ข่าวจากหนังสือพิมพ์
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำป่าทะลักท่วมตลาดกบินทร์บุรี [ ผู้จัดการออนไลน์ : 19 ต.ค. 53 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีว่า ช่วงค่ำวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมาน้ำได้หลากเข้าท่วมตลาดเทศบาลตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี ทั้งตลาดแล้ว จนชาวบ้านต้องเร่งนำกระสอบทรายมากั้นน้ำไม่ให้เข้าบ้านเรือน โดยพบว่าระดับน้ำท่วมมีความสูงกว่า 20 ซม.
นายรังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ กล่าวว่า น้ำป่าตากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลกได้หลากล้นตลิ่งจากต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี จุดบรรจบระหว่างแควหนุมานกับแควพระปรงเข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ไปแล้วกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่
เช่น ชุมชนตลาดเก่าพบว่าน้ำท่วมทั้งหมดระดับน้ำลึกกว่า 2.50 เมตร เนื่องจากอยู่ติดกับจุดต้นน้ำ, ชุมชนเจ้าสำอางพบว่าน้ำท่วมสูงขึ้นถึงถนนสายหลักรถเล็กวิ่งไม่สะดวก, ชุมชนบ้านสวน บริเวณโรงเรียนวัดใหม่ท่าพาณิชย์ โรงเรียนเทศบาล 2 น้ำท่วมทั้งหมดแล้ว มีเพียงชุมชนรุ่งนภาเพียงแห่งเดียวน้ำไม่ท่วมเนื่องจากอยู่ที่สูง
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เช่น เหล่ากาชาดจังหวัด, งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และมณฑลทหารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ ได้จัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ลงมาช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของและแจกจ่ายอาหารแห้งน้ำดื่มสะอาดในการเบื้องต้นแล้วด้วย
ขณะที่ ดร.สุระชัย ศรีสารคาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบสถานการณ์น้ำท่วม จากนั้นได้ลงพื้นที่แจกข้าวสารอาหารแห้งที่ชุมชนโรงฆ่าสัตว์ตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์ พร้อมเดินทางตรวจเยี่ยมชาวบ้านพื้นที่หมู่ 10 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี โดยได้ทำการแจกจ่ายข้าวสารอาหารแห้งกับผู้ประสบอุทกภัยแล้วด้วย
“น้ำท่วม 2 อำเภอ คือ อำเภอนาดี กับอำเภอกบินทร์บุรี ตอนนี้สถานการณ์เราสามารถรับสถานการณ์ได้ยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน เบื้องต้นอำเภอนาดีน้ำลดระดับลงแล้ว ส่วนกบินทร์บุรีซึ่งที่ต่ำน้ำท่วมมีรัดับความสูงเฉลี่ย 1 เมตร การช่วยเหลือได้สนับสนุนเรือท้องแบนรับ-ส่งประชาชน คาดการณ์ว่าน้ำจะไหลลงต่อที่อำเภอศรีมหาโพธิ์ ซึ่งได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมตัวขนย้ายสิ่งของเป็นการณ์เพื่อรับมือแล้วเช่นกัน ทั้งนี้ ” ดร.สุระชัย กล่าว
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมสระแก้วอ่วม! [ ผู้จัดการออนไลน์ : 19 ต.ค. 53 ]
วันนี้ (19 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสระแก้ว รายงานว่า ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เป็นบริเวณกว้างทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ และอำเภอโคกสูง
ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี สรุปความเสียหายที่เกิดจากอุทกภัยในช่วงวันที่ 15-18 ตุลาคม 2553 ได้ดังนี้ อำเภออรัญประเทศ บริเวณตลาดโรงเกลือ มีร้านค้าประมาณ 4,000 ห้อง น้ำท่วมสูง 30-40 เซนติเมตร ในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ระดับน้ำ 60-70 เซนติเมตร
นอกจากนี้ พื้นที่ตำบลต่างๆ ของอำเภออรัญประเทศ จำนวน 5 ตำบล คือ ตำบลท่าข้าม, ตำบลป่าไร่, ตำบลฟากห้วย, ตำบลบ้านด่าน และตำบลบ้านใหม่หนองไทร ได้รับผลกระทบอย่างหนัก สาเหตุเกิดจากน้ำล้นตลิ่งจากคลองพรหมโหด มีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนรวม 21 หมู่บ้าน รวม 2,846 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 12,000 คน
ส่วนที่อำเภอโคกสูง เกิดอุทกภัยในทุกตำบลเป็นบริเวณกว้าง โดยตำบลที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ตำบลโนนหมากมุ่น และตำบลโคกสูง มีหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมจำนวน 10 หมู่บ้าน กว่า 1,000 ครัวเรือน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวม 4,000 คน
สรุปความเสียหายจากอุทกภัยในจังหวัดสระแก้วโดยภาพรวม บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วม 6,346 หลังคาเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 25,000 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 30,000-40,000 ไร่ ถนนชำรุดเสียหาย 7 สาย สถานที่ราชการถูกน้ำท่วมขัง แบ่งเป็น โรงเรียน 21 แห่ง, สถานีอนามัย 2 แห่ง และพุทธศาสนสถาน (วัด) 14 แห่ง
ข่าวรายงานด้วยว่า นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนบรรเทาภัยและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ซึ่งทางจังหวัดได้ร่วมกับหน่วยงานทุกฝ่าย ทั้ง พลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเหล่ากาชาดจังหวัด ได้ออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องทุกวัน
โดยได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคไปแล้วจำนวน 8,200 ชุด และเวชภัณฑ์จำนวน 3,100 ชุด โดยสถานการณ์ล่าสุดพบว่าพื้นที่ตลาดโรงเกลือและเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศส่วนใหญ่ รวมทั้งน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ ได้ลดลงแล้ว แต่ในถนนบางสาย ได้แก่ สายโคกสะแบง-หนองเอี่ยน และสายโคกสูง-โนนหมากมุ่น ยังใช้สัญจรไม่ได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยด้วยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้พยายามออกช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆ ให้มากที่สุด และขอเชิญชวนผู้มีจิตเป็นกุศลได้ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสามารถบริจาคได้ที่ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ หรือที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ณัฐ สิงอุดม ผกก.ตชด.12 อรัญประเทศ ได้ให้การต้อนรับ พลตรี วลิต โรจนภักดี ผก.กกล.บูรพา ที่วัดโนนหมากมุ่น ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ในการนำสิ่งของพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ให้เป็นผู้สนองพระราชประสงค์ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ เช่น อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย และทุกภิกขภัย โดยให้รับสิ่งของพระราชทานสิ่งของประกอบด้วย เครื่องอุปโภค บริโภค ยารักษาโรค และวัสดุก่อสร้าง แล้วนำไปแจกจ่ายราษฎร
พ.ต.อ.ณัฐ สิงอุดม ผกก.ตชด.12 อรัญประเทศ กล่าวว่า สำหรับวันนี้การแจกจ่ายสิ่งของให้กับประชาชนที่เดือดร้อนด้วยความรวดเร็ว ตรงกับความกับความต้องการ และให้ถือว่าการช่วยเหลือนี้เป็นการบรรเทาภัยขั้นต้น กก.ตชด.12 อรัญประเทศ ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฝ้าระวังสถานการณ์ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสภาพลมฟ้าอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และระดับน้ำตามลำน้ำต่างๆในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวน 5 ชุดๆ ละ 12 นาย รวม 60 นาย พร้อมอุปกรณ์การช่วยเหลือ ประกอบด้วย เรือท้องแบน 4 ลำ เรือยาง 1 ลำ จากสถานการณ์การเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดสระแก้ว กองกำกับการ ตชด.12 จึงได้จัดชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย และอุปกรณ์ในเบื้องต้นแล้วจำนวน 200 ชุด
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำป่าไหลท่วมอรัญประเทศหนักสุดในรอบ 13 ปี [ ผู้จัดการออนไลน์ : 17 ต.ค. 53 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสระแก้วว่า มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าไหลหลาก จากอำเภอวัฒนานคร อำเภอโคกสูง เข้าท่วมในพื้นที่ตำบลบ้านด่าน ต.บ้านใหม่หนองไทร ต.อรัญประเทศ ในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ และบริเวณตลาดโรงเกลือ ตำบลคลองลึก อำเภออรัญประเทศ ตั้งแต่ตอนเช้า บางแห่งสูงถึง 1 เมตร ส่งผลให้ผู้ประกอบการในตลาดอรัญประเทศ รวมทั้งตลาดโรงเกลือเสียหายหนักเนื่องเก็บข้าวของไม่ทัน เนื่องจากน้ำไม่เคยท่วมมาหลายปีแล้ว
นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งให้นายอำเภออรัญประเทศ นายอนุสรณ์ ลักษณละม้าย นายกเทศมนตรีเมืองอรัญประเทศ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านด่าน นำหน่วยกู้ภัยอรัญประเทศ อส.อำเภอ อป.ภร. ทหารพราน ทหารหลัก ตำรวจ ออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนแล้ว และถ้ายังมีฝนตกต่อเนื่องเช่นนี้จะส่งผลทำให้ไร่นาเกษตรกรได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่อย่างแน่นอน
ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำป่าไหลบ่ามาจาก อ.โคกสูง อ.วัฒนานคร เข้าท่วมตำบลบ้านด่าน ต.บ้านใหม่หนองไทร และ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ เข้าท่วมถนนทางเข้าตลาดโรงเกลือ และพื้นที่การค้าในตลาดโรงเกลือ ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซม. ร้านค้ากว่า 300 ร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของผู้ค้าชาวเขมร ต้องขนย้ายสินค้าขึ้นบนที่สูงกันอย่างโกลาหล ส่งผลกระทบต่อการค้าขายในตลาดโรงเกลือ ซึ่งมีรายได้จากการค้ากว่าวันละ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุของน้ำท่วมครั้งนี้เนื่องจากตลาดโรงเกลือเป็นพื้นที่ต่ำทำให้ต้องรับน้ำป่าที่ไหลบ่ามาจากที่อื่น ประกอบกับคลองลึก ซึ่งเป็นคลองกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านหลังตลาดโรงเกลือก็มีน้ำเต็ม ทำให้ไม่สามารถผันน้ำออกไปได้ ซึ่งหากฝนยังไม่หยุดตก ยังมีน้ำหนุนจากประเทศกัมพูชา ทำให้น้ำระบายลงคลองพรมโหดไม่ได้ คาดว่าระดับน้ำท่วมในตลาดโรงเกลือจะสูงกว่านี้อีกถ้าฝนยังตกอยู่
จากนั้น นาศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นำนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้ว หัวหน้าส่านราชการจังหวัดมาแจกของที่บ้านด่าน บ้านโคกสะพานขาว อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีชิติพัทธ์ แก่นจันทร์ นายกเทศบาลตำบลบ้านด่าน นำราษฎรบ้านด่าน คณะครูโรงเรียน และนักเรียน มารับเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งถุงยังชีพของกาชาดจังหวัดสระแก้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว
ด้าน นายชาตรี ผดุงพงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว ได้ประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำบริเวณลำธารน้ำตกปางสีดา เนื่องจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติบางสีดามีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.53 ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำบริเวณลำธารน้ำตกปางสีดามรปริมาณมากและกระแสน้ำไหลแรง ลักษณะสีน้ำขุ่น ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ และมีโอกาสที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลากได้ทุกเมื่อ
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติปางสีดา จึงขอปิดการให้บริการบริเวณโซนน้ำตกปางสีดาเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และห้ามมิให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำบริเวณลำธารน้ำตกปางสีดาโดยเด็ดขาด
--------------------------------------------------------------------------------------
ฝนถล่มอรัญประเทศ น้ำท่วมตลาดโรงเกลือ สูญ 100 ล้าน [ ไทยรัฐ : 16 ต.ค. 53 ]
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนที่ตกหนักในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำป่าไหลบ่ามาจาก ต.โคกสูง อ.วัฒนานคร เข้าท่วมพื้นที่ ต.บ้านด่าน ต.บ้านใหม่หนองไทร และ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ โดยท่วมถนนทางเข้าตลาดโรงเกลือ และพื้นที่การค้าในตลาดโรงเกลือ ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร ร้านค้ากว่า 300 ร้านค้า ส่วนใหญ่เป็นของผู้ค้าชาวเขมร ต้องขนย้ายสินค้าขึ้นบนที่สูงกันอย่างโกลาหล ส่งผลกระทบต่อการค้าขายในตลาดโรงเกลือ ซึ่งมีรายได้จากการค้ากว่าวันละ 10 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุของน้ำท่วมครั้งนี้ เนื่องจากตลาดโรงเกลือเป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้ต้องรับน้ำป่าที่ไหลบ่ามาจากที่อื่น ประกอบกับคลองลึก ซึ่งเป็นคลองกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านหลังตลาดโรงเกลือ มีน้ำเต็ม ทำให้ไม่สามารถผันน้ำออกไปได้ หากฝนยังไม่หยุดตก และยังมีน้ำหนุนจากประเทศกัมพูชา ทำให้น้ำระบายลงคลองพรมโหดไม่ได้ คาดว่าระดับน้ำท่วมในตลาดโรงเกลือจะสูงกว่านี้อีก
ต่อมา นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว นำนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้ว หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด มาแจกของที่บ้านด่าน บ้านโคกสะพานขาว อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีนายชิติพัทธ์ แก่นจันทร์ นายกเทศบาลต.บ้านด่าน นำราษฎรบ้านด่าน คณะครูโรงเรียน และนักเรียน มารับเครื่องอุปโภคบริโภค ถุงยังชีพของกาชาดจังหวัดสระแก้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะฝนตกหนักที่จ.สระแก้ว และตลาดโรงเกลือจมบาดาลเป็นวันที่ 2 แล้ว ทำให้ขายสินค้าไม่ได้ หลังจากมีการสั่งห้ามรถยนต์วิ่งเข้าตลาดโรงเกลือ หวั่นสินค้าเสียหาย ซึ่งร้านค้ากว่า 2,000 ร้าน ไม่สามารถเปิดค้าขายได้ ทำให้ตลาดโรงเกลือต้องสูญเสียรายได้จากการค้าขาย และการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กว่าวันละ 100 ล้านบาท
ด้านนางเมียน พี อายุ 32 ปี แม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ เผยว่า ได้สั่งเสื้อผ้ากันหนาวมือสองมาเตรียมขายให้นักท่องเที่ยวในตลาดโรงเกลือช่วงหน้าหนาวที่จะถึงนี้จำนวนมาก จู่ๆ ฝนก็ตกหนักมา 2 วัน ทำให้น้ำท่วมตลาดโรงเกลือ เสื้อกันหนาวมือสองที่เก็บไว้ในร้านค้าของตลาดโรงเกลือ ถูกน้ำท่วมเสียหายไปกว่า 30% หากฝนยังไม่หยุดตก ก็ไม่สามารถนำผ้าที่เปียกออกไปตากได้ จะต้องเสียหายมากกว่านี้ เพราะเสื้อผ้าที่หมักหมมกับน้ำ จะทำให้เกิดเชื้อราและจะขายไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------
พายุฝนกระหน่ำพัทยา ถนนถูกตัดขาดเกือบจมใต้บาดาล [ ผู้จัดการออนไลน์ : 14 ต.ค. 53 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำคืนที่ผ่านมา (13 ต.ค.) ได้เกิดมีพายุฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักในเขตพื้นที่บางละมุง และเมืองพัทยานานหลายชั่วโมง ส่งผลให้พื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิททั้งฝั่งขาเข้าพัทยาและฝั่งขาออก รวมทั้งถนนสายต่างๆ ในเมืองพัทยามีปริมาณน้ำท่วมขังอย่างหนัก พื้นถนนหลายแห่งมีระดับน้ำสูงหลายสิบเซ็นติเมตร ทำให้เส้นทางการจราจรถูกตัดขาดรถติดเป็นทางยาวเหยียดหลาย กม. ขณะที่ยานยนต์บางส่วนที่ขับฝ่าลุยน้ำเครื่องยนต์ดับจอดเสียอยู่กลางถนน
นอกจากนี้ย้งมีบ้านเรือนประชาชนในเขตเมืองพัทยาและเขต อ.บางละมุง หลายแห่งถูกน้ำทะลักเข้าท่วมขังได้รับความเสียหาย โดยทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา ได้นำกำลังออกช่วยโดยนำเครื่องสูบน้ำมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน
มีรายงานว่า สำหรับกรณีดังกล่าวมีประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2553 จะมีร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคใต้ตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีกำลังค่อนข้างแรง ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย พัดนำความชื้นเข้าสู่พื้นที่รับลมมรสุมบริเวณภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้มีฝนตกหนักชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ซึ่งทางเมืองพัทยาได้เตรียมแนวทางการป้องกันไว้เป็นอย่างดีแล้ว แต่ด้วยปริมาณน้ำที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง
--------------------------------------------------------------------------------------
ผู้ว่าฯ ระยองถกด่วน หลังอ่างพัง-น้ำทะลักท่วมสูง [ ผู้จัดการออนไลน์ : 11 ต.ค. 53 ]
นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการ จ.ระยอง ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำทะลักเข้าท่วมถนนสาย 344 บ้านบึง-แกลง หลังอ่างเก็บน้ำและฝายกั้นน้ำบนเขาพนมสารท ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ พังลง โดยพบว่า ขณะนี้เกิดน้ำท่วมขังสูง จึงเรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริษัทที่ดูแลอ่างเก็บน้ำเข้ารับผิดชอบ
--------------------------------------------------------------------------------------
ฝนตกหนักฝายน้ำล้นแตกน้ำทะลักบ้านแหลมอวน ต.คลองใหญ่ สัญจรไปมาไม่ได้ [ ผู้จัดการออนไลน์ : 11 ต.ค. 53 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดตราด ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก ทำให้ฝายน้ำล้นเสียหาย ที่บริเวณบ้านแหลมอวน ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากชาวบ้านอาศัยฝายเป็นสะพานเดินข้าม ทาง อบต.คลองใหญ่จึงเดินทางออกดูพื้นที่ความเสียหาย
ด้าน นางปรานีย์ รจนากุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองใหญ่กล่าวภายหลังการเดินทางมาดูความเสียหาย ที่ฝายน้ำล้น ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาที่ อ.แหลมงอบ เกิดฝนตกหนักและช่วงเช้าวันนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 4 บ้านคลองใหญ่ ว่า มีฝายน้ำล้นบ้านแหลมอวน -2 ห้อง โดยกระแสน้ำพัดคอสะพานขาด ทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จึงได้เดินทางพร้อมกับปลัดอำเภอแหลมงอบลงพื้นที่ดูความเสียหาย
เบื้องต้น ทาง อบต.คลองใหญ่ จะใช้งบฉุกเฉินในการเข้าช่วยเหลือโดยการใช้รถแม็คโครในการนำเอาแท่งปูนที่ขวางทางน้ำออก และลอกคลองให้น้ำไหลผ่านมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเดิมฝายแห่งนี้มีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี
ส่วนทางด้านสะพานคลองใหญ่ปีที่ผ่านมา เคยประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ในขณะนี้ปริมาณ น้ำยังมีไม่มากจึงทำให้ไม่น่าเป็นห่วง จึงได้ประชาสัมพันธ์ประชาชนให้เตรียมความพร้อม หากฝนตกไม่หยุดภายใน 1-2 วันนี้ น้ำอาจจะท่วมได้
ขณะที่ระดับน้ำในคลองใหญ่ มีระดับสูงขึ้น เนื่องจากน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขาระกำได้ไหลล้นออกมา ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองหลายร้อยหลังคาเรือนหวั่น วิตกว่าหากฝนยังตกลงมาอีก อาจจะทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เนื่องจากปีที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว
ล่าสุด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด โดย นางจารุวรรณ จินตกานนท์ นายกสมาคมได้ออกแถลงการณ์แจ้งให้ผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะช้างและผู้ประกอบการนำเที่ยว ได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในเรื่องของการเดินทางออกจากเกาะช้าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้รับความปลอดภัยในระดับสูงสุด
พร้อมประสานงานงานกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ให้ชะลอการเดินทางออกไประยะหนึ่ง เพื่อรอนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางออกจากเกาะช้าง ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในเกาะช้างในขณะนี้หากต้องการมาพักก็สามารถเดินทางมาพักได้ที่ห้องพักในฝั่งของบ้านคลองสน เช่น อัยยะปุระ เกาะช้างแกรนด์ออคิด มยุรีสีชมพู เดอะ ซุกค์ แอมเบอร์แซนด์ สวนสามจันทร์รีสอร์ท เดอะสปาเกาะช้าง ส่วนที่ไม่เดินทางไปเกาะช้างก็สามารถพักได้ที่เกาะช้าง สวนปูรีสอร์ท เซนทารา จันทร์ทะเล บ้านริมน้ำ ริมทะเลรีสอร์ท ญาตารีสอร์ท และหาดมุกแก้ว เป็นการชั่วคราวก่อน
นางสาวจารุวรรณ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ สมาคมได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการบนเกาะช้างหลายราย ที่ช่วยกันอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อ สร้างความประทับใจ แม้จะเกิดวกฤติจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสถานการณ์จะไม่เลวร้ายไปกว่านี้ โดยถนนจะสามารถใช้สัญจรได้ภายในเวลา 15.30 น.
ส่วนกระแสไฟฟ้า อาจจะต้องใช้เวลาจนถึงวันพรุ่งนี้ (12 ต.ค.) จึงขอให้ผู้ประกอบการได้เตรียมน้ำมันที่จะใช้ในการปั่นไฟและแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เข้าใจและไม่มีปัญหาเกิดขึ้น
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วม 3 อำเภอของ จ.ชลบุรี-ผวจ.เร่งใช้งบ 50 ล้านบาทช่วยเหลือ [ ผู้จัดการออนไลน์ : 5 ต.ค. 53 ]
ตั้งแต่เช้าวันนี้ (5 ต.ค.) เกิดฝนตกในเขตพื้นที่ อ.พนัสนิคม อ.พานทอง อ.เมือง จ.ชลบุรี อย่างรุนแรง ทำให้น้ำฝนทะลักลงไปท่วมขังเข้าบ้านเรือนประชาชน ถนน และบ่อเลี้ยงปลา ในพื้นที่ ม.2 ม.3 ต.บ้านเซิด อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี สูงประมาณ 1 เมตร เนื่องจากฝนตกยาวนานและพื้นที่ยังเป้นแอ่งกระทะ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน ต้องอพยพสิ่งของหนีน้ำกันอย่างอุตลุด
นอกจากนี้ ในพื้นที่ข้างวัดหนองตำลึง ม.2 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ก็ประสบปัญหาเช่นเดียว โดยเฉพาะในโรงเรียนชุมชนวัดหนองตำลึง (ปรีชาราษฎรบำรุง) ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จมอยู่ในบาดาล น้ำท่วมขังสูงเช่นเดียว ทำให้โรงเรียนตามประกาศหยุดการเรียนการสอนไปเลย เนื่องจากสอบกลางเทอมเสร็จสิ้นพอดี จึงถือโอกาสปิดกลางภาคไปเลยเป็นเวลา 1 เดือน
ด้าน นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี คนใหม่ ได้สั่งการให้นายสมหวัง รุ่งตระกูลชัย นายอำเภอพนัสนิคม นายเลอสันต์ ศศิพงศ์ นายอำเภอพานทอง พร้อมด้วย นายกอบชัย บุญอรนะ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชลบุรี เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น โดยเร่งอพยพชาวบ้าน พร้อมกับนำอาหาร น้ำดื่ม รองเท้ายางกันน้ำ และยาสามัญประจำบ้าน เข้าไปแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
ขณะเดียวกันยังประกาศ 7 อำเภอเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ได้แก่ อ.เมือง อ.พานทอง อ.พนัสนิคม อ.บ่อทอง อ.หนองใหญ่ อ.เกาะจันทร์ อ.บ้านบึง พร้อมกับ นำงบประมาณทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเบื้องต้น ในอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จำนวน 50 ล้านบาท ช่วยเหลือไปก่อน
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมตลาดการค้าชายแดนถาวรบ้านแหลมจันทบุรี [ ผู้จัดการออนไลน์ : 4 ต.ค. 53 ]
เมื้อเวลา 00.30 น.วันนี้ (4 ต.ค.) ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากที่ไหลลงมาจากเทือกเขาสวนส้มได้ไหลเข้าท่วมตลาด การค้าชายแดนถาวรบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน และตลาดชายแดนบ้านซับตารี อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรีส่งผลให้น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมตลาดผลไม้ และร้านขายของชำของพ่อค้า แม่ค้าชาวไทยและชาวกัมพูชา ที่มาตั้งร้านขายอยู่ตามแนวชายแดนเสียหายกว่า 40-50 คูหา
นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวริมคลองได้ถูกน้ำท่วมเสียหายอีก จำนวน 30 ครัวเรือน นอกจากนี้มีรถยนต์ของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จอดไว้ฝั่งประเทศไทยได้ถูกน้ำท่วมเสียหายไป จำนวน 3 คัน ซึ่งระดับน้ำอยู่ที่ 1 เมตร ถึง 1 เมตร 20 เซนติเมตร ทำให้พ่อค้า แม่ค้าต่างต้องมีการขนของหนีน้ำ และขนของไว้ในที่สูง
ในเบื้องต้น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรีทราบเรื่องจึงได้ ระดมเจ้าหน้าที่ อปพร. กู้ภัยจันทบุรี องค์การบริหารส่วนตำบล ทหาร และเทศบาลออกให้การช่วยเหลือพร้อมรถเคลื่อนที่เร็ว รถสูบน้ำ และอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ พร้อมกันนี้ได้ให้การช่วยเหลือประชาชาวไทยกว่า 30 คน ที่ข้ามไปเที่ยวยังฝั่งประเทศกัมพูชากลับเข้ามายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย
--------------------------------------------------------------------------------------
|
ผู้จัดการออนไลน์ : http://www.manager.co.th/ |
โพสต์ทูเดย์ : http://www.posttoday.com |