได้ประกาศให้เขตพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว และสั่งให้ ส.ส.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการ เร่งด่วน
ด้านนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัด ว่า จากการที่มีฝนตกติดต่อกัน 3 วันทำให้เกิดน้ำท่วมในอำเภอรัตภูมิ หาดใหญ่ นาหม่อม และ บางกล่ำ ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมกว่า 4,000 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 13,000 คน เบื้องต้นได้สั่งการให้หน่วยงานท้องถิ่นเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว ส่วนความเสียหายขณะนี้ยังไม่มีรายงาน แต่ยืนยันว่าเส้นทางการจราจรยังใช้ได้ตามปกติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ติดริมคลองให้ระวังน้ำหลาก พร้อมแนะนำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบว่าน้ำเพิ่มสูงขึ้นมากให้รีบอพยพไปบนที่สูง พร้อมแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังที่ว่าการอำเภอหรือกำนันผู้ใหญ่บ้านทันที
--------------------------------------------------------------------------------------
ฝนถล่ม 3 วันติด นราฯอ่วม ทะลักท่วม 4 อำเภอ [ ไทยรัฐ : 21 พ.ย. 52 ]
วันนี้ ( 21 พ.ย.) หลังจากที่จังหวัดยะลา ได้ประกาศเตือนประชาชน ที่อาศัยยังพื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่ราบลุ่มที่มีน้ำท่วมขังซ้ำซากให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก เนื่องจาก จังหวัดยะลาเป็นพื้นที่หนึ่งที่ได้รับอิทธิพล จากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงเช้าวันนี้
ด้าน นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า เพื่อเตรียมการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม อันเกิดจากสภาวะอากาศ และฝนตกหนัก รอบที่สอง อาจจะสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สิน โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงของประชาชนได้ จึงให้ทางอำเภอดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมการป้องกัน และระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าติดตามเฝ้าระวัง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมรับกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ หากฝนยังไม่หยุดตก
ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส หลังจากฝนได้ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก มีปริมาณสูงขึ้นจนล้นตลิ่งและไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร และ พื้นที่ทางการเกษตรที่ปลูกสร้างอยู่ตลอดแนวริมตลิ่ง โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูง โดยเฉลี่ย 40 - 50 เซนติเมตร โดยบางพื้นที่ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะเพื่อเดินทาง และจากการตรวจสอบ ล่าสุดมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้ว จำนวน 4 อำเภอ คือ อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี อ.จะแนะ และ อ.เจาะไอร้อง ซึ่งมีราษฎรได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้นจำนวน 345 หลังคาเรือน รวม 1,250 คน
ล่าสุด ระดับน้ำท่วมยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลพวงจากน้ำป่าบนเทือกเขา ได้ไหลทะลักลงมาท่วมบ้านเรือนของราษฎร และถนนหนทางในหมู่บ้าน อันเป็นผลพวงของภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และยังไม่มีท่าทีที่ว่าจะหยุดตก และคาดว่าหากอยู่ในสภาวะเช่นนี้ จะทำให้ภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎร ขยายเป็นวงกว้างและเกิดภาวะน้ำท่วมขังอีกครั้ง
--------------------------------------------------------------------------------------
มรสุมซัดชายหาดสมิหลาพัง-สตูลท่วมรุนแรง [ ไทยรัฐ : 22 พ.ย. 52 ]
วันนี้ (22 พ.ย.) ชายหาดแหลมสมิหลา ถ.ชลาทัศน์ ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เกิดมรสุมพัด และคลื่นยักษ์ถล่มชายฝั่งทำให้เกิดความเสียหายตลอดแนว และทรายถูกพัดเซาะลงทะเล นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยรองผู้ว่าฯ และ นายประพร เอกอุรุ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี เลขาธิการพรรคประชาธิปปัตย์ นายวิชากร บัวหอม ปฏิบัติหน้าที่ นายกเทศมนตรีเมืองสงขลา กรมโยธาจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้สำรวจความเสียหายชายหาดสมิหลาและใช้รถแมคโคร พนักงานเทศบาล อส.จังหวัด ใช้ยางรถยนต์ และไม้สนอัดลงในชายหาด แล้วใช้ห่วงยางทับป้องกันคลื่นทะเลที่พัดเอาทรายลงทะเลเป็นการป้องกันชั่วคราว
นายวิญญู ทองสกุล กล่าวว่า ขณะนี้ได้ปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันคลื่นทะเลที่ซัดทรายลงทะเล ซึ่งคาดว่าเป็นการป้องกันเบื้องต้น หลังจากนั้นจะให้โยธาจังหวัด ใช้ถุงกระสอบอัดทรายวางเป็นแนวชายหาด ส่วนความเสียหายขณะนี้ ยังต้องสำรวจและจัดงบประมาณมาซ่อมแซมเพื่อให้ชายหาดสมิหลา กลับเป็นเหมือนเดิม เพื่อความสวยงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเมืองสงขลาต่อไป
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจ.สตูล เริ่มทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างขึ้น ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดได้ไหลลงไปที่น้ำตกโตนปาหนัน ในเขตพื้นที่ ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล และไหล ลงท่วมบ้านเรือนราษฎรในเขตพื้นที่ ม.5 บ้านโตนปาหนัน ได้รับความเดือดร้อน 150 ครัวเรือน
นายวิสิฐ ตั้งปอง นายอำเภอควนกาหลง และ นายสำเริง วงศ์มุณีวรณ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จ.สตูล ได้ช่วยอพยพชาวบ้านไปสู่ที่ปลอดภัย และ นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายชาวบ้านเพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น นอกจากนี้ น้ำในลำคลองดูสน เริ่มไหลท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในเขตพื้นที่ ต.ควนโดน ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน รวมทั้งไหลท่วมพื้นที่ ต.ฉลุง อ.เมืองสตูล โดยสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้มีแนวโน้มหนักกว่าน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา ในขณะที่ทาง จ.สตูล ได้ประกาศเตือนชาวบ้านในเขตพื้นที่ อ.ควนโดน อ.เมืองสตูล ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้อพยพสิ่งของไปอยู่ที่ปลอดภัย
--------------------------------------------------------------------------------------
ยะลาเตือน แม่น้ำสายบุรี-ปัตตานี ล้นตลิ่ง [ ไทยรัฐ : 22 พ.ย. 52 ]
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. สภาพอากาศโดยทั่วไปในพื้นที่จ.ยะลา ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝน ตกหนักในบางพื้นที่ จากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา หรือที่ลุ่มใกล้ทางน้ำไหลของจ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวัง อันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่22-23 พ.ย.
ด้าน นายเวโรจน์ สายทองแท้ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้สั่งการให้มีการเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะเรือท้องแบนและประสานหน่วยกำลังในพื้นที่ทั้งทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร พร้อมเข้าช่วยเหลือราษฏรและสัตว์เลี้ยงขึ้นไว้ในที่สูงทันที หากเกิดน้ำในแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำปัตตานี ล้นตลิ่งในวันเดียวกันนี้
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมสงขลาขยายวงกว้าง - ริมคลองอู่ตะเภา คลอง ร.1 ยังวิกฤต [ ผู้จัดการออนไลน์ : 22 พ.ย.52 ]
![](floodsouth-nov09-2/news-manager-22.gif)
วันนี้ (22 พ.ย.) เจ้าหน้าที่จากศูนย์อุทกวิทยาและทรัพยากรน้ำภาคใต้ลงพื้นที่สำรวจระดับและปริมาณน้ำตามลำคลองต่างๆ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อประเมินสถานการณ์หลังจากที่ยังมีฝนตกหนักติดต่อกันโดยพบว่าลำคลองในพื้นที่รอบนอกระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือระดับน้ำในคลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำ ร.1 ซึ่งทำหน้าที่ระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากน้ำที่ระบายจากแก้มลิงในพื้นที่ ต.คอหงส์ ที่รับน้ำจากเขาคอหงส์จนเต็มพิกัดจนต้องระบายออก ซึ่งชาวบ้านที่อยู่สองฝั่งคลองของคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำ ร.1 ยังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมและต้องเตรียมพร้อมตลอด24 ชั่วโมง
สถานการณ์น้ำในคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำร.1 ซึ่งเป็นคลองรับน้ำก่อนระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลา เข้าขั้นวิกฤต ล่าสุดทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ยกระดับการเตือนภัยน้ำท่วมของคลองทั้งสองแห่งอยู่ในขั้นที่สองโดยเปลี่ยนจากธงเขียวเป็นธงเหลือง ให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเนื่องจากระดับน้ำทั้งสองคลองต่ำกว่าตลิ่งน้อยกว่า1.50 เมตร ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่จำนวนมากยังคงเดินทางมาเฝ้าดูระดับทั้งสองคลองอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉุกเฉิน
ขณะเดียวกัน ภาวะฝนที่ยังคงตกหนักได้ส่งผลให้หลายพื้นที่ของ จ.สงขลา เกิดภาวะน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา น้ำป่าจากภูเขาเทวดา ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและเส้นทางจรจารบริเวณห้าแยกเกาะยออย่างหนัก การจราจรติดขัดและรถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ ส่งผลกระทบต่อการเดินทางเนื่องจากบริเวณห้าแยกเกาะยอเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.หาดใหญ่ และอ.สิงนคร ส่วนความคืบหน้าเหตุน้ำท่วมรางรถไฟในพื้นที่หมู่ 5 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.)ส่งผลให้รถไฟระหว่างสถานีหาดใหญ่ถึงสถานีปาดังเบซาร์ ต้องหยุดเดินรถชั่วคราว
ล่าสุด นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เส้นทางดังกล่าวสามารถเปิดเดินรถได้ตามปกติแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากที่ระดับน้ำที่ท่วมรางลดลงและฝ่ายซ่อมบำรุงทางได้เข้าไปตรวจสอบสภาพรางพบว่าไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดและสามารถเปิดเดินรถได้ทุกขบวนทั้งขบวนรถระหว่างประเทศและขบวนขนส่งสินค้า อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ได้สั่งการให้มีการสำรวจเส้นทางสายใต้ตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราชรวมถึงเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะจุดที่เกิดน้ำท่วมรางซ้ำซากเพื่อเข้าไปดำเนินการแก้ไข
--------------------------------------------------------------------------------------
'สงขลา,โก-ลก'ตื่น ทุ่ม 22 ล. ขุดคลองแก้ท่วมซ้ำซาก [ ไทยรัฐ : 23 พ.ย. 52 ]
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นำเจ้าหน้าที่ออกแจกจ่ายถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุดแก่ราษฎรในพื้นที่ประสบอุทกภัย 23 จุด ใน 13 ชุมชนรอบเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก พร้อมเยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัย จำนวน 39 ครัวเรือน รวม 193 คน ที่อพยพหนีน้ำท่วมมาอยู่ที่ศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัยชั่วคราวโรงเรียนเทศบาล 4 จากระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ท่วมบ้านเรือนราษฎรตลอดแนวริมฝั่ง แม่น้ำสุไหงโก-ลก ไม่สามารถพักอาศัยได้ตามปกติ
นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกเป็นประจำทุกปี มีสาเหตุมาจากท่อน้ำ คูคลอง รวมถึงทางระบายน้ำที่อยู่นอกเขตเทศบาลมีขนาดเล็ก ส่วนใหญ่อุดตัน ทำให้ระบายน้ำออกไม่ทัน ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ต้องมาแก้ไขที่จุดดังกล่าว ระยะแรก กรมทรัพยากรน้ำ จ.สงขลา จัดสรรงบประมาณ จำนวน 16 ล้านบาท ดำเนินการขุดลอกคลองบือเร็ง 1 และบือเร็ง 2 ตามที่เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกได้เสนอโครงการเข้าไป ระยะที่ 2 เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จัดสรรงบประมาณกว่า 6 ล้านบาท ดำเนินการขุดลอกคูคลองจนถึงริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก เพื่อขยายเส้นทางระบายน้ำทั้งในและนอกเขตเทศบาลทุกจุดที่มีความเสี่ยงต่อการ เกิดอุทกภัยตามแผนงบประมาณปี 2553 เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก สร้างความเดือดร้อนแก่ราษฎรในเขตชุมชนเหมือนเช่นที่ผ่านมามั่นใจว่าหลังเสร็จสิ้นโครงการ ชาวสุไหงโก-ลกจะไม่เดือดร้อนจากน้ำท่วมอีก
--------------------------------------------------------------------------------------
ปภ.สรุปเสียหาย อุทกภัย 3 จังหวัดใต้ 24 อำเภอ [ ไทยรัฐ : 23 พ.ย. 52 ]
วันนี้(23 พ.ย.)กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้มี 3 จังหวัด 24 อำเภอ 100 ตำบล ได้แก่ จังหวัดสงขลา ที่น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังระบายไม่ทันในพื้นที่ลุ่มต่ำ 9 อำเภอ 40 ตำบล 241 หมู่บ้าน จังหวัดพัทลุง 4 อำเภอ 15 ตำบล 47 หมู่บ้าน และจังหวัดนราธิวาส ซึ่งฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ ต้นน้ำของแม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำโก-ลก ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งสองฝั่งแม่น้ำจำนวน 11 อำเภอ 57 ตำบล โดยระดับน้ำในคลองตันหยงมัส สูงกว่าตลิ่งเฉลี่ย 1.09 ม. (ตลิ่ง 15.58 ม.) ระดับน้ำแม่น้ำโก-ลก สูงกว่าตลิ่งเฉลี่ย 0.82 ม. (ตลิ่ง 8.20 ม.) ซึ่งแต่ละจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือ และเร่งสำรวจความเสียหาย
โดยวันนี้ (23 พ.ย.)มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะจะเดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่ จังหวัดสงขลา จำนวน 2,000 ชุด และ 1,000 ชุด ให้กับราษฎรผู้ประสบภัย ที่ อบต.ปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
--------------------------------------------------------------------------------------
หาดใหญ่วิกฤตถูกน้ำล้อมรอบ เร่งป้องกันพื้นที่ไข่แดง ย่านเศรษฐกิจตัวเมืองชั้นใน [ ผู้จัดการออนไลน์ : 23 พ.ย. 52 ]
วันนี้ (23 พ.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อ.หาดใหญ่ ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤติ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ทั้ง ต.ควนลัง ต.คอหงส์ ต.บ้านพรุ และต.คลองแห ถูกน้ำท่วมทั้งหมดและอยู่ในภาวะน้ำโอบล้อมรอบตัวเมืองหาดใหญ่ทุกทิศทาง และพื้นที่ภายในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่เริ่มถูกน้ำท่วมแล้ว
ขณะที่คลองอู่ตะเภา ปริมาณน้ำอยู่ในระดับต่ำกว่าตลิ่ง 1.50 เมตร และยังเป็นสัญลักษณ์ธงเหลือง ทั้งนี้เทศบาลนครหาดใหญ่พยายามป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมืองหาดใหญ่ชั้นใน ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจการค้าและเป็นพื้นที่ไข่แดงเพียงแห่งเดียว ที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลาง ที่จะระดมความช่วยเหลือกระจายไปในพื้นที่รอบนอก
สถานการณ์น้ำท่วมในจ.สงขลา ล่าสุดนายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.สงขลา เปิดเผยว่า ภาพรวมทั้งจังหวัดขณะนี้มีน้ำท่วมรวม 10 อำเภอ 51 ตำบล 257 หมู่บ้านโดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม 1 คน ซึ่งลดลงจากเมื่อวานนี้ที่มีน้ำท่วม 11 อำเภอ ขณะที่ตอนนี้ น้ำในทะเลสาบสงขลา ที่รองรับน้ำจากทุกอำเภอเริ่มอิ่มตัวและย้อนกลับเข้าท่วมพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลาแล้ว
จากเม็ดฝนที่ตกต่อเนื่องหลายวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดระดับน้ำในคลอง ร.1 เอ่อล้นออกมาท่วมถนนสายข้างเคียง จนทำให้ชาวบ้านหวั่นวิตก ออกมาประเมินสถานการณ์ บ้างพาลูกหลานลงเล่นน้ำ บ้างทอดแห จึงขอเตือนประชาชนชาวบ้านอย่างเคร่งครัด ไม่ควรนำลูกหลานลงเล่นน้ำ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของลูกหลานท่านเอง
![](floodsouth-nov09-2/news-manager-23-1.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-23-4.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-23-7.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-23-2.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-23-3.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-23-5.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-23-6.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-23-8.gif)
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมใต้ยังวิกฤติ นราฯ11อำเภอ ปิด รร. 20 แห่ง [ ไทยรัฐ : 23 พ.ย. 52 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (23 พ.ย.) ว่า สภาพอากาศโดยทั่วไปในพื้นที่ จ.ยะลา ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มและมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ตลอด 2 ชายฝั่งของแม่น้ำปัตตานี น้ำเริ่มเอ่อล้นขึ้นฝั่ง และไหลเข้าท่วมบนถนนภายในหมู่บ้านในพื้นที่ ต.ท่าสาป ต.ยุโป ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมืองยะลา ส่วน แม่น้ำสายบุรี น้ำก็เริ่มเอ่อล้นฝั่งเช่นเดียวกัน และไหลเข้าท่วมในพื้นที่ราบลุ่มใน ต.อาซ่อง,ต.ตะโละหะลอ และ ต.กายูบอเกาะ อ.รามันจ.ยะลา ชาวบ้านต้องใช้เรือในการเดินทางและบางครอบครัวได้เริ่มอพยพสิ่งของสัตว์ เลี้ยงไปไว้บนถนน ส่วนถนนสายหลักที่จะออกตัวเมืองและเข้าตัวเมืองยะลาขณะนี้รถทุกชนิดยัง สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ตามปกติ
นาย เวโรจน์ สายทองแท้หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้สั่งเจ้า หน้าที่เฝ้าระวังและรายงานสภาพน้ำตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมได้เตรียมเรือท้องแบนและกำลังอาสาสมัครเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาวะน้ำท่วมได้ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ
วันเดียวกัน สถานการณ์ภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ขณะนี้บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย มีปริมาณสูงขึ้นและล้นตลิ่งไปแล้วกว่า 3 เมตร ขยายผลทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรกิน พื้นที่เป็นวงกว้างรวม 11 อำเภอแล้ว และอำเภอที่ไดรับผลกระทบหนักที่สุดคือ อำเภอสุไหงโก-ลก ที่บริเวณชุมชนหัวสะพาน ท่าโรงเลื่อยและซอยประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 2 - 3 เมตร ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 3,666 ครัวเรือน รวม 16,014 คน
ล่าสุด ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม จ.นราธิวาส ได้สรุปความเสียหายจากอุทกภัยในเบื้องต้นว่า มีพื้นที่น้ำท่วม 87 หมู่บ้าน 43 ตำบลในพื้นที่ 11 อำเภอ คือ อ.บาเจาะ อ.ตากใบ อ.จะแนะ อ.สุไหงปาดี อ.แว้ง อ.ยี่งอ อ.ศรีสาคร อ.สุคิริน อ.ระแงะ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.เมืองนราธิวาส มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนรวม 9,962 ครัวเรือน จำนวน 37,104 คน อพยพราษฎรจำนวน จำนวน 1,081 คน พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมขัง 1,180 ไร่ ถนนสายหลักและสายรองถูกน้ำท่วมขังและดินภูเขาถล่มลงมาทับเส้นทาง จนยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 29 สาย
นอกจากนี้ ผลพวงจากภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ ยังส่งผลทำให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส ทั้ง 3 เขตการศึกษา จำนวนกว่า 20 โรง ต้องปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราว เนื่องจากโรงเรียนถูกน้ำท่วมขังแล้ว
วันเดียวกัน ที่ จ.สตูล น้ำในลำคลองดูสน ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในเขตพื้นที่ ต.ควนโดน ต.ย่านซื่อ ต.ควนสตอ อ.ควนโดน ได้รับความเดือดร้อนแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 ครัวเรือน บางแห่งระดับน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร ชาวบ้านบางคนต้องขนของหนีน้ำไปอาศัยบ้านญาติๆ นอกจากนี้น้ำยังได้ท่วม ถนนสายหลักคือถนนยนตรการกำธร(ถนนสายหาดใหญ่-สตูล) ในเขตพื้นที่ ม.2 ต.ย่านซื่อ ช่วงขาเข้าเทศบาล ต.ควนโดน บริเวณสถานที่ก่อสร้างศูนย์การค้าเทสโก้โลตัส ระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร รถราวิ่งผ่านไป-มา ด้วยความะมัดระวัง และน้ำยังได้ท่วมถนนในหมู่บ้าน ชาวบ้านที่สัญจรไป-มา ต้องเดินลุยน้ำ ส่วนมัสยิดใน ต.ย่านซื่อ อย่างน้อย 2 มัสยิดถูกน้ำท่วมไม่สามารถประกอบกิจทางศาสนาได้ โรงเรียนต้องปิดแล้วอย่างน้อย 2 แห่ง คือ ร.ร.บ้านปันจอนร์และร.ร.บ้านย่านซื่อ ต.ย่านซื่อ ทางการเร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือต่อไปส่วนในเขตพื้นที่ อ.เมืองสตูล น้ำในลำคลองฉลุง ได้ไหลท่วมบ้านเรือนชาวบ้านแล้ว รวม 14 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อนไม่ต่ำกว่า 6000 ครัวเรือน
นอกจากนี้น้ำยังได้ท่วมเข้าไปในตลาดสดเทศบาล ต.ฉลุง รวมท่วมถนนสายฉลุง-ละงู บริเวณระหว่างหลักกม.ที่1-2 ช่วงขาเข้า ตลาดเทศบาล ต.ฉลุง ในเขตพื้นที่.4-5 ต.ฉลุง ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร รถที่สัญจรไป-มา สามารถใช้การได้เพียง1ช่องจราจร ส่วนนาข้าวชาวบ้านที่กำลังตั้งท้องถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ในขณะที่ถนนในหมู่บ้านน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องเดิยลุยน้ำออกมาสู่โลกภายนอก โรงเรียนปิดไปแล้ว3โรงคือ ร.ร.อนุบาลเมืองสตูล และ ร.ร.จริยธรรมอิสลาม ร.ร.บ้านโคกประดู่ ต.ฉลุง สำหรับพื้นที่ ต.บ้านควน อ.เมืองสตูล น้ำในลำคลองฉลุง ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านและนาข้าว รวม 7 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อนแล้วไม่ต่ำกว่า 2000 ครัวเรือน
สถานการณ์น้ำท่วม จ.สตูลในครั้งนี้เป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยในตอนเย็นวันนี้น้ำจะไหลท่วมพื้นที่ ต.คลองขุด ต.ควนขัน อ.เมืองสตูล และในเขตเทศบาลเมืองสตูลต่อไป
--------------------------------------------------------------------------------------
เมืองลุงยังไม่พ้นวิกฤตน้ำท่วม - ชาวบ้านเสียชีวิตแล้ว 1 ราย [ ผู้จัดการออนไลน์ : 24 พ.ย. 52 ]
![](floodsouth-nov09-2/news-manager-24-1.gif)
วันนี้ (24 พ.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุงยังไม่พ้นวิกฤติ แม้ฝนจะทิ้งช่วง และหยุดตกมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่ อ.เมือง อ.เขาชัยสน อ.ควนขนุน อ.บางแก้ว อ.ปากพะยูน และ อ.ป่าบอน ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วม โดยเฉพาะชาวบ้านหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 11 ตำบลนาโหนด อ.เมืองพัทลุง น้ำจาก อำเภอกงหรา ทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน จำนวน 220 ครัวเรือน น้ำสูงประมาณ 1 เมตร ในขณะที่ราษฎร ในท้องที่ ม.7, ม.9 ต.พญาขันต์ และ ม.12 ต.ชัยบุรี อ.เมือง ก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูง ถนนเข้าหมู่บ้านไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้
ในส่วนของชาวบ้านอาพัด หมู่ 4 ต.จองถนน อ.เขาชัยสน กว่า 40 ครัวเรือน ต้องเร่งอพยพสัตว์เลี้ยงและสิ่งของขึ้นที่สูงเป็นการด่วนหลังน้ำ จากอำเภอตะโหมด และตำบลเขาชัยสน ทะลักเข้าท่วม ก่อนไหลลงสูทะเลสาบสงขลา ทำให้ถนนสายโคกขาม –บางแก้ว ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตรมีน้ำท่วมสูงไหลแรง รถไม่สามารถผ่านไปมาได้ยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
สำหรับในพื้นที่ริมป่าเทือกเขาบรรทัด อำเภอกงหรา อ.ตะโหมด อ.ป่าบอน ระดับน้ำได้ลดลงเกือบเข้าสู่สภาวะปกติหลังฝนหยุดตก แต่น้ำที่ท่วมพื้นที่ดังกล่าวได้ไหลท่วมพื้นทีราบลุ่มของ อ.เมือง อ.ควนขนุน อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว และปากพะยูน ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาอย่างช้าๆ สาเหตุมาจากการสร้างถนนรอบทะเลสาบและไม่เปิดช่องระบายน้ำในพื้นที่ที่เหมาะสมและน้อยมาก จึงทำให้น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน
โดยขณะนี้พบว่าชาวบ้านกว่า 5,000 ครอบครัว กำลังได้รับความเดือดร้อน พื้นที่ทางด้านการเกษตรสวนยางพาราและนาข้าว ได้รับความเสียหาย กว่า 20,000 ไร่ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 นายสมปอง ชูนุ้ย อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/2 หมู่ที่ 4 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จมน้ำเสียชีวิตขณะออกหาปลา
--------------------------------------------------------------------------------------
ลุยน้ำท่วมทุลักทุเล แบกนักเรียน พายเรือไปโรงเรียน [ ไทยรัฐ : 24 พ.ย. 52 ]
ช่วงเช้าวันนี้ (24 พ.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สตูล ยังคงวิกฤติ โดยน้ำจาก อ.ควนกาหลง อ.ควนโดน และ ทางตอนเหนือของ อ.เมืองสตูล ได้ไหลลงคลองมำบัง และเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและสวนยางพารา ในพื้นที่ ม.6 และ ม.7 ใน เขตเทศบาล ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล โดยชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแล้วประมาณ 2,000 ครัวเรือน ระดับน้ำบางแห่งท่วมสูงถึง 2 เมตร โดยเฉพาะที่ซอยหลวงลืม และ ซอยร่วมวาริน ในเขตพื้นที่ ม.7 เทศบาล ต.คลองขุด ชาวบ้าน เด็กนักเรียน ต้องสัญจรไป-มา ด้วยความยากลำบาก เพราะน้ำท่วมถนนภายในซอย มีระดับน้ำสูง รถราไม่สามารถสัญจรไป-มา ได้ ต้องใช้เรือเข้าช่วยเหลือขนชาวบ้านและสิ่งของรวมทั้งขนเด็กนักเรียนไปโรงเรียน เนื่องจาก ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำกันอย่างทุลักทุเล โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่จะไปโรงเรียน บางคนต้องเดินลุยน้ำสูงถึงหน้าอก
นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้เดินลุยน้ำไปตรวจเยี่ยมและช่วยเหลือเด็กนักเรียนไปเรียนหนังสือ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการต้องเดินลุยน้ำและนำเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในที่ทำงาน ส่วนที่ฐานปฏิบัติการทหารกองร้อย 5021 ตั้งอยู่ ซอยหลังวัดหน้าเมือง ม.7 ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือขนย้ายสิ่งของจากในฐาน ออกมาสู่ที่ปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำภายในฐานปฏิบัติการระดับน้ำสูงถึง 1 เมตรเศษ โดยน้ำได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้สิ่งของบางอย่างเก็บไม่ทัน เช่น ถังแก๊สหุงต้มได้ลอยน้ำออกมานอกฐาน เจ้าหน้าที่ต้องนำเรือตามเก็บถังแก๊สดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภายในวันนี้ระดับน้ำจะไหลเข้าท่วมพื้นที่ริมคลองมำบัง ในเขตเทศบาลเมืองสตูลต่อไป
--------------------------------------------------------------------------------------
ปัตตานีถูกท่วมหนักอีก 2 อำเภอ - จนท.เร่งแจกถุงยังชีพ [ ผู้จัดการออนไลน์ : 24 พ.ย. 52 ]
![](floodsouth-nov09-2/news-manager-24(1)-1.gif)
วันนี้ (24 พ.ย.) จังหวัดปัตตานี ได้ประกาศให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพิ่มอีก 2 อำเภอ รวมเป็น 9 อำเภอแล้ว ในขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานียังคงไหลเอ่อล้นตะหลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งบางแห่งระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 1 เมตร และไหลทะลักท่วมพื้นที่เพิ่มเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะที่ ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มและติดแม่น้ำปัตตานี ขณะนี้บางหมู่บ้านระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรแล้ว รวมทั้งถนนเข้าหมู่บ้านหลายสายน้ำท่วมสูงจนรถจักรยานยนต์ และรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ในขณะที่นายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันท์ นายอำเภอเมือง พร้อมด้วย พ.ท.ชาคริต สนิทพ่วง ผบ.ฉก.ปัตตานี 23 ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำที่ ม.2 และ ม.3 ต.ปะกาฮารัง เพื่อวางแผนให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นพื้นที่วิกฤตโดยพบว่าขณะนี้น้ำจากแม่น้ำปัตตานี ยังคงเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้าน และมีแนวโน้มท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นได้จัดกำลังทหารเข้าช่วยขนสิ่งของเครื่องใช้ของประชาชนไว้ในที่สูง พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมตัวรับสถานการณ์น้ำท่วมรอบสองที่อาจท่วมสูงถึง 2 เมตร ในช่วง 1-2 วันนี้หากยังคงมีฝนตกหนักติดต่อกัน
ด้าน พ.ท.ชาคริต สนิทพ่วง ผบ.ฉก.ปัตตานี 23 กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำกำลังทหารในพื้นที่ให้มีการเพิ่มมาตรการป้องกันกลุ่มก่อความไม่สงบที่จะอาศัยช่วงนี้ก่อเหตุความไม่สงบ เนื่องจากกำลังส่วนหนึ่งต้องคอยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมทั้งให้จัดกำลังทหารส่วนหนึ่งไว้คอยดูแลหน่วยงานราชการต่างๆ ที่จะเข้าพื้นที่มอบสิ่งของให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ส่วนประชาชนในพื้นที่ได้ต้องการกำลังในการขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูงก็สามารถติดต่อได้ตามหน่วยกำลังในพื้นที่นั้นๆ ส่วนพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.ปัตตานี ประกาศเพิ่มอีก 2 อำเภอรวมเป็น 9 อำเภอราษฎรได้รับความเดือดร้อน 41 ตำบล 164 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 10,205 ครัวเรือน จำนวน 34,126 คน บ้านเรือนเสียหาย 91 หลัง ถนนชนบทเสียหาย 157 สาย สะพานเสียหาย 6 แห่ง โรงเรียนถูกน้ำท่วม 5 แห่ง พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย 32,774 ไร่ ด้านประมงบ่อปลา ปลาในกระชัง สัตว์เลี้ยงราษฎร รวมค่าเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 69,145,297 บาท
![](floodsouth-nov09-2/news-manager-24(1)-2.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-24(1)-3.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-24(1)-4.gif) ![](floodsouth-nov09-2/news-manager-24(1)-5.gif)
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วม 6 จว.ใต้ เบื้องต้น เริ่มลดระดับ [ ไทยรัฐ : 25 พ.ย. 52 ]
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ว่า ขณะนี้ในบางพื้นที่ของแต่ละจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว และจากการสำรวจเบื้องต้นพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายไปแล้ว ทั้งสิ้น 6 จังหวัด จำนวน 37 อำเภอ ได้แก่ จ.สงขลา 9 อำเภอ นราธิวาส 11 อำเภอ พัทลุง 4 อำเภอ สตูล 3 อำเภอ ปัตตานี 6 อำเภอ และยะลา 4 อำเภอ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ด้วยการการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจำนวน 77 เครื่อง และสนับสนุนพืชอาหารสัตว์ 101.46 ตัน แร่ธาตุ และเวชภัณฑ์ 198 ชุด และดูแลสุขภาพสัตว์ 18,924 ตัว
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมนราฯ คลี่คลายสรุปเสียหายกว่า 50 ล้าน [ ไทยรัฐ : 26 พ.ย. 52 ]
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (26 พ.ย.) ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า ล่าสุด สถานการณ์ภาพรวมเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ยกเว้นบ้านเรือนประชาชนประมาณ 600 ครัวเรือนที่สร้างอยู่ตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ครอบคลุมพื้นที่ อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก และอ.ตากใบซึ่งยังถูกน้ำท่วมขังระดับน้ำเฉลี่ย 80-100 เซนติเมตร
ด้านศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.นราธิวาส สรุปความเสียหายจากน้ำท่วมต่อทรัพย์สินของประชาชนและสิ่งสาธารณูปโภคคิดเป็นเงิน 57,217,209 ล้านบาท
--------------------------------------------------------------------------------------
ปัตตานีประกาศพื้นที่ถูกน้ำท่วมเพิ่มอีก 2 อำเภอ-ร.ร.ปิดอีก 5 โรง [ ผู้จัดการออนไลน์ : 26 พ.ย. 52 ]
![](floodsouth-nov09-2/news-manager-26.gif)
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยล่าสุดสำนักงานบรรเทาและป้องกันสาธารณภัยได้ประกาศพื้นที่เกิดน้ำท่วมเพิ่มอีก 2 อำเภอ รวมมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมรวมแล้ว 11 อำเภอ และหลังฝนหยุดตกติดต่อกัน 2 วัน พื้นที่บางแห่งระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว เว้นพื้นที่อำเภอไม้แก่น สายบุรี มายอ ที่ยังคงรับน้ำเอ่อล้นที่มาจากอำเภอสุไหงโกลก จ.นราธิวาส รวมทั้ง 3 ตำบล ของ อ.เมืองปัตตานี คือ ตำบลปะกาฮารัง ต.บาราเฮะ ต.ตะลุโบะ ที่ยังคงต้องรับน้ำที่เอ่อล้นจากแม่น้ำปัตตานี จึงทำให้บ้านเรือนที่อยู่ใกล้สองฝังแม่น้ำยังคงมีระดับน้ำท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 1 เมตร และหากในช่วง 2-3 วันนี้ไม่มีฝนตกลงมา คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีโรงเรียนจำนวน 5 แห่งในพื้นที่ถูกน้ำท่วมได้ประกาศหยุดเรียนและจะเปิดในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เนืองจากอุปกรณ์การเรียนได้รับความเสียหาย รวมทั้งเห็นใจบรรดาผู้ปกครองที่ถูกน้ำท่วมบ้านและยังต้องมาคอยรับส่งบุตรหลานอีกด้วย ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ ด.ช.อาริฟ แวมามุ อายุ 14 ปี ขณะเล่นน้ำกับเพื่อน 4 คน บริเวณคลองชลประทาน ม.1 บ้านปูโป๊ะ ต.ตาแกะ อ.ยะหริ่ง ซึ่งสภาพน้ำแรงไหลเชี่ยว น้ำได้พัดพา เด็กชายอาริฟ จมหายไป เจ้าหน้าที่พร้อมประชาชนช่วยกันงมหาศพหลายชั่วโมง พบศพห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม. ขณะนี้จังหวัดปัตตานี นายธีระเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เตรียมนำเงินช่วยเหลือ ครอบครัวที่เสียชีวิตแล้ว
ด้าน นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ออกหนังสือเวียนแจ้งเตือนทุกพื้นที่เกิดเหตุน้ำท่วมและมีแม่น้ำลำคลองไหลผ่านให้มีการจัดเวรยามเฝ้าระวังในแต่ละหมู่บ้านในช่วงนี้ หลังเขื่อนบางลาง จ.ยะลา และเขื่อนชลประธาน จ.ปัตตานี แจ้งมีการเปิดประดูเขื่อนเพื่อระบายน้ำเตรียมรองรับน้ำฝนที่จะตกหนักในประเทศมาเลเซียในช่วงนี้ด้วย
-------------------------------------------------------------------------------------- |