ข่าวจากหนังสือพิมพ์
--------------------------------------------------------------------------------------
คลื่นยักษ์ถล่มชุมพรซัดบ้านพังยับร่วม 15 หลัง [ ไทยรัฐ : 4 พ.ย. 52 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันนี้ (4 พ.ย.) นายเอกรัฐ หลีเส็น นายอำเภอละแม จ.ชุมพร พร้อมด้วยนายฉัตรชัย พะลัง รองนายก อบจ.ชุมพร และคณะ ไปตรวจสอบเหตุคลื่นขนาดใหญ่ซัดถล่มชายฝั่งพื้นที่บ้าน ม.1 และ ม.5 ต.ละแม ม. 6 และ ม. 9 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร หลังมีฝนตกหนักและลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงเกือบตลอดทั้งวันนี้
เบื้องต้นพบมีบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายเกือบทั้งหลัง 15 หลัง นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่การเกษตรเสียหายอีกจำนวนมาก แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากนั้น คณะของนายอำเภอละแมจึงประสานงานกำลังตำรวจ อาสาสมัครและหน่วยกู้ภัยศิรินทร์ช่วยชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สิน และอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่พื้นที่เสี่ยงภัยริมทะเลประมาณ 500 คนไปอยู่ยังที่ปลอดภัย
ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่า จากอิทธิพลของพายุยังทำให้น้ำป่าไหลหลากทะลักมาจากภูเขาชะมดจนสะพานคอนกรีตข้ามคลองห้วยทรายขาว บริเวณถนนเขาชะมด – เขาหลาง ม.2 ต.ทุ่งคาวัด อ.ละแม จ.ชุมพร ถูกกัด เซาะจนคอสะพานขาดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ราษฎรในพื้นที่จำนวนมากได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ ตาม คณะของนายอำเภอละแมได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการ จ.ชุม พร รับทราบแล้ว
ล่าสุด มีรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนน้ำท่วมและลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรง พร้อมเตือนบางพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.ลานสะกา ร่อนพิบูลย์ สิชล และพรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราชในค่ำวันนี้
--------------------------------------------------------------------------------------
ฝนถล่มนราธิวาส สุไหงปาดีจมบาดาล [ เดลินิวส์ : 5 พ.ย. 52 ]
หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องเป็นเวลา 2 วัน ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุด ทำให้พื้นที่ อ.สุไหงปาดี เส้นทางระหว่างหมู่ 5 บ้านตาเซะเหนือ หมู่ 6 บ้านตาเซะใต้ ถึง หมู่ 7 บ้านปอเนาะ ต.ปะลุรู เกิดน้ำท่วมถนนเป็นระยะทางกว่า 600 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้
ขณะที่ นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงปาดี ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหาร และ อส.ในพื้นที่ จัดรถบรรทุกไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อเตรียมขนย้ายนักเรียนกลับจากโรงเรียนในพื้นที่ต่าง ๆ
ส่วนที่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล หมู่ 8 บ้านละหาน อ.สุไหงปาดี ปริมาณน้ำได้เข้าท่วมฐานปฏิบัติการ จนต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของที่จำเป็นออกมาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปริมาณน้ำได้ท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ หากฝนยังคงตกหนักตลอดทั้งคืน คาดว่า ต้องมีการอพยพเจ้าหน้าที่ออกไปอาศัยยังพื้นที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว
ด้าน ริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังได้มีการติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก เตรียมจัดเก็บสัมภาระให้พร้อมสำหรับการอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ที่เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จัดเตรียมไว้ด้วย
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำเทือกเขาบรรทัด ท่วมบ้านเรือน ชาวบ้าน 100 หลัง [ ไทยรัฐ : 5 พ.ย. 52 ]
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 5 พ.ย. นายสมพร สถิตย์ภูมิ นายอำเภอรัษฎา นำกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอำเภอรัษฎา กว่า 50 คน ออกช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำบนเทือกเขาบรรทัด และน้ำจากอ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ไหลบ่าลงสู่ลำคลองในพื้นที่ อ.รัษฎา ทำให้เกิดภาวะน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตรที่อยู่บริเวณริมสองฝั่งคลอง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ชาวอ.รัษฎาที่อาศัยอยู่เขตเทศบาลตำบลคลองปาง ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 50 ครัวเรือน และประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ องค์การบริการส่วนตำบล (อบต.)คลองปาง หมู่ที่ 5 มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 4 ครัวเรือน และ หมู่ที่ 6 จำนวน 50 ครัวเรือน รวมทั้งพื้นที่ ม.2 ต.หนองบัว ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 20 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่ ม.7 ต.หนองบัว ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 60 ครัวเรือน รวมทั้งหมดจำนวน 184 ครัวเรือน สำหรับพื้นที่การสัญจรบางเส้นทางมีน้ำท่วมเอ่อล้นถนนทำให้ยากจนการสัญจรไปมา ส่วนทางการเกษตร โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยางพารา ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมขังพื้นที่สวนยางพารา จึงทำให้ต้องขาดรายได้ ความเสียหายทั้งหมดเบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจากการสำรวจพบว่าระดับน้ำบางแห่งเริ่มลดระดับลง เนื่องจากฝนได้หยุดตกมาตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน นายสมพร ได้สั่งการให้เทศบาลตำบลคลองปาง เร่งนำรถแบกโฮมาขุดลอกคลอง และสั่งให้กำจัดวัชพืชที่ขึ้นขวางทางน้ำ ในคลองห้วยเนียง ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง เพื่อเป็นการช่วยระบายน้ำออกจากเขตเทศบาลตำบลคลองปาง และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากเกรงว่าปริมาณน้ำจากพื้นที่อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จะไหลบ่าลงมาเพิ่มอีก อาจทำให้ระดับน้ำที่เริ่มลดลงกลับเพิ่มสูงขึ้นอีก ดังนั้น อำเภอรัษฎาจึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เผ้าระวัง พร้อมอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ความช่วยเหลือ ในการขนย้ายสิ่งของและอพยพประชาชนได้อย่างทันท่วงที หากเกิดภาวะน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่อ.รัษฎา
--------------------------------------------------------------------------------------
พายุถล่มภาคใต้อ่วมพัทลุงสังเวยชีวิตแล้ว 2 ศพ [ ไทยรัฐ : 6 พ.ย. 52 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 พ.ย.) มีฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง น้ำท่วมฉับพลันและมีคลื่นทะเลสูงในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงชายฝั่ง บ้านหินกบ ม. 6 ต.ชุมพร อ.ปะทิว จ.ชุมพรคลื่นได้ซัดกระหน่ำเขื่อนท่าจอดเรือประมงยาวกว่า 150 เมตรพังเสียหาย และทำให้มีเรือประมงขนาดเล็กถูกคลื่นซัดขึ้นไปอยู่บนชายหาดได้รับความเสียหายหลายลำ นอกจากนั้น เรือประมงในพื้นที่กว่า 5,000 ลำ ไม่สามารถออกทะเลได้ โดยต้องกระจายหาที่จอดตามท่าเรือต่างๆ
ที่ จ.ตรัง ตลอดทั้งวันนี้ ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ อ.รัษฎา ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมหนักที่สุดในจังหวัด ส่วน อ.กันตัง น้ำไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของ ต.ควนเมา ต.หนองบัว และ ต.คลองปาง รวมทั้งในเขตเทศบาลตำบลคลองปาง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ส่วนที่ จ.พัทลุงกระแสน้ำจากเทือกเขาบรรทัดไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในท้องที่ อ.ตะโหมด อ.ป่าบอน อ.ควนขนุน อ.กงหรา และ อ.เมือง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ ด.ช.วราเมศ วรรณมาโส อายุ 1 ปี 4 เดือน อยู่บ้านเลขที่ 145 ม.3 ต.โคกทราย อ.ป่าบอน และนายชาญวิทย์ ปานศิริ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/1 ม.3 ต.นาโหนด อ.เมือง
ขณะที่ จ.นครศรีธรรมราช รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก เป็นตัวแทนพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภามอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งหลังจากฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน จ.นครศรีธรรมราช ได้ประกาศให้พื้นที่ 17 อำเภอจาก 23 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 24 ล้านบาท
--------------------------------------------------------------------------------------
ประกาศภัยพิบัติ 6อำเภอ ยะลาอ่วมน้ำท่วม [ ไทยรัฐ : 6 พ.ย. 52 ]
จากกรณีที่ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน ในพื้นที่จังหวัดยะลา ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ในหลายพื้นที่ ประกอบด้วย อำเภอยะหา จำนวน 6 ตำบล 13 หมู่บ้าน ทำให้ถนนทางเข้าหมู่บ้าน น้ำท่วมสูงรถยนต์ทุกชนิด ไม่สามารถผ่านไปมาได้ อำเภอกรงปินัง จำนวน 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน อำเภอธารโตจำนวน 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน อำเภอรามัน จำนวน 3 ตำบล 1 หมู่บ้าน อำเภอบันนังสตา จำนวน 1 ตำบล ได้รับความเสียหายคอสะพานขาด และ อำเภอเมืองยะลา จำนวน 5 ตำบล 6 หมู่บ้าน คอสะพานขาดจำนวน 1 แห่ง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนนับพันคน
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากสภาวะฝนตกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลา 2 วัน ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 18 ตำบล 32 หมู่บ้าน และ มีคอสะพานขาด บนถนนเส้นทางสาย 410 ยะลา - เบตง ในพื้นที่ ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้และในพื้นที่ ต.บาโงซิแน อ.ยะหา กำแพงโรงเรียนบ้านบาโงซิแน พังลงมาเป็นแนวยาวได้รับความเสียหาย และบางเส้นทางรถยนต์ก็ไม่สามารถผ่านไปมาได้ ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดยะลาได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว อย่างไรก็ตาม รอง ผวจ.ยะลา ได้สั่งให้นายอำเภอทุกอำเภอได้ดูแลประชาชนและตั้งศูนย์ปฏิบัติการในแต่ละอำเภอเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน และทางอำเภอสามารถที่จะเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนได้ทันทีอำเภอละ 1 ล้านบาท
นายอภินันท์ กล่าวอีกว่า โรงเรียนกว่า 30 โรงเรียน ทั้งอำเภอต้องหยุดทำการสอนไปโดยปริยาย และมีรายงานว่า ที่ ร.ร.บ้านบาโงซิแน หมู่2 ต.บาโงซิแน กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากได้พัดกำแพงรั้วจนเกิดพังทลายลงไปทั้งแถบได้รับ ความเสียหายเป็นแนวยาวกว่า 10 เมตร ส่วนพื้นที่ที่น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรในหลายหมู่บ้าน ทางอำเภอได้ส่งเรือท้องแบนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อส. ออกไปให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนแล้ว
ขณะที่ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปตรวจราชการที่ อ.เบตง ในช่วงฝนตกหนัก ได้นำคณะเดินทางกลับผ่าน อ.บันนังสตา จึงได้เข้าไปตรวจพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมที่บ้านตะบิงติงงี หมู่ 1 ต.ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นเส้นทางผ่าน มีราษฎรประสบปัญหาหลายครัวเรือน โดยเฉพาะบนถนนเส้นทางหลัก ทางหลวงสาย 410 (ยะลา-เบตง)มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก พัดผ่านถนนจนรถเล็กไม่สามารถแล่นไปมาได้ จึงได้สั่งการให้นายเมธี กาญจนภูวะ นายอำเภอบันนังสตา ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเรือท้องแบนเข้าไปให้ความช่วยเหลือบ้านเรือนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน พร้อมให้เตรียมรถยนต์ไปช่วยทำการขนย้ายสิ่งของชาวบ้านไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยเร่งด่วนต่อไปแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. ได้เกิดเหตุดินภูเขาถล่มทับบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่บ้านตลาดนิคม หมู่ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา เบื้องตันทราบว่า เป็นบ้านของนายปู ไม่ทราบชื่อจริง และนามสกุล ได้เสียชีวิต พร้อมภรรยาและลูกชาย วัยไล่เลี่ยกัน อีก 2 คน รวมทั้งหมด 4 คน
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา อยู่ระหว่างตรวจการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ พื้นที่ใกล้เคียง ได้รีบเดินทางเข้าไปในบริเวณที่ทำการนิคมพัฒนาภาคใต้ พื้นที่เกิดเหตุเบื้องต้นได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุรวมเป็นเงินจำนวน 125,000 บาท ต่อไปแล้ว
--------------------------------------------------------------------------------------
สงขลา-สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่รอบนอกยังวิกฤต [ ครอบครัวข่าว : 7 พ.ย. 52 ]
ศูนย์บรรเทาสาธารณะภัย เขต 12 สงขลา สรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดในการดูแลรับผิดชอบ ระหว่างวันที่ 4-5 พ.ย.52 เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ในเขต จังหวัดสงขลา ยะลา นราธิวาส รวมทั้งสิ้น 22 อำเภอ 76 ตำบล 144 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อนได้รับผลกระทบ 4,652 ครัวเรือน จังหวัดสงขลา มี 8 อำเภอ เมือง ระโนด สิงหนคร จะนะ สะบ้าย้อย หาดใหญ่ รัตภูมิ นาทวี
ขณะที่เทศบาลนครหาดใหญ่ ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 7 ให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไปแม้ฝนในพื้นที่หยุดตกแล้วก็ตาม ส่วนพื้นที่รอบนอก โดยเฉพาะที่หมู่ 1 บ้านเนินเขา หมู่ 2 หมู่บ้านลัดดานิเวศน์ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังมีปริมาณน้ำท่วมอยู่ในระดับ 50 ซ.ม.- 1 เมตร คาดว่า หากไม่มีฝนตกหนักลงมาซ้ำ สถานการณ์น่าจะคลี่คลายภายในช่วงบ่าย หรือค่ำนี้
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศ เตือน ฉบับที่ 8 เรื่อง คลื่น คลื่นลมแรงในอ่าวไทย และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ประกอบกับ ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณ ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงมามีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่จะเกิดขึ้น
   
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ท่วมต่อเนื่อง ที่พัทลุง [ ไทยรัฐ : 7 พ.ย. 52 ]
น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ยังคงไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.กงหรา อ.ตะโหมด อ.ศรีนครินทร์ อ.ศรีบรรพต อ.ป่าบอน และ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ตะโหมด ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด ต.ชะรัด อ.กงหรา ต.นาท่อม ต.พญาขัน ต.ชัยบุรี ต.โคกชะงาย ต.เขาเจียก ต.นาโหนด อ. เมืองพัทลุง น้ำป่าได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ได้รับความเดือดร้อนแล้ว กว่า 2,000 เรือน ล่าสุดนายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ประกาศให้พื้นที่จังหวัดพัทลุง เป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติฉุกเฉินทุกอำเภอ พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน
--------------------------------------------------------------------------------------
ผู้ว่าฯสตูล ช่วยราษฎร 5 อำเภอน้ำท่วม [ ไทยรัฐ : 7 พ.ย. 52 ]
นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าฯ จ.สตูล ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล ขณะที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันอย่างหนักใน 5 อำเภอ ของ จ.สตูล อ.ควนโดน อ.ละงู อ.ทุ่งหว้า อ.มะนัง และ อ.ควนกาหลง บ้านเรือนราษฎร ถูกน้ำพัดพาและน้ำเข้าท่วมขังจำนวนกว่า 1,000 หลังคาเรือน ไร่นาเสียหายจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ องค์การบริหารส่วนตำบล ได้เตรียมอพพยชาวบ้านในพื้นที่ ให้ไปอาศัยในที่ปลอดภัย พร้อมเร่งนำถุงยังชีพเข้าแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม นายอดินันท์ ปากบารา ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา จ.สตูล ได้สั่งการให้ทุกโรงเรียนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด
--------------------------------------------------------------------------------------
สถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ [ กรมชลประทาน : 9 พ.ย. 52 ]
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ล่าสุด(9 พ.ย. 52) ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ดังนี้ จ.นครศรีธรรมราช มีพื้นที่น้ำท่วม 9 อำเภอ ได้แก่ ปากพนัง หัวไทร ลานสกา ร่อนพิบูลย์ สิชล ท่าศาลา พิบูน พระหรหม และจุฬาภรณ์ จ.สุราษฎร์ธานี มีพื้นที่น้ำท่วม 8 อำเภอ ได้แก่ ท่าชนะ ดอนสัก ไชยา ชัยบุรี กาญจนดิษฐ์ วิภาวดี ท่าฉาง และพุนพิน สถานการณ์ฝนลดน้อยลง ส่งผลให้แนวโน้มสถานการณ์น้ำเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จ.พัทลุง มีพื้นที่น้ำท่วม 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง ป่าบอน ป่าพะยอม ควนขนุน เขาชัยสน บางแก้ว และปากพยูน สถานการณ์ฝนเริ่มตกน้อยลง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์นี้ จ.สงขลา มีพื้นที่น้ำท่วม 5 อำเภอ ได้แก่ สะบ้าย้อย นาทวี หาดใหญ่ คลองหอยใข่ง และบางกล่ำ จ.สตูล มีพื้นที่น้ำท่วม 3 อำเภอ ได้แก่ มะนัง ละงู และควนกาหลง สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำคลองดุสนและคลองท่าแพ เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนคลองละงู คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้ จ.นราธิวาส มีพื้นที่น้ำท่วม 12 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง ศรีสาคร จะแนะ บาเจาะ ตากใบ ระแงะ เจาะไอร้อง แว้ง สุคิริน รือเสาะ สุไหงโก-ลก และสุไหงปาดี สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำสายบุรี เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนแม่น้ำบางนรา คาดว่าหากไม่มีฝนตกหนักลงมา จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 วัน และที่แม่น้ำโก-ลก ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่งในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อยู่ 1.30 เมตร คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3-5 วัน จ.ยะลา มีพื้นที่น้ำท่วม 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง ยะหา กรงปินัง ธารโต รามัน บันนังสะตา กาบัง และเบตง จ.ปัตตานี มีพื้นที่น้ำท่วม 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง แม่ลาน ไม้แก่น ยะรัง กะพ้อ หนองจิก ทุ่งยางแดง และสายบุรี
สำหรับการช่วยเหลือ นั้น กรมชลประทานได้ สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อเร่งระบายน้ำในแต่ละพื้นที่แล้ว ดังนี้ จ.นราธิวาส จำนวน 12 เครื่อง จ.สงขลา จำนวน 38 เครื่อง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 6 เครื่อง และจ.ยะลา จำนวน 8 เครื่อง รวมทั้งหมด 64 เครื่อง
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมตรังสูญกว่า15ล. ปัตตานียังอ่วม [ เดลินิวส์ : 9 พ.ย. 52 ]
วันนี้( 9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำที่หมู่ 6 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรสูงกว่า 2 เมตร เนื่องจากอยู่ในที่ราบลุ่มและเป็นพื้นที่รับน้ำจากเทือกเขาบรรทัดและอำเภอนาโยง ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ถ้ำเขาช้างหาย หมู่ที่ 6 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง ยังคงถูกน้ำท่วมขังเป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ โดยที่ ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง มีน้ำท่วมขังจำนวน 9 หมู่บ้านกว่า 160 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องลงขันกันทำอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหมู่บ้านมาเป็นวันที่ 4 แล้ว โดยมีองค์การบริหารส่วน จ.ตรัง นำข้าวสารอาหารแห้งไปมอบให้เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว ส่วนชุมชนควนขัน และชุมชนควนขนุนในเขตเทศบาลนครตรัง ระดับน้ำยังท่วมสูงกว่า 70 เซนติเมตร หลายหน่วยงานได้นำสิ่งของไปมอบให้ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมใน ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง แล้วกว่า 300 ชุด
นายโส เหมกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง ได้เผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดตรังว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มเข้าภาวะปกติแล้วบางพื้นที่ คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาอีกหรือน้ำทะเลไม่หนุน ภายใน วันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ระดับน้ำคงจะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรังได้ทำการสรุปพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม มีจำนวน 6 อำเภอ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ซึ่งน้ำเหนือจาก จ.ยะลา ยังคงไหลหลากลงพื้นที่ ประกอบกับเมื่อคืนที่ผ่านมาทางเขื่อนชลประทานในจังหวัด ได้เปิดประตูน้ำทั้ง 7 บาน เพื่อระบายน้ำเหนือเขื่อนที่ไหลมาจาก จ.ยะลา จนล้นสปริงเวย์ โดยมีอัตราการไหลของน้ำผ่านเขื่อนขณะนี้อยู่ที่ 1,300 ลูกบาตรเมตร / วินาที ลงสู่แม่น้ำปัตตานี อย่างรวดเร็ว ทำให้ตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา น้ำในแม่น้ำปัตตานี มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นอำเภอรอบนอก ต.ปะกาฮารัง ต.บาราเฮาะ ถนนทุกเส้นทางถูกตัดขาดจากภายนอกต้องใช้เรือเป็นพาหนะ ระดับน้ำสูง 1.20 เมตร ชาวบ้าน 1,200 ครัวเรือนเดือดร้อนบ้านจมอยู่ในน้ำ
ขณะที่พันโทชาคริต สนิทพ่วง ผบ.ฉก. 23 พร้อมด้วยกำลังทหาร และฝ่ายตำรวจและปกครอง ได้นำเรือ ออกไปช่วยเหลือช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ ม.8 บ้านปรีดอ ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมทั้งนำแพทย์ทหารออกไปช่วยเหลือรักษาผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้ความช่วยเหลือ ด้านนายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะได้เดินทางมอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปัตตานี 6 ตำบล ที่หอประชุมอำเภอหนองจิก โดยมีนายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้ความช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย เข้ารับพระราชทานถุงยังชีพ ต่างปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีต่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด ในยามที่ได้รับความเดือดร้อน.
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมตรังขยายวงหลังฝนตกต่อเนื่อง [ ไทยรัฐ : 9 พ.ย. 52 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (8 พ.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดตรัง หลังจากเกิดปรากฎการณ์พายุฝนตกกระหน่ำลงมาอย่าง ต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน ส่งผลให้ปริมาณน้ำขยายออกสู่วงกว้างไหลบ่าเข้าท่วมทะลักบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ โรงเรียน พื้นที่การเกษตร อาทิ สวนผลไม้ สวนยางพารา และสัตว์เลี้ยง ได้รับผลกระทบอย่างหนักในพื้นที่ 6 อำเภอ และจนถึงขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมยังน่าเป็นห่วง ทางจังหวัดได้สั่งการเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามดูปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้นมา อีกตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมภายในวัดพระงาม ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้ ระดับน้ำล่าสุด 60-90 ซม. เช่นเดียวกับที่หน้าวัดควนขัน และโรงเรียนเทศบาลควนขัน ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง มีระดับน้ำสูงประมาณ 70 ซม.ถึงประมาณ 1 เมตร โดยเมื่อในช่วงเช้าที่ผ่านมาวานนี้ พระภายในวัดแห่งนี้ต้องนั่งเรือออกมาบินฑบาตร โดยล่าสุดนายชาลี กางอิ่ม นายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมคณะได้นำถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรค และน้ำดื่ม ไปมอบเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเดียวกัน นายสัญญา ศรีวิเชียร รองนายกเทศมนตรีนครตรัง ฝ่ายการศึกษา ได้ประกาศหยุดโรงเรียนเทศบาลวัดควนขันแล้ว 1วัน เพื่อรอดูสถานการณ์น้ำท่วมส่วนพื้นที่ 2 ชุมชนในเขตเทศบาลนครตรัง คือ พื้นที่ชุมชนควนขนุน และชุมชนควนขัน ประชาชนกว่า 350 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบกระแสน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้าน ตั้งแต่ช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา
นายโสเหมกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง กล่าวว่า ทางจังหวัดตรังได้ประกาศให้พื้นที่ทั้งหมด 6 อำเภอ 23 ตำบล 119 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว ประกอบด้วย อ.รัษฎา มีพื้นที่ประสบภัย 4 ตำบล 13 หมู่บ้าน อ.วังวิเศษ จำนวน 5 ตำบล 33 หมู่บ้าน อ.ห้วยยอด จำนวน 6 ตำบล 25 หมู่บ้าน อ.นาโยง 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน อ.เมืองตรัง จำนวน 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน และ 1 เทศบาล อ.ปะเหลีบน จำนวน 3 ตำบล 33 หมู่บ้าน ทั้งนี้ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีประชาชน ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมไม่น้อยกว่า 5,000 ครัวเรือน
หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง กล่าวด้วยว่า จากที่ได้รับรายงาน ทราบว่าล่าสุดบางพื้น ที่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มดีขึ้นเนื่องจากฝนหยุดตกติด กันหลายชั่วโมง ทำให้ระดับน้ำลดลงมาบ้างแต่ก็ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังต้องเฝ้าระวังอย่าง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 4 อำเภอ ที่ติดกับแม่น้ำตรัง คือ อ.รัษฎา อ.วังวิเศษ อ.ห้วยยอด และ อ.เมืองตรัง เนื่องจากน้ำจากพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ยังคงไหลทะลักเข้ามายังพื้นที่ ส่วนทางด้านพื้นที่ที่อยู่ติดกับเทือกเขาบรรทัด ใน 3 อำเภอ คือ อ.ปะเหลียน อ.ย่านตาขาว และอ.นาโยง ยังต้องเฝ้าระวังภาวะเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม เนื่องจากในอดีตก็เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้สั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในทุกอำเภอเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ของน้ำ อย่างใกล้ชิด
--------------------------------------------------------------------------------------
ยะลา-สรุปสถานการณ์น้ำท่วมเบื้องต้นราษฏรเดือดร้อนกว่า 3 หมื่นคน [ ครอบครัวข่าว : 9 พ.ย. 52 ]
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดยะลา จนเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดยะลา ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลาว่า พื้นที่ประสบเหตุอุทกภัย มีจำนวนทั้งสิ้น 8 อำเภอ 55 ตำบล 282 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 9,692 ครัวเรือน จำนวน 34,173 คน มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม จำนวน 6 ราย และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย จำนวน 8,143 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา จำนวน 806 บ่อ สัตว์ปีก จำนวน 5,963 ตัว และสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหายอีก 1,674 ตัว ความเสียหายด้านสาธารณประโยชน์นั้นพบว่า บ้านเรือนราษฎรเสียหายบางส่วน 1,375 หลัง เสียหายทั้งหลัง 17 หลัง สะพานเสียหาย 59 แห่ง ถนน 362 สาย ท่อระบายน้ำ 13 แห่ง โรงเรียนเสียหาย 9 หลัง วัด และมัสยิดเสียหาย 7 แห่ง สำหรับด้านการให้ความช่วยเหลือนั้น ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาได้อนุมัติเงินงบประมาณให้อำเภอละ 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชน หากไม่เพียงพอทางจังหวัดก็จะอนุมัติเงินเพิ่มให้อีก สำหรับประมาณการด้านความเสียหายนั้น ในขณะนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ และจัดทำงบประมาณในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ยังได้มีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกดูแลสุขภาพของประชาชนทุกพื้นที่แล้ว
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ยังกล่าวอีกว่า จากการติดตามรายงานสภาวะอากาศพบว่า ในช่วงนี้ฝนจะหยุดตกในพื้นที่จังหวัดยะลาระยะหนึ่ง และจะมีล่องความกดอากาศต่ำเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อีกครั้งประมาณ วันที่ 12 พฤศจิกายน นี้ จึงขอเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระลอกต่อไปด้วย
--------------------------------------------------------------------------------------
สภาวะน้ำท่วม ในพื้นที่ยะลา เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ [ ไทยรัฐ : 10 พ.ย. 52 ]
วันนี้ ( 10 พ.ย. 52) บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ จ.ยะลา มีท้องฟ้าโปร่งใสอากาศดีไม่มีฝนตกลงมา ประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมได้เริ่มเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเรือนส่วน สถานศึกษาโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมขังในวันนี้ครูและนักเรียนต่างก็ได้ช่วย ทำความสะอาดเช่นกันโดยมีรถน้ำจากเทศบาลนครยะลาและจากองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่นสนับสนุนรถน้ำและร่วมทำความสะอาด
ด้านนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รอง ผวจ.ยะลา กล่าวว่า ทางจังหวัดได้เร่งรัดให้ทางเกษตรจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดให้ลงไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาจะสนับสนุนงบให้กับนายอำเภอแต่ละอำเภอจำนวน 1ล้านบาท ในการนำไปช่วยเหลือราษฏรที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้แล้ว
นอกจากนี้ รอง ผวจ.ยะลาได้สั่งการไปยังสาธารณสุขจังหวัด ให้ออกไปแจกจ่ายยาสามัญประจำบ้านแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและถูกน้ำ ท่วมขังอยู่เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดโรคที่มากับน้ำได้ในช่วงนี้พร้อมกัน นี้ได้ขอให้ทางจังหวัดและอำเภอได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปทำความสะอาดล้างบ่อน้ำ ให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคที่มากับน้ำดังกล่าว
--------------------------------------------------------------------------------------
ปัตตานี-น้ำท่วมยังวิกฤต [ ครอบครัวข่าว : 10 พ.ย. 52 ]
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางจังหวัดแจ้งเตือนว่าเขื่อนปัตตานียังต้องเปิดประตูกั้นน้ำทั้ง 7 บาน เพื่อช่วยระบายน้ำจากพื้นที่ จ.ยะลา ให้ไหลลงสู่อ่าวไทย จึงเป็นเหตุทำให้น้ำหลากลงสู่แม่น้ำปัตตานี ที่กำลังเอ่อล้นตลิ่งอยู่แล้วไหลทะลักขยายวงกว้างเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 4 อำเภอใต้เขื่อนคือ อ.ยะรัง เพิ่มเป็น 6 ตำบล แม่ลาน 2 ตำบล หนองจิก 9 ตำบล โดยบ้านเรือนประชาชนที่อยู่หลังเขื่อน ซึ่งระดับน้ำที่สูงอยู่แล้วก็จะสูงเพิ่มขึ้นอีก 40 ซม. ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยขณะนี้น้ำมีปริมาณจุดสูงสุดได้ผ่านพื้นที่ ตำบลยาบี อ.หนองจิก และได้ไหลเจิ่งนองเข้าเขตพื้นที่ อ.เมือง ตั้งแต่เมื่อคืน เพิ่มเป็น 10 ตำบลรวมไปถึงเขตเทศบาลเมืองด้วย
ประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ต้องขนสิ่งของออกมาอาศัยหลับนอนอยู่บนถนนสายหลักมากขึ้น จึงทำให้เต็นท์ที่ทาง อบต.ในแต่ละท้องที่เตรียมไว้ให้ไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ซึ่งบางคนต้องขนย้ายสิ่งของไปเก็บไว้ใต้สะพานสูงที่น้ำท่วมไม่ถึงเพื่อหลบแดด และหลับนอนไปจนกว่าทางหน่วยงานราชการจะมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม
ส่วนโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม 10 แห่ง หยุดการเรียนการสอนโดยไม่มีกำหนด หลังระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร และหากน้ำยังคงเพิ่มขึ้นคาดว่าจะปิดเพิ่มอีกหลายพื้นที่ ซึ่งมีเพียงครูเท่านั้นที่เดินทางมาเก็บเอกสาร และอุปกรณ์การเรียน การสอน ป้องกันการเสียหาย โดยมีกำลังทหารนำเรือมาคอยดูแลพร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในขณะนี้มี 8 อำเภอ ลดลงเหลือ 26 ตำบล 88 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 37 หลัง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเพิ่มเป็น 9,279 ครัวเรือน 27,027 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายเกือบ 10,000 ไร่
-------------------------------------------------------------------------------------- |