ข่าวจากหนังสือพิมพ์

--------------------------------------------------------------------------------------
ฝนถล่มกรุง ถ.ศรีนครินทร์อ่วม ท่วมถึงหน้าแข้ง [ ข่าวสด : 13 ต.ค. 52 ]

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมบริเวณพื้นที่เขตบางนา จากบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล บางนา ถ.บางนา - ตราดขาออก จากนั้นขึ้นรถกระบะตรวจสภาพน้ำท่วมบริเวณ ถ.ศรีนครินทร์จากหน้าวัดศรีเอี่ยมถึงหน้าห้างซีคอน สแควร์ โดยระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง ประชาชนต่างเดินลุยน้ำท่วมออกจากที่พักด้วยความยากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำสูงถึงระดับเข่า นอกจากนี้ยังมีรถยนต์จอดเสียบนสะพานข้ามคลองต่างๆ บน ถ.ศรีนครินทร์จำนวนมาก

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวภายหลังว่า รู้สึกเสียใจมากและกราบขออภัยชาว กทม.ที่เกิดฝนตกหนักจนไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน โดยฝนที่ตกต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ มีปริมาณฝนสะสมที่วัดได้ 148 มิลลิเมตรจนทำให้ ถ.ศรีนครินทร์ และ ถ.บางนา - ตราดเกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งกทม.จะเร่งระบายน้ำลงคลองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยสถานีสูบน้ำคลองตาช้างจะสูบน้ำลงคลองประเวศ ส่วนสถานีสูบน้ำคลองขวางสูบน้ำลงบึงหนองบอน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง คาดว่าจะกลับเข้าสู่สภาพปกติในช่วงเย็นของวันนี้ สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว กทม.จะแก้ไขอย่างเป็นระบบ โดยจะเร่งรัดโครงการก่อสร้างปรับปรุง ถ.ศรีนครินทร์ จากบริเวณแยก ถ.พัฒนาการถึง ถ.สุขุมวิท 103 ซึ่งจะมีการปรับปรุงถนนและทำท่อระบายน้ำให้มีมาตรฐาน หลังจากที่ กทม.ได้รับโอนพื้นที่จากกรมทางหลวงชนบทในฐานะหน่วยงานที่ก่อสร้าง ถ.ศรีนครินทร์ แต่เนื่องจากที่ผ่านมากรมทางหลวงชนบทสร้างเพียงถนนอย่างเดียวไม่ได้ทำท่อระบายน้ำด้วย ทำให้ ถ.ศรีนครินทร์ทั้งเส้นไม่สามารถระบายน้ำลงระบบท่อได้ พร้อมกันนี้ตนยังได้สั่งการให้สำนักการโยธา (สนย.) สำรวจว่ามีถนนเส้นใดบ้างที่กรมทางหลวงชนบทสร้างไว้ และมีกี่เส้นทางที่ไม่ได้ทำท่อระบายน้ำไว้ด้วย เพื่อที่ กทม.จะได้ประสานไปยังกรมทางหลวงชนบทเพื่อขอรับโอนมาให้ กทม.รับผิดชอบ และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเองในกรณีที่กรมทางหลวงไม่มีงบประมาณดำเนินการหรือรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งตนพร้อมที่จะหางบประมาณมาดำเนินการเอง

ด้านนายชาตินัย เนาวภูต ผอ.สำนักการโยธา (สนย.) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างปรับปรุง ถ.ศรีนครินทร์ จากบริเวณแยก ถ.พัฒนาการถึง ถ.สุขุมวิท 103 งบประมาณ 800 ล้านบาท เป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ 16 โครงการที่ดำเนินการตั้งแต่ปี 48 ที่ผ่านมา แต่มีปัญหาถูกตรวจสอบเรื่องการทุจริตจนต้องล้มประมูลไป จากนั้น สนย.ได้เปิดประกวดราคาไปแล้วในปี 51 และสุดท้ายต้องยกเลิกสัญญาตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือน มิ.ย.52 ที่มีมติเห็นชอบให้ช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพก่อสร้างที่ทำสัญญากับทางราชการ และได้รับผลกระทบจากการปรับราคาของวัสดุก่อสร้างและค่าขนส่ง ซึ่งล่าสุดได้รับการอนุมัติโครงการแล้ว เนื่องจากงบประมาณโครงการเป็นของรัฐบาลร้อยละ 60 และ กทม.ร้อยละ 40 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเปิดประกวดราคา คาดว่าภายใน 2 - 3 เดือนน่าจะได้ผู้รับเหมา ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวดำเนินการเสร็จสิ้น จะทำให้การจราจรบน ถ.ศรีนครินทร์ไม่มีปัญหาการจราจรติดขัดและไม่มีปัญหาน้ำท่วมด้วย

--------------------------------------------------------------------------------------
ฝนตกหนักทั่วกรุง น้ำท่วมสูง รถเล็กเลี่ยงศรีนครินทร์ [ สำนักข่าวเนชั่น : 13 ต.ค. 52 ]

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศสภาพการจราจรในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ เนื่องจากมีฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงเช้ามืดทั่วพื้นที่กทม.และปริมณฑลที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนพื้นผิวการจราจรหลายเส้นทาง การจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยเฉพาะถนนศรีนครินทร์ฝั่งขาออก รถติดขัดยาวตลอดทั้งเส้นทาง ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้เร่งประชาสัมพันธ์แนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทางถนนศรีนครินทร์ โดยเฉพาะช่วงบริเวณวัดศรีเอี่ยม จนถึงห้างซีคอนสแควร์ เนื่องจากถนนศรีนครินทร์ทั้งขาเข้าและขาออก มีน้ำท่วมขังทุกช่องจราจร น้ำท่วมสูงประมาณ30เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ของประชาชนจอดเสียเนื่องจากสภาวะน้ำท่วม อยู่บริเวณดังกล่าวหลายสิบคันแล้ว จึงประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่จะใช้ถนนศรีนครีนทร์ หากไม่มีความจจำเป็นให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ขณะเดียวกันกรมอุตินิยมวิทยาแจ้งว่ากลุ่มฝนดังกล่าวเกิดจากความกดอากาศต่ำปกคุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งจะมีฝนตกลงมาแบบนี้ตลอดทั้งวันโดยเฉพาะพื้นที่เขตบางนา บางพลี และปากน้ำ

--------------------------------------------------------------------------------------
ถนนศรีนครินทร์อ่วมน้ำท่วมสูง 1 เมตร [ เดลินิวส์ : 14 ต.ค. 52 ]

วันนี้ (14 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจราจรถนนศรีนครินทร์เป็นอัมพาต เนื่องจากมีน้ำท่วมขังตั้งแต่แยกศรีเทพา ยาวไปถึงหน้าห้างซีคอนสแควร์ โดยเฉพาะบริเวณวัดศรีเอี่ยม ยาวไปถึงบริเวณแยกศรีอุดม มีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร รถเก๋ง รถจักรยานยนต์ และรถยนต์เล็กโหลดเตี้ยไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสารธารณะภัยระดมกำลังช่วยขนกระสอบทรายทำแนวกั้น และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในพื้นที่ อำนวยความสะดวกให้ประชน โดยคอยประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงบริเวณแยกศรีอุดมไม่ให้รถเล็ก และรถ จยย.ผ่านไปทางวัดศรีเอี่ยม แต่ให้เลี้ยวไปใช้เส้นทางถนนอุดมสุข แล้วตัดเข้าซอยเฉียงเพื่อออกถนนบางนา-ตราด ซึ่งอนุญาตให้เฉพาะรถโดยสารประจำทาง หรือรถขนาดใหญ่ และรถยนต์กระบะทรงสูงเท่านั้นใช้เส้นทาง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากฝนกระหน่ำอย่างหนักต่อเนื่องนานกว่า 10 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ถนนศรีนครินทร์ เกิดน้ำท่วมขัง รถสัญจรไปมาติดขัด นอกจากนี้ ยังมีรถเสียเพราะพิษน้ำท่วมดังกล่าว ทั้ง จยย. และรถยนต์รวมหลายคัน ขณะที่น้ำท่วมขังอยู่เดิมยังระบายไม่ออกก็มีฝนกระหน่ำซ้ำลงมาอย่างหนักช่วงเช้ามืดวันนี้ ทำให้น้ำท่วมขังเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลการจราจรหนักกว่าเมื่อวาน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ส่วนสาเหตุที่ทำให้การระบายน้ำไม่ทันนั้น น่าจะมาจากโครงการบ้านจัดสรรต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาทับทางน้ำ จึงทำให้น้ำระบายไม่ได้ จนสร้างความเดือดร้อนดังกล่าว ทั้งนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ย่านถนนศรีนครินทร์ที่มีน้ำท่วมขัง รวมถึงผู้ที่จำเป็นต้องใช้ถนนศรีนครินทร์ วิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขโดยด่วน โดยเฉพาะ กทม.

--------------------------------------------------------------------------------------
ถ.ศรีนครินทร์อ่วม น้ำท่วมขัง สูงสุดในรอบ25ปี [ ไทยรัฐ : 15 ต.ค. 52 ]
ถนนศรีนครินทร์วิกฤติ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การจราจรแทบเป็นอัมพาต โดยเฉพาะช่วงลาซาล –แบริ่ง และหน้าคอนโดศุภาลัย มีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 25 ปี เตือนรถเล็กเลี่ยงการใช้เส้นทาง ...

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำฝนสะสมบริเวณถนนศรีนครินทร์ รวมสูงกว่า 150 มิลลิเมตร ส่งผลให้การจราจรติดขัด จนถึงขั้นเกือบเป็นอัมพาต แต่จากการเร่งระบายน้ำจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกตินั้น ช่วงเช้ามืดวันนี้ (15 ต.ค.) ฝนยังเทลงมาอีกอย่างต่อเนื่องทำให้ถนนศรีนครินทร์ช่วงแยกบางนาถึงเสรีเซ็นเตอร์ ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร กลับมาเต็มไปด้วยน้ำอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่หน้าคอนโดศุภาลัย  และหน้าโรงแรมโนโวเทล ระดับน้ำสูงถึง 80 เซนติเมตร ระดับน้ำรวมจากเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ทำให้ในบริเวณดังกล่าว มีปริมาณนำ้ฝนสะสมรวมถึง 220 มิลลิเมตร  ซึ่งเป็นปริมาณน้ำฝนที่สูงสุดในรอบ 25 ปี
นายสัญญา ชีรนิมิต รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ปริมาณน้ำสูงขนาดนี้คือ ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวมีเป็นพื้นที่ราบลุ่ม เป็นแอ่งกระทะ ทำให้การระบายน้ำออกค่อนข้างจะลำบาก ซึ่งการแก้ไขเบื้องต้น สำนักฯ ได้เร่งสูบน้ำ ออกจากพื้นที่ผิวจราจร บริเวณถนนศรีนครินทร์ ด้วยเครื่องสูบน้ำ จำนวน 12 เครื่อง และระดมเจ้าหน้าที่กว่า 250 คน ช่วยกันนำกระสอบทรายกว่า 20,000 ใบ มากั้นเป็นแนวเขื่อนยาวกว่า 500 เมตร เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอก เข้าสู่พื้นผิวถนน ทั้งนี้ หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติม เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ (16ต.ค.) การจราจรจะเข้าสู่ภาะวปกติ

ทั้งนี้ ผอ.สำนักฯ กล่าวด้วยว่า ขอให้รถเล็กที่ต้องผ่านในบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์ในช่วงลาซาล –แบริ่ง และเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมายังคงมีฝนตกลงมาในพื้นที่ของ กทม.ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่รอบนอกโดยเฉพาะในพื้นที่เขตหนองจอก และลาดกระบัง แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมขัง อย่างไรก็ตามในช่วง 1-2 วันนี้ในพื้นที่ กทม.จะยังคงมีฝนปกคลุมกระจายทั่วพื้นที่ประมาณร้อยละ 70


--------------------------------------------------------------------------------------

สมุทรปราการ-โครงการระบายน้ำสุวรรณภูมิทดลองเดินเเครื่องช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม [ ครอบครัวข่าว : 16 ต.ค. 52 ]

โครงการระบายน้ำสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดทดสอบระบบระบายน้ำ ก่อนเปิดใช้งานจริง ในเดือน เมษายน 2553 ทำให้ช่วยแก้ปัญหาระบายน้ำท่วมขังถนนศรีนครินทร์และเขตชานเมืองกรุงเทพมหานคร ช่วงสองวันที่ผ่านมาได้ในระดับหนึ่ง หากผู้เกี่ยวข้องสามารถแก้ปัญหาระบายน้ำที่ท่วมขังถนนต่างๆ โดยรอบให้ลงคลองสำโรงหรือคลองหลักรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้มากกว่านี้

นายชัยนรินท์ พันธ์ภิญญาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทาน ที่ 11 พร้อมกับคณะทำงานกรมชลประทาน ได้ร่วมทดสอบระบบระบายน้ำ โครงการระบายน้ำรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ที่อำเภอบาพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนเปิดใช้งานจริง ในเดือน เมษายน 2553 เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิ และ พื้นที่โดยรอบของจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับเกิดฝนตกหนักและมีน้ำท่วมขังบริเวณถนนเทพารักษ์ ถนนศรีนครินทร์ และถนนต่าง ๆ ในวันที่ผ่านมา ทำให้การระบายน้ำสามารถสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง

สำหรับโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ เกิดขึ้นจากมติ ครม.2543 เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเดิมที่ตั้งสนามบินเป็นพื้นที่รับน้ำ เมื่อก่อสร้างสนามบินทำให้พื้นที่รับน้ำหายไปกว่า 20,000 ไร่ เริ่มก่อสร้างโครงการตั้งแต่ปี 2547 คลองระบายน้ำสุวรรณภูมิจะรับน้ำจากคลองซอยบนถนนบางนาตราด มีคลองสำโรงเป็นคลองหลักระบายน้ำมาลงคลองสุวรรณภูมิ มีความยาว 10.12 กม. เป็นคลองดิน ท้องคลองกว้าง 36 ม. ลึก 3.36 ม.ระบายน้ำได้ 100 ลบ.ม./วินาที เมื่อมาถึงปลายคลองบริเวณ ถนนสุขุมวิทสายเก่า กม.37 มีสถานีสูบน้ำ เพื่อยกระดับน้ำขึ้นบนสะพานยกระดับน้ำ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กยกระดับ รูปตัวยู ท้องคลองกว้าง 25.00ม. กำแพงสูงข้างละ 3.15ม.สูงจากถนนสุขุมวิท 6.00 ม. เพื่อระบายน้ำลงสู่อ่าวโดยตลอดแนวคลอง 10.12 กม.มีการก่อสร้างอาคารระบายน้ำด้านข้างคลองในช่วงที่ตัดผ่านคลองธรรมชาติทั้งหมด 22 แห่ง ที่บริเวณสถานีหลักติดตั้งระบบควบคุมการเปิด-ปิด บานระบายน้ำด้านข้างคลองและควบคุมการทำงานของเครื่องสูบน้ำ เป็นการสั่งการระยะไกล รวมทั้งติดตั้งระบบโทรมาตรอุทกวิทยาตรวจสอบระดับน้ำในคลองสายต่างๆ เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สัมพันธ์การเปิดปิดประตูระบายน้ำ ซึ่งในระหว่างการทดลองใช้สถานีสูบน้ำ โครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมินั้น สามารถช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถระบายน้ำจากลำคลองสำโรง ลงสู่ทะเล 25 ลูกบาศก์เมตร ต่อ วินาที ต่อเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง

จากปัญหาน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ผ่านมานั้น ทางโครงการได้เปิดเครื่องสูบน้ำจำนวน 2 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำในลำคลองให้ลดลงโดยเร็วที่สุด รวมแล้วกว่า 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ปัญหาน้ำท่วมขังพื้นผิวการจราจร ตลอดจนปัญหาการจราจรติดขัดบนท้องถนนทุเลาลงได้อย่างรวดเร็ว กว่าการสูบน้ำออกจากพื้นที่ด้วยเครื่องสูบน้ำปกติ ซึ่งการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังองค์กรท้องถิ่น หรือผู้รับผิดชอบถนนต่าง ๆ ที่เกิดปัญหาน้ำท่วม สามารถหาทางระบายน้ำที่ท่วมถนนหรือผิวจราจร ลงสู้คลองหลักโดยรอบที่โครงการระบายน้ำสุวรรณภูมิ ได้ทันก็จะสามารถได้รวดเร็วมากกว่านี้ เพราะโครงการมีเครื่องสูบถึง 4 เครื่องสามารถที่จะระบายน้ำได้ถึง 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


--------------------------------------------------------------------------------------