บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมบริเวณภาคเหนือ (ตุลาคม 2553)
ภาพดาวเทียม GOES-9 | |||||||||
1/10/2553 |
2/10/2553 |
3/10/2553 |
4/10/2553 |
5/10/2553 |
6/10/2553 |
7/10/2553 |
8/10/2553 |
9/10/2553 |
10/10/2553 |
11/10/2553 |
12/10/2553 |
13/10/2553 |
14/10/2553 |
15/10/2553 |
16/10/2553 |
17/10/2553 |
18/10/2553 |
19/10/2553 |
20/10/2553 |
21/10/2553 |
22/10/2553 |
23/10/2553 |
24/10/2553 |
25/10/2553 |
26/10/2553 |
27/10/2553 |
28/10/2553 |
29/10/2553 |
30/10/2553 |
จากภาพถ่ายดาวเทียม GOES-9 พบว่าช่วงต้นเดือนประมาณวันที่ 2-4 ต.ค. มีกลุ่มเมฆปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนค่อนข้างมาก หลังจากนั้นกลุ่มเมฆได้ลดปริมาณลง และกลับมาปกคลุมพื้นที่ภาคเหนืออีกครั้งในช่วงวันที่ 9-19 ต.ค. ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัด เช่น เชียงราย กำแพงเพชร ลำปาง ตาก พิจิตร สุโขทัย พิษณุโลก เป็นต้น หลังจากนั้นกลุ่มเมฆลดลงค่อนข้างมาก ต่อมาในช่วงวันที่ 25-26 ต.ค.กลุ่มเมฆได้กลับมาปกคลุมพื้นที่ภาคเหนืออีกครั้ง หลังจากนั้นกลุ่มเมฆได้ลดปริมาณลงจนถึงสิ้นเดือน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
ภาพแผนที่อากาศ | |||||||||
1/10/2553 |
2/10/2553 |
3/10/2553 |
4/10/2553 |
5/10/2553 |
6/10/2553 |
7/10/2553 |
8/10/2553 |
9/10/2553 |
10/10/2553 |
11/10/2553 |
12/10/2553 |
13/10/2553 |
14/10/2553 |
15/10/2553 |
16/10/2553 |
17/10/2553 |
18/10/2553 |
19/10/2553 |
20/10/2553 |
21/10/2553 |
22/10/2553 |
23/10/2553 |
24/10/2553 |
25/10/2553 |
26/10/2553 |
27/10/2553 |
28/10/2553 |
29/10/2553 |
|
|
ภาพเรดาร์กรมอุตุนิยมวิทยา | |||||||||
เรดาร์พิษณุโลก รัศมี 240 กิโลเมตร | |||||||||
1/10/2553 17:25GMT |
2/10/2553 14:25GMT |
3/10/2553 13:25GMT |
5/10/2553 09:25GMT |
8/10/2553 17:25GMT |
9/10/2553 12:25GMT |
11/10/2553 09:25GMT |
12/10/2553 01:25GMT |
13/10/2553 22:25GMT |
14/10/2553 01:25GMT |
15/10/2553 03:25GMT |
16/10/2553 04:25GMT |
17/10/2553 17:25GMT |
18/10/2553 17:25GMT |
19/10/2553 17:25GMT |
20/10/2553 16:25GMT |
21/10/2553 17:25GMT |
|
|
|
dBz | |||||||||
ข้อมูลจากเครือข่ายภาพเรดาร์กรมอุตุนิยมวิทยา เรดาร์พิษณุโลก รัศมี 240 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ พบว่าพื้นที่ภาคเหนือยังคงมีฝนตกต่อเนื่องจากเดือนที่แล้ว โดยมีฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วงวันที่ 1-5 ต.ค. ,9-22 ต.ค. และ 25-26 ต.ค. โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่างที่มีฝนค่อนข้างมาก ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
แผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมรายวันจากสถาบันวิจัยทหารเรืออเมริกา | |||||||
3/10/2553 [12:00] |
8/10/2553 [12:00] |
12/10/2553 [00:00] |
13/10/2553 [00:00] |
14/10/2553 [12:00] |
15/10/2553 [00:00] |
16/10/2553 [00:00] |
17/10/2553 [00:00] |
19/10/2553 [00:00] |
20/10/2553 [12:00] |
21/10/2553 [00:00] |
22/10/2553 [12:00] |
23/10/2553 [00:00] |
24/10/2553 [00:00] |
26/10/2553 [12:00] |
27/10/2553 [00:00] |
|
แผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมรายสัปดาห์จาก NASA | ||||
1/10/53[00Z]-8/10/53[00Z] |
9/10/53[00Z]-16/10/53[00Z] |
17/10/53[00Z]-24/10/53[00Z] |
25/10/53[00Z]-31/10/53[00Z] |
1/10/53[00Z]-31/10/53[00Z] |
จากแผนภาพฝนสะสมของ NASA พบว่ามีกลุ่มฝนกระจุกตัวกันค่อนข้างมากในช่วงสัปดาห์ที่สองและสัปดาห์ที่สาม โดยกลุ่มฝนกระจุกตัวกันค่อนข้างมากบริเวณภาคเหนือตอนล่าง |
ค่าเฉลี่ยเดือนตุลาคม (2493-2540) |
ตุลาคม 2553 |
ตุลาคม 2549 |
|
จากแผนภาพข้อมูลฝนสะสมช่วงเดือนตุลาคม พบว่าเดือนตุลาคม ปี 2553 พื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกมากว่าเดือนตุลาคมของปี 2549 และมากกว่าค่าฝนเฉลี่ยเดือนตุลาคม จากค่าสถิติปี 2493-2540 โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่างที่ปริมาณฝนมากกว่าปี 2006 และมากกว่าค่าเฉลี่ยค่อนข้างมาก โดยรายละเอียดฝนสะสมรายวันจากสถานีตรวจอากาศในพื้นที่ภาคเหนือที่มีปริมาณฝนค่อนข้างมากในเดือนตุลาคม 2553 เป็นดังตารางด้านล่าง |
วันที่
|
สถานี
|
จังหวัด
|
ปริมาณฝน สะสมรายวัน(มม.) |
29/10/2553 |
พะเยา | พะเยา | 98.50 |
27/10/2553 |
พิษณุโลก | พิษณุโลก | 93.80 |
พิจิตร | พิจิตร | 62.80 |
|
21/10/2553 |
แม่ฮ่องสอน | แม่ฮ่องสอน | 128.00 |
เชียงใหม่ | เชียงใหม่ | 78.60 |
|
ลำพูน | ลำพูน | 74.20 |
|
20/10/2553 |
ตาก | ตาก | 123.50 |
เขื่อนภูมิพล | ตาก | 100.90 |
|
สุโขทัย | สุโขทัย | 96.50 |
|
แม่สะเรียง | แม่ฮ่องสอน | 70.70 |
|
ดอยมูเซอ (1) | ตาก | 65.40 |
|
14/10/2553 |
เขื่อนภูมิพล | ตาก | 83.10 |
การเตือนภัยปริมาณฝนผ่านโทรศัพท์มือถือ (sms) จากระบบโทรมาตรขนาดเล็ก
วันเตือนภัย
|
เวลาเตือนภัย
|
ช่วงเวลาฝนสะสม
|
สถานที่ |
ปริมาณฝน (มม.) |
ระดับการเตือนภัย
|
29/10/2010 |
9:00:00 |
ฝน08-09น. |
ต.พบพระ จ.ตาก | 31.2 | เฝ้าระวังสูงสุด |
29/10/2010 |
8:00:00 |
ฝนวานนี้ |
ต.จุน จ.พะเยา | 98.5 | เฝ้าระวังสูงสุด |
27/10/2010 |
8:00:00 |
ฝนวานนี้ |
ต.หนองกะท้าว จ.พิษณุโลก | 93.8 | เฝ้าระวังสูงสุด |
26/10/2010 |
11:00:00 |
ฝน07-11น. |
ต.วังทอง จ.พิษณุโลก | 77.6 | เฝ้าระวังสูงสุด |
26/10/2010 |
8:00:00 |
ฝน07-08น. |
ต.ผาเลือด จ.อุตรดิตถ์ | 35.8 | วิกฤต |
26/10/2010 |
8:00:00 |
ฝน06-07น. |
ต.ผาเลือด จ.อุตรดิตถ์ | 27.0 | เฝ้าระวังสูงสุด |
22/10/2010 |
10:00:00 |
ฝน09-10น. |
ต.พระบาทวังตวง จ.ลำปาง | 39.0 | เฝ้าระวังสูงสุด |
22/10/2010 |
6:00:00 |
ฝน05-06น. |
ต.วัดจันทร์ จ.พิษณุโลก | 38.0 | วิกฤต |
21/10/2010 |
8:00:00 |
ฝนวานนี้ |
ต.ห้วยผา จ.แม่ฮ่องสอน | 128.0 | วิกฤต |
20/10/2010 |
8:00:00 |
ฝนวานนี้ |
ต.สามเงา จ.ตาก | 100.9 | วิกฤต |
20/10/2010 |
8:00:00 |
ฝนวานนี้ |
ต.ตากออก จ.ตาก | 123.5 | วิกฤต |
20/10/2010 |
8:00:00 |
ฝนวานนี้ |
ต.ราวต้นจันทร์ จ.สุโขทัย | 96.5 | เฝ้าระวังสูงสุด |
20/10/2010 |
1:00:00 |
ฝน20/07-21/00น. |
ต.ในเมือง จ.อุตรดิตถ์ | 74.4 | เฝ้าระวังสูงสุด |
19/10/2010 |
23:00:00 |
ฝน07-23น. |
ต.ระแหง จ.ตาก | 86.8 | เฝ้าระวังสูงสุด |
19/10/2010 |
17:00:00 |
ฝน17-18น. |
ต.ระแหง จ.ตาก | 31.4 | เฝ้าระวังสูงสุด |
19/10/2010 |
1:00:00 |
ฝน19/07-20/01น. |
ต.ระแหง จ.ตาก | 107.6 | วิกฤต |
16/10/2010 |
23:00:00 |
ฝน22-23น. |
ต.แม่ระมาด จ.ตาก | 35.4 | วิกฤต |
16/10/2010 |
22:00:00 |
ฝน21-22น. |
ต.แม่ระมาด จ.ตาก | 30.2 | เฝ้าระวังสูงสุด |
14/10/2010 |
8:00:00 |
ฝน07-08น. |
ต.พระบาทวังตวง จ.ลำปาง | 41.0 | วิกฤต |
14/10/2010 |
8:00:00 |
ฝน07-08น. |
ต.พระบาทวังตวง จ.ลำปาง | 39.6 | เฝ้าระวังสูงสุด |
ข้อมูลระดับน้ำล้นตลิ่งจากสถานีวัดระดับน้ำท่า กรมชลประทาน | ||
ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน | ||
(W.4A)บ้านวังหมัน อ.สามเงา จ.ตาก (ระดับตลิ่ง 6.03 ม.) |
(P.17)บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ (ระดับตลิ่ง 37.77 เมตร) |
(N.67)สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ (ระดับตลิ่ง 27.4 เมตร) |
(N.8A)บ้านบางมูลนาก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร (ระดับตลิ่ง 10.87 ม.) |
(Y.16)บ้านบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก (ระดับตลิ่ง 7.17 ม.) |
(P.76)บ้านอีไฮต์ ต.ลี้ จ.ลำพูน (ระดับตลิ่ง 5.4 ม.) |
จากกราฟแสดงข้อมูลระดับน้ำจากสถานีตรวจวัดน้ำท่ากรมชลประทาน พบว่ามีระดับน้ำล้นตลิ่งหลายจุด โดยเฉพาะในแม่น้ำยม ที่ระดับล้นตลิ่งค่อนข้างสูง รายละเอียดเพิ่มเติม |
ข้อมูลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ | |
เขื่อนภูมิพล | |
ปริมาณน้ำไหลลงสะสม ต.ค.53 = 2,091.85 ล้าน ลบ.ม. ไหลลงสูงสุด = 202.01 ล้าน ลบ.ม.วันที่ 23 ต.ค.53 |
น้ำเก็บกัก ณ 31 ต.ค. = 8,461 ล้าน ลบ.ม.(63%ที่ รนก.) เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย.53 = 2,034 ล้าน ลบ.ม. |
เขื่อนสิริกิติ์ | |
ปริมาณน้ำไหลลงสะสม ต.ค.53 = 535.15 ล้าน ลบ.ม. ไหลลงสูงสุด = 40.51 ล้าน ลบ.ม.วันที่ 2 ต.ค.53 |
น้ำเก็บกัก ณ 31 ต.ค. = 7,781 ล้าน ลบ.ม.(82%ที่ รนก.) เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย.53 = 401 ล้าน ลบ.ม. |
เขื่อนแควน้อย | |
ปริมาณน้ำไหลลงสะสม ต.ค.53 = 222.52 ล้าน ลบ.ม. ไหลลงสูงสุด = 12.63 ล้าน ลบ.ม.วันที่ 27 ต.ค.53 |
น้ำเก็บกัก ณ 31 ต.ค. = 780 ล้าน ลบ.ม.(101%ที่ รนก.) เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย.53 = 79 ล้าน ลบ.ม. |
เขื่อนกิ่วคอหมา | |
ปริมาณน้ำไหลลงสะสม ต.ค.53 = 60.42 ล้าน ลบ.ม. ไหลลงสูงสุด = 10.91 ล้าน ลบ.ม.วันที่ 30 ต.ค.53 |
|
ตารางและกราฟแสดงข้อมูลน้ำรายวันในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ |
ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมแสดงพื้นที่น้ำท่วมจาก GISTDA (คลิ๊กที่ภาพเพื่อแสดงภาพเต็ม)
ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมแสดงพื้นที่น้ำท่วมภาคเหนือ พบว่าเดือนตุลาคม 2553 ยังคงมีน้ำท่วมที่จังหวัดพะเยา(1,430 ไร่) เชียงราย(52,311 ไร่) อุตรดิตถ์(47,909 ไร่) สุโขทัย(337,383 ไร่) กำแพงเพชร(260,345 ไร่) พิษณุโลก(492,018 ไร่) พิจิตร(541,081 ไร่) และหากเปรียบเทียบกับเดือนกันยายน 2553 พบว่าพื้นที่ภาคเหนือตอนบนพื้นที่น้ำท่วมลดน้อยลง ส่วนพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างมีพื้นที่น้ำท่วมเพิ่มมากขึ้น เช่น จังหวัดสุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก และพิจิตร และหากเทียบกับเดือนพฤศจิกายน พบว่าเดือนพฤศจิกายน ภาคเหนือตอนบนไม่มีน้ำท่วมแล้ว แต่ภาคเหนือตอนล่างยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ รายละเอียดแสดงตามตารางด้านล่าง |
จังหวัด |
กันยายน |
ตุลาคม |
พฤศจิกายน |
พิจิตร | 465,979 | 541,081 | 378,511 |
พิษณุโลก | 365,730 | 492,018 | 320,082 |
สุโขทัย | 305,670 | 337,383 | 292,439 |
กำแพงเพชร | 162,149 | 260,345 | 28,926 |
เชียงราย | 124,268 | 52,311 | - |
อุตรดิตถ์ | 82,146 | 47,909 | 29,890 |
พะเยา | 53,098 | 1,430 | - |
เชียงใหม่ | 3,402 | - | - |
แพร่ | 10,238 | - | - |
ลำพูน | 1,608 | - | - |
ลำปาง | 3,738 | - | - |
ข่าวจากหนังสือพิมพ์
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำป่าทะลักซัดทางขึ้นเขื่อนแควน้อยพัง [ ข่าวสด : 28 ต.ค. 53 ]
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันที่ 26-27 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วยพู ปริมาณน้ำที่ไหลมามากได้ไหลท่วมถนนเส้นทางเข้าเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ความแรงของน้ำได้เกาะเซาะไหล่ทางด้านซ้ายจนเป็นโพรงใหญ่ รถยนต์ที่สัญจรผ่านเข้าเขื่อนแควน้อยฯและอุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแควต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้สำรวจความเสียหายเพื่อทำการซ่อมแซมเป็นการด่วนแล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพิษณุโลกขณะนี้ ยังคงมีน้ำท่วมขังในเขต ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม ที่น้ำจากอ่างเก็บน้ำซำบอน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ยังคงไหลเข้าท่วมอย่างต่อเนื่อง และการระบายน้ำก็เป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากติดแนวคันคลองชลประทาน ที่กลายสภาพเป็นเขื่อนกักน้ำไว้ ส่วนที่ อ.บางระกำ ที่น้ำท่วมขังมาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2553 นั้น ขณะนี้ปริมาณน้ำก็ยังท่วมขังเป็นวงกว้าง มีน้ำจากสุโขทัยและแพร่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะระบายน้ำท่วมลงสู่แม่น้ำน่านและแม่น้ำยมจนกลับสู่ในสภาพปกติได้ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2553
สรุปความเสียหายน้ำท่วมในจังหวัดพิษณุโลก มีบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบ ดังนี้ บ้านเรือนที่พักอาศัยเสียหายจำนวน 3,113 หลัง พื้นที่การเกษตร นาข้าว พืชไร่ พืชสวน ได้รับผลกระทบจำนวน 263,657 ไร่ บ่อปลาเสียหาย 1,171 บ่อ ถนนเสียหาย 99 สาย ฝายกักเก็บน้ำได้รับความเสียหาย 4 แห่ง วัดจำนวน 3 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง สะพาน 3 แห่ง บ่อน้ำ 16 แห่ง ยุ้งข้าว 1 หลัง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 88 ตำบล 617 หมู่บ้าน 17,983 ครัวเรือน
--------------------------------------------------------------------------------------
พิจิตรช้ำ!น้ำป่าหลากผสมน้ำลุ่มน้ำยมท่วม 5 อำเภอ116 หมู่บ้านไร่นาเสียหายอื้อ [ มติชนออนไลน์ : 27 ต.ค. 53 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพิจิตรโดยเฉพาะลุ่มน้ำแม่น้ำยมยังคงท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ 5 อำเภอประกอบด้วย อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง อำเภอวชิรบารมี อำเภอโพทะเล 116 หมู่บ้าน ไร่นาเสียหายกว่า 1 แสนไร่ โดยขณะระดับน้ำจากแม่น้ำยมขยับสูงขึ้นเนื่องจาก มีทั้งน้ำป่า และฝนตกต่อเนื่อง ที่สถานีวัดน้ำ Y 5 อำเภอโพทะเล ระดับน้ำอยู่ 7.55 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติ 60 เซนติเมตร
ทางด้าน นายเสมียน น้อยอ่ำ อายุ 60 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ได้เร่งซ่อมแซมเรือเพื่อนำไปใช้ในการสัญจร และหาปลา เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำยมยังคงท่วมขังและเพิ่มระดับสูงขึ้นกว่าเดิมเกือบ 50 เซนติเมตรในระยะเวลาเพียง 4 วันที่ฝนตกลงมา ทำให้น้ำแม่น้ำยมที่เริ่มลดลงกลับเพิ่มระดับจนท่วมขังบ้านเรือนประชาชน พื้นที่ทางการเกษตร และถนนภายในหมู่บ้านอีกครั้ง
--------------------------------------------------------------------------------------
เชียงรายยังเจอน้ำป่าช่วงต้นหนาว [ ผู้จัดการออนไลน์ : 27 ต.ค. 53]
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า แม้จะเริ่มมีอากาศหนาวเย็นลงแล้ว แต่บางพื้นที่ของเชียงราย ยังไม่พ้นภัยน้ำท่วม โดยล่าสุดได้เกิดเหตุน้ำป่าจากเทือกเขาดอยนางแล ที่ขนานกับถนนพหลโยธินสายเชียงราย-แม่จัน ไหลทะลักลงมาเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้านนางแลใน หมู่ 7 ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย เมื่อวานนี้ (26 ต.ค.)อย่างหนัก หลังเกิดฝนตกบนเทือกเขาอย่างหนักติดต่อกันนานร่วม 5 ชั่วโมง
ทั้งนี้ น้ำป่าที่ไหลทะลักมีความเชี่ยวกราดและขุ่นพัดพาเอาเศษไม้ วัชพืชและดินโคลนมาด้วย ส่งผลทำให้ชาวบ้านจำนวนประมาณ 100 หลังคาเรือน ซึ่งพึ่งจะฟื้นตัวจากการถูกน้ำป่าทะลักเข้าท่วมในลักษณะเดียวกันจนบ้านเรือนเสียหายไปหลายหลังเมื่อประมาณ 1-2 เดือนก่อน ต้องกลับมาประสบกับเหตุการณ์เดิมอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าน้ำป่าจากเทือกเขาได้ไหลลงสู่ลำน้ำและเข้าสู่เรือนประชาชนเป็นวงกว้าง โดยบางจุดระดับน้ำลึกกว่า 1 เมตร แต่ส่วนใหญ่จะลึกประมาณ 30-50 ซ.ม. แต่ก็สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ที่ต้องเร่งขนย้ายทรัพย์ไว้บนที่สูงอย่างจ้าละหวั่น ส่วนข้าวของที่ขนย้ายไม่ทันก็ต้องปล่อยให้เสียหายไป
ด้าน นายภวัคร เลิศมุกดา นายอำเภอเมืองเชียงราย ได้พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) จ.เชียงราย เร่งลงพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะการขนย้ายข้าวของขึ้นไปไว้บนพื้นที่สูง รวมทั้งประเมินสถานการณ์และประกาศเตือนให้ราษฎรในบ้านางแลใน และข้างเคียงอีก 5 หมู่บ้าน ได้ระมัดระวังหรือผู้ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้เพราะเกรงว่าน้ำป่าจะขยายวงกว้างเพราะยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำป่าเขาคลองลานหลากท่วมกำแพงเพชร [ สำนักข่าวไทย : 21 ต.ค. 53 ]
สถานการณ์น้ำท่วมกำแพงเพชรยังขยายวงกว้าง ล่าสุดน้ำป่าจากเทือกเขาไหลหลากเข้าท่วม อ.ขาณุวรลักษบุรี และคลองลาน ขณะที่รถไฟสายเหนือ-กทม.ทั้งเที่ยวขึ้นและล่องหยุดวิ่งทุกเส้นทาง
น้ำป่าจากเทือกเขาคลองลาน จ.กำแพงเพชร ไหลหลากเข้าท่วม ต.โค้งไผ่ อ.ขาณุวรลักษบุรี และหลายพื้นที่ของ อ.คลองลาน บางจุดระดับสูงประมาณ 2 เมตร ชาวบ้านหลายครอบครัวไม่สามารถออกจากบ้านได้ เนื่องจากถนนถูกน้ำท่วมสูง รวมทั้งไหลเชี่ยว และมีแนวโน้มเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรส่งเรือท้องแบนจำนวน 2 ลำ เข้าไปเคลื่อนย้ายสิ่งของและผู้ประสบภัยออกมาพักชั่วคราวริมถนน
ขณะที่จังหวัดแจ้งเตือนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำปิงและที่ราบลุ่ม เตรียมอพยพครอบครัวและขนย้ายสิ่งของไปอยู่ที่ปลอดภัย และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนการสัญจรทางรถไฟ นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เส้นทางรถไฟจากสายเหนือมายัง กทม.และจาก กทม.ขึ้นสายเหนือทุกเส้นทางต้องหยุดการเดินรถ เพราะใน จ.ลพบุรี น้ำท่วมรางรถไฟสูงถึง 2.50 เมตร ส่วนสายอีสาน เส้นทางไป จ.หนองคาย ต้องหยุดให้บริการเดินรถเพราะน้ำท่วมกว่า 1.30 เมตร
---------------------------------------------------------------------------------
ทานน้ำไม่ไหว ลำปางวิกฤต จมบาดาล 1 เมตร [ ไทยรัฐ : 21 ต.ค. 53 ]
นายไกรวิทย์ ปัญญาชัย นายก อบต.แม่พริก จ.ลำปาง เปิดเผยว่า
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำผาวิ่งชู้ในเขตบ้านสันขี้เหล็ก หมู่ 10 ต.แม่พริก
อ.แม่พริก ทำท่าจะรับน้ำป่าที่ไหลลงมาลงในอ่างมากกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร
มาตั้งแต่ 2-3 วันที่ผ่านมาแล้วจนกระทั่งตอนบ่ายของวันนี้ทางผู้รับเหมาสร้างเขื่อนบริษัทศรีสำโรงก่อสร้างจึงได้ตัดสินใจเจาะน้ำออกข้างสันเขื่อนกว้างประมาณ 5 เมตร
เพื่อระบายน้ำทิ้งก่อนที่สันเขื่อนดินเหนียวอัดแน่นจะรับน้ำไม่ไหว
ภายหลังที่เจาะระบายน้ำทิ้งทำให้ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลแม่พริก และอีก 3
หมู่บ้านของ ต.แม่พริกถูกน้ำที่ระบายออกจากอ่างเก็บน้ำไหลเข้าท่วมระดับสูงถึง 1
เมตร ทำให้ไร่จำนวนหลาย 1,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหาย
ส่วนเครื่องใช้ในครัวเรือนไม่ได้รับความเสียหายเนื่องจากได้เตรียมตัวเก็บให้พ้นจากระดับน้ำ
ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ตลอดทั้งวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของ อบต.แม่พริก
และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลแม่พริกได้ระดมฝ่ายกู้ภัยเตรียมพร้อมเพื่อเข้าช่วยเหลือชาวบ้านแล้วตลอด
24 ชั่วโมง แต่สถานการณ์ได้คลี่คลายไปบ้างแล้ว
เนื่องจากน้ำในอ่างเก็บน้ำได้ไหลออกมาจากอ่างจนเกือบหมดแล้ว
ขณะนี้เหลือเพียงน้ำจากแม่น้ำวังที่ไหลผ่านในเขตเทศบาลแม่พริกได้หนุนเอ่อล้นขึ้นมาเสริมเท่านั้นทาง
ด้านนายสุรพล บุรินทร์
นายอำเภอแม่พริก กล่าวว่า
ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลแม่พริกและหมู่บ้านใกล้เคียงเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว
ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ส่วนสัตว์เลี้ยง วัว ควาย เป็ด ไก่
หมู่ สนัข ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ช่วยเหลือชาวบ้านนำไปไว้ในที่สูงแล้ว
และคาดว่าหากในระยะ 2-3 วันข้างหน้า ฝนไม่ตกลงมาเสริมอีก คาดว่าน้ำในอ่างก็จะไหลอ่อนและทางผู้รับเหมาจะได้เสริมซ่อมแซมตรงจุดที่เจาะ
ซึ่งขณะนี้มีความกว้างถึง 5 เมตร และลึกถึง 10
เมตรสำหรับอ่างเก็บน้ำผาวิ่งชู้เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง
เริ่มต้นก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 2551 และมีกำหนดจะสร้างเสร็จในปลายปี 2554 นี้
ด้วยงบประมาณ 300 ล้านบาท
แต่ขนาดนี้กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างแต่ก็ต้องเจาะน้ำทิ้ง เพื่อแก้ไขสถานการณ์
ซึ่งปกติแล้วอ่างเก็บน้ำผาวิ่งชู้แห่งนี้บรรจุน้ำเพียง 600 ลูกบาศก์เมตร เท่านั้น
แต่เมื่อมีฝนตกหนักตลอดเกือบสัปดาห์นี้ ทำให้น้ำป่าที่ไหนลงมาจากลำห้วยต่าง ๆ เข้ามาหนุนจนต้องเจาะน้ำทิ้งเพื่อรักษาสันเขื่อนเอาไว้
ส่วนความเสียหายจะได้ตรวจสอบเพื่อความชัดเจนอีกครั้งหนึ่งต่อไป
เพื่อเตรียมการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
--------------------------------------------------------------------------------------
ภูมิพลจ่อระบายน้ำ เตือนริมน้ำปิงระวังตลิ่งพัง [ ไทยรัฐ : 21 ต.ค. 53 ]
เมื่อ วันที่ 20 ต.ค. ที่ถนนพหลโยธิน
สายจังหวัดกำแพงเพชร-ตาก-เชียงใหม่ ช่วงตำบลลานดอกไม้ตก
ถูกน้ำป่าไหลจากน้ำตกวังชะพลูเข้าท่วมระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอิทธิพลจากพายุดีเปรส
ชั่นอ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ
ทำให้ในหลายพื้นที่ในจังหวัดกำแพงเพชรมีปริมาณฝนตกติดต่อกันหลายวันทำให้มี
น้ำป่าไหลผ่านตำบลวังชะพลู เข้าท่วมบ้านเรือน และไร่นาออกผ่านออกถนนพหลโยธิน
สายจังหวัดกำแพงเพชร-ตาก-เชียงใหม่ นายวันชัย สุทิน ผู้ว่าฯกำแพงเพชร ได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางและให้แขวงการทางจังหวัดฯ นำกรวยและแผงเหล็กตั้งพร้อมป้ายบอกระดับน้ำท่วมและขอบเขตของถนน ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในการสัญจรทั้งขาขึ้นและขาล่อง
ส่วนที่บนถนนสายพรานกระต่าย-สุโขทัย มีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เป็นระยะทางเกือบ
2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องนำป้ายที่เขียนข้อความว่า ข้างหน้ามีน้ำท่วมถนน
ให้ระมัดระวังอันตราย
เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวังป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
น้ำที่ท่วมส่วนใหญ่จะท่วมพื้นผิวจราจร ทำให้สภาพจราจรการใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาบนถนน
สายกำแพงเพชร-สุโขทัยอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างติดขัด
เนื่องจากน้ำป่าไหลจากบนเทือกเขาตากล้าในเขต อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ไหลบ่าเข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่ายและตลาด อ.พรานกระต่าย ซ้ำรอบสอง
โดยระดับน้ำบนถนนในตัวอำเภอพรานกระต่าย ท่วมสูงประมาณ 20 เซนติเมตร
ขณะนี้ทางเทศบาลใช้รถดับเพลิงและเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่
ดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯกำแพงเพชร
ได้ฝากเตือนผู้ใช้รถเดินทางสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แนะนำให้ลดความเร็ว
เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นได้ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม เริ่มที่บ้านท่าเดื่อ
ตำบลท่าขุนราม และบ้านศิลา ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง เดินทางไปต่อที่ ตำบลท่าไม้
ตำบลห้วยยั้ง อำเภอพรานกระต่าย
พร้อมมอบข้าวสารอาหารแห้งให้กับผู้ประสบอุทกภัยที่มารับความช่วยเหลือในตำบล
ดังกล่าวด้วย และได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและกำชับให้แต่ละอำเภอเร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในครั้งโดยเร่งด่วนและให้รีบรายงานมายังจังหวัดเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
วันเดียวกัน
เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้ว่าฯ กำแพงเพชร
ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนจังหวัดกำแพงเพชรที่อยู่ริมแม่น้ำปิงระวังน้ำ
กัดเซาะตลิ่งพัง เนื่องจากเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก จะระบายน้ำออกจากเขื่อนและจะมีน้ำป่าไหลหลากจากหลายพื้นที่ ให้คอยเฝ้าระวัง อย่างใกล้ชิด
--------------------------------------------------------------------------------------
เกิดเหตุน้ำป่าในลำห้วยแม่ละเมา ไหลเอ่อล่นเข้าท่วม 5 หมู่บ้าน ใน ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก [ กรมประชาสัมพันธ์ : 20 ต.ค. 53 ]
เกิดเหตุน้ำป่าในลำห้วยแม่ละเมา ไหลเอ่อล่นเข้าท่วม 5 หมู่บ้าน ใน ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก บางแห่งมีระดับน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร เบื้องต้นมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 200 ไร่
ฝนที่ตกติดต่อกันหลายวันในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ทำให้วันนี้(20 ต.ค.53) มีน้ำป่าจากภูเขา ไหลทะลักมาตามลำห้วยแม่ละเมา เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่หมู่ที่ 2 หมู่ 5 หมู่ 6 หมู่ 7 และหมู่ 8 ของ ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก โดยเฉพาะทางเข้า-ออก หมู่บ้าน บริเวณคอสะพานในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.แม่กาษา ได้ถูกกระแสน้ำไหลตัดผ่าน ระดับน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร ประชาชนไม่สามารถสัญจรไป-มา ได้ ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่อยู่ไกลกว่าแทน นอกจากนี้ระดับน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรทั้งนาข้าว ไร่ข้าวโพด และไร่ถั่ว ใน 5 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหายกว่า 200 ไร่
นายนม เขียววงษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด กล่าวว่า ได้แจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่ ผ่านเสียงตามสายในหมู่บ้านเป็นระยะ เพื่อให้ขนข้าวของหนีน้ำไว้ในที่สูง พร้อมจัดเวรยามคอยเฝ้าระวังระดับน้ำ และคอยให้ความช่วยเหลือชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันได้ออกสำรวจความเสียหายในเบื้องต้น เพื่อรายงานให้ทาง อ.แม่สอด ทราบ เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่อไป
--------------------------------------------------------------------------------------
พิจิตรสั่งอพยพบ้านริมน้ำน่านหลังพบตลิ่งทรุด [ ผู้จัดการออนไลน์ : 14 ต.ค. 53 ]
วันนี้ (14 ต.ค.) นายณรงค์ศักดิ์ หอมมาลัย นายอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่บริเวณริมแม่น้ำน่านด้านฝั่งทิศตะวันตกบริเวณถนนเชิดชูน่านใต้ในเขตเทศบาลเมืองบางมูลนาก ได้เกิดแผ่นดินทรุดตัวเป็นแนวยาว 2 จุด รวมระยะทางกว่า 100 เมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีบ้านเรือนราษฎรปลูกสร้างอยู่ริมตลิ่งจำนวนมาก ตลอดแนวระยะทางประมาณ 400 เมตร โดยจุดอันตรายดินได้ทรุดตัว และส่งผลให้บ้านเรือนหลายหลัง พังลงไปกับสายน้ำ เนื่องจากเป็นบ้านเรือนที่สร้างยื่นเข้าไปในแนวของแม่น้ำน่าน และเป็นเขตของกรมเจ้าท่า
นอกจากนี้ ยังมีอีก 8 หลัง กำลังทรุดและพร้อมที่จะพังล้มครื่นลงในแม่น้ำได้ตลอดเวลา ดังนั้นขณะนี้จึงได้มีการประกาศให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย และได้ขอให้ประชาชนทำการย้ายอพยพออกนอกบริเวณดังกล่าว และไปอาศัยยังที่พักชั่วคราวที่ทางราชการจัดไว้ให้และให้สำนักงานโยธาธิการเข้าตรวจสอบถึงความปลอดภัยต่อไป
อย่างไรก็ตาม พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังห่วงทรัพย์สินและผูกพันกับบ้านเรือน จึงไม่ยอมอพยพตามที่ราชการขอร้อง ซึ่งเวลานี้จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยให้มาจัดเวรยามและพร้อมเข้าช่วยเหลือทันที หากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยเป็นห่วงว่าถ้ามีฝนตกลงมาอาจเกิดเหตุซ้ำเติมเกิดขึ้นอีก
--------------------------------------------------------------------------------------
3 หมู่บ้านแม่พริกลำปางถูกตัดขาดเหตุน้ำล้นอ่างผาวิ่งชู้ [ ผู้จัดการออนไลน์ : 14 ต.ค. 53 ]
นายสุรพล บุรินทราพันธุ์ นายอำเภอแม่พริก นายไกรวิชญ์ ปัญญาชัย นายก อบต.แม่พริก ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง พร้อมด้วยผู้นำหมู่บ้าน นำรถแบ็กโฮ และเรือท้องแบน เข้าช่วยเหลือประชาชนใน 3 หมู่บ้าน เพื่อออกมายังอำเภอ หลังถนนข้ามบ้านห้วยขี้น ไปยังฝั่งของหมู่บ้านแพะดอกเข็ม ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 90 ซม.ทำให้ประชาชนใน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านห้วยขี้นก ม.7 บ้านแพะดอกเข็ม ม.11 และ บ้านปางยาว ม.8 รวม 300 ครัวเรือน กว่า 1,000 คน ไม่สามารถเดินทางออกจากหมู่บ้านมายังฝั่งอำเภอแม่พริกได้ ผู้ป่วยที่ต้องเดินทางออกมารักษา เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถแบล็คโฮและเรือลำเลียงแทน
สืบเนื่องจากมีฝนตกลงมาต่อเนื่องหลายวันในพื้นที่อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำผาวิ่งชู้ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจนล้นความจุของปริมาณกักเก็บในขณะนี้ คือ 6 ลบ.ม.เจ้าหน้าที่ต้องเร่งขุดทางระบายน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากอ่าง ดังนั้น น้ำที่ออกจากอ่างจะต้องระบายออกสู่หมู่บ้านที่อยู่ท้ายน้ำอีก 4 หมู่บ้าน ซึ่งต้องประชาสัมพันธ์เตือนชาวบ้านทั้ง 4 หมู่บ้านให้เตรียมความพร้อม 24 ชั่วโมง หากปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านนายอำเภอแม่พริกและนายก อบต.แม่พริก ได้สั่งการให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 เตรียมเรือท้องแบน สำรอง 2 ลำ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านในการใช้ข้ามฝากเข้ามาในตัวอำเภอพร้อมสำรองไฟแสงสว่างบริเวณจุดข้ามฝากและให้เจ้าหน้าที่ อปพร.อบต.แม่พริก คอยดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมงก่อน หาก ปริมาณน้ำลดลงเหลือประมาณ 30 ซม.จะนำเครื่องจักรเข้าทำคันดินเพื่อทำถนนข้ามฝากให้กับประชาชนต่อไป
ทางด้าน นายแดง คำภิระปาวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านแพะดอกเข็ม กล่าวว่า ขณะนี้ทางชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านเดือดร้อนมาก เนื่องจากถูกตัดขาดจาดภายนอกไม่สามารถขับรถออกไปยังฝั่งอำเภอได้ เกษตรกรที่มีข้าวโพดก็ไม่สามารถนำออกไปจำหน่ายได้เกรงจะได้รับความเสียหาย จึงอยากให้ทางราชการเร่งดำเนินการทำถนนข้ามฝั่งให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนก่อน
--------------------------------------------------------------------------------------
พายุถล่มสุโขทัย“บ้าน-โรงเรียน-เสาไฟฟ้า”พังยับ [ ผู้จัดการออนไลน์ : 2 ต.ค. ]
รายงานข่าวจากสุโขทัย แจ้งว่า ได้เกิดมีพายุพัดถล่มในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีบ้านเรือนราษฎร จำนวน 5 หลังคาเรือนได้รับความเสียหาย และเสาไฟฟ้ากว่า 20 ต้น หักโค่นพังลงมา รวมทั้งมีต้นไม้ขนาดใหญ่ หักโค่นล้มขวางถนนสายสุโขทัย-บางระกำ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดออก และเคลื่อนย้ายหลบข้างทาง เพื่อให้เส้นทางสามารถใช้สัญจรได้
นอกจากนี้ ยังพบมีอาคารเรียน ของโรงเรียนวัดท่าฉนวน ถูกลมพายุพัดหลังคาจนพังทั้งหลัง ทำให้เด็กนักเรียนชั้น ป.2 , ป.3 , ป.4 และชั้นอนุบาล 1 และ 2 ไม่สามารถเข้าเรียนได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม นายจักริน เปลี่ยนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือต่อไปแล้ว
--------------------------------------------------------------------------------------
ชาวบ้านผวา “ดอยแม่สลอง” ดินทรุดยาว 300 เมตร [ ผู้จัดการออนไลน์ : 1 ต.ค. 53 ]
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย ได้ส่งผลให้เกิดดินทรุดตัวในพื้นที่ดอยแม่สลอง เขตหมู่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเชียงรายอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายที่กลุ่มบริษัทสระบุรีถ่านหิน จำกัด ในเครืออิตัลไทย พยายามผลักดันให้รัฐบาลอนุมัติให้ลำเลียงถ่านหินลิกไนต์จากเหมืองเมืองก๊ก ประเทศพม่า ผ่านเข้ามาชายแดนด้านนี้ เพื่อขนส่งต่อไปที่สระบุรี
โดยการทรุดตัวของดินมีลักษณะเป็นทางยาวขนานไปกับถนนภายในหมู่บ้านเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร ส่งผลทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวต่างตื่นตกใจ และออกมาดูรอยแตกร้าวของพื้นผิวถนนกันอย่างระมัดระวัง ซึ่งผลจากการทรุดตัวของดินดังกล่าวได้ทำให้สิ่งปลูกสร้างที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายหรือเสียการทรงตัวไป ขณะที่บ้านบางหลังก็เกิดการทรุดตัวลง หลังคาเอียงและกระจกแตกร้าว
ล่าสุด นายวุฒิพงษ์ สวรรค์โชติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่สลองนอก ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปดูความเสียหายแล้ว ซึ่งพบว่าบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ใกล้กับจุดดินทรุดมากที่สุดจำนวน 8 หลัง จึงได้ให้ชาวบ้านขนข้าวของออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับญาติชั่วคราว เพราะอาจจะเกิดการทรุดตัว จนทำให้บ้านทรุดและก่อให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ยังมีโรงแรม 1 แห่งที่อยู่ในจุดเสี่ยง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจดูสภาพของดินทรุดอย่างละเอียด พบว่ามีความลึกของร่องลึกตั้งแต่ 1 เมตรขึ้นไป และมีความกว้าง 10-20 ซม. แล้วแต่ภูมิประเทศ เนื่องจากบนดอยแม่สลองตั้งอยู่บนสันเขาที่มีถนนและบ้านเรือนเรียงรายไปตลอดแนว ขณะเดียวกัน ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมทรัพยากรธรณี เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อไปอีก และช่วงนี้ได้มีการนำป้าย “อันตรายห้ามเข้า” ไปติดยังจุดที่มีการทรุดตัวและแตกของดินหลายจุดเพื่อเตือนไม่ให้ประชาชนและรถที่สัญจรผ่านไปมาได้เข้าใกล้เพราะเกรงจะทรุดตัวลงไปอีก จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางขึ้นไปตรวจสอบต่อไป
--------------------------------------------------------------------------------------