บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2551
ภาพดาวเทียม GOES-9 | |||||||||
|
2/10/2008 12GMT |
3/10/2008 12GMT |
4/10/2008 12GMT |
5/10/2008 12GMT |
6/10/2008 12GMT |
7/10/2008 07GMT |
8/10/2008 12GMT |
9/10/2008 23GMT |
10/10/2008 12GMT |
11/10/2008 18GMT |
12/10/2008 12GMT |
13/10/2008 12GMT |
14/10/2008 23GMT |
15/10/2008 12GMT |
16/10/2008 14GMT |
17/10/2008 09GMT |
18/10/2008 12GMT |
19/10/2008 13GMT |
20/10/2008 12GMT |
21/10/2008 11GMT |
22/10/2008 12GMT |
23/10/2008 13GMT |
24/10/2008 15GMT |
25/10/2008 12GMT |
26/10/2008 12GMT |
27/10/2008 11GMT |
28/10/2008 11GMT |
29/10/2008 12GMT |
30/10/2008 08GMT |
31/10/2008 09GMT |
1/11/2008 11GMT |
2/11/2008 12GMT |
3/11/2008 11GMT |
4/11/2008 11GMT |
5/11/2008 14GMT |
6/11/2008 12GMT |
7/11/2008 11GMT |
8/11/2008 11GMT |
9/11/2008 11GMT |
10/11/2008 11GMT |
11/11/2008 11GMT |
12/11/2008 12GMT |
13/11/2008 11GMT |
14/11/2008 11GMT |
15/11/2008 11GMT |
||||
จากภาพถ่ายดาวเทียม GOES-9 จะเห็นได้ว่าในช่วงเดือนตุลาคม มีกลุ่มเมฆปกคลุมบริเวณอ่าวไทย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกค่อนข้างมาก หลังจากนั้นพอเข้าช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน กลุ่มเมฆที่ปกคลุมตั้งแต่ตอนบนถึงตอนกลางของประเทศได้ลดต่ำลง และได้เริ่มมีกลุ่มเมฆค่อนข้างมาในบริเวณภาคใต้่ โดยเฉพาะช่วงวันที่ 6-12 พฤศจิกายน ที่มีกลุ่มเมฆปกคลุมพื้นที่ภาคใต้ค่อนข้างหนา เป็นผลทำให้เกิดฝนตกหนักในบริเวณดังกล่าว ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
ภาพแผนที่อากาศ | |||||||||
1/10/2008 |
2/10/2008 |
3/10/2008 |
4/10/2008 |
5/10/2008 |
6/10/2008 |
7/10/2008 |
8/10/2008 |
9/10/2008 |
10/10/2008 |
11/10/2008 |
12/10/2008 |
13/10/2008 |
14/10/2008 |
15/10/2008 |
16/10/2008 |
17/10/2008 |
18/10/2008 |
19/10/2008 |
20/10/2008 |
21/10/2008 |
22/10/2008 |
23/10/2008 |
24/10/2008 |
25/10/2008 |
26/10/2008 |
27/10/2008 |
28/10/2008 |
29/10/2008 |
30/10/2008 |
31/10/2008 |
1/11/2008 |
2/11/2008 |
3/11/2008 |
4/11/2008 |
5/11/2008 |
6/11/2008 |
7/11/2008 |
8/11/2008 |
9/11/2008 |
10/11/2008 |
11/11/2008 |
12/11/2008 |
13/11/2008 |
14/11/2008 |
15/11/2008 |
||||
จากภาพแผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วงวันที่ 1-6 ตุลาคม มีร่องความกดอากาศต่ำ หรือ ร่องฝน พาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นร่องความกดอากาศได้เคลื่อนต่ำลงสู่บริเวณภาคกลางและภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 7-8 ตุลาคม และได้สลายตัวไปในวันต่อมา และในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ประมาณวันที่ 10 พฤศจิกายน ได้เกิดร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านบริเวณภาคใต้่ทุกวัน ทำให้มีฝนตกหนักรวมถึงเกิดน้ำท่วมในหลายบริเวณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
ภาพเรดาร์กรมอุตุนิยมวิทยา | |||||||||
พิษณุโลก 1/10/2008 13:25GMT |
พิษณุโลก 2/10/2008 23:25GMT |
พิษณุโลก 3/10/2008 01 :25GMT |
พิษณุโลก 4/10/2008 17:25GMT |
พิษณุโลก 5/10/2008 13:25GMT |
พิษณุโลก 6/10/2008 23:25GMT |
พิษณุโลก 7/10/2008 00:25GMT |
พิษณุโลก 8/10/2008 01:25GMT |
พิษณุโลก 9/10/2008 11:25GMT |
พิษณุโลก 10/10/2008 07:25GMT |
|
พิษณุโลก 12/10/2008 09:25GMT |
พิษณุโลก 13/10/2008 23:25GMT |
พิษณุโลก 14/10/2008 00 :25GMT |
พิษณุโลก 15/10/2008 11:25GMT |
พิษณุโลก 16/10/2008 09:25GMT |
พิษณุโลก 17/10/2008 16:25GMT |
พิษณุโลก 18/10/2008 17:25GMT |
พิษณุโลก 19/10/2008 10:25GMT |
พิษณุโลก 20/10/2008 23:25GMT |
พิษณุโลก 21/10/2008 13:25GMT |
พิษณุโลก 22/10/2008 12:25GMT |
พิษณุโลก 23/10/2008 19:25GMT |
พิษณุโลก 24/10/2008 10:25GMT |
พิษณุโลก 25/10/2008 18:25GMT |
พิษณุโลก 26/10/2008 00:25GMT |
พิษณุโลก 27/10/2008 11:25GMT |
พิษณุโลก 28/10/2008 00:25GMT |
พิษณุโลก 29/10/2008 21:25GMT |
พิษณุโลก 30/10/2008 17:25GMT |
พิษณุโลก 31/10/2008 19:25GMT |
พิษณุโลก 1 /11/2008 11:25GMT |
พิษณุโลก 2 /11/2008 01:25GMT |
พิษณุโลก 3 /11/2008 22:25GMT |
พิษณุโลก 4/11/2008 11:25GMT |
พิษณุโลก 5/11/2008 14:25GMT |
พิษณุโลก 6 /11/2008 08:25GMT |
พิษณุโลก 7 /11/2008 11:25GMT |
พิษณุโลก 8 /11/2008 11:25GMT |
พิษณุโลก 9/11/2008 01:25GMT |
พิษณุโลก 10/11/2008 17:25GMT |
พิษณุโลก 11/11/2008 11:25GMT |
พิษณุโลก 12/11/2008 11:25GMT |
พิษณุโลก 13/11/2008 17:25GMT |
พิษณุโลก 14/11/2008 17:25GMT |
พิษณุโลก 15/11/2008 14:25GMT |
||||
ระยอง 1/10/2008 00:03GMT |
ระยอง 2/10/2008 23:03GMT |
ระยอง 3/10/2008 08:03GMT |
ระยอง 4/10/2008 10:03GMT |
ระยอง 5/10/2008 10:03GMT |
ระยอง 6/10/2008 10:03GMT |
ระยอง 7/10/2008 09:03GMT |
ระยอง 8/10/2008 08:03GMT |
ระยอง 9/10/2008 09:03GMT |
ระยอง 10/10/2008 04:03GMT |
ระยอง 11/10/2008 17:03GMT |
ระยอง 12/10/2008 00:03GMT |
ระยอง 13/10/2008 21:03GMT |
ระยอง 14/10/2008 00:03GMT |
ระยอง 15/10/2008 10:03GMT |
ระยอง 16/10/2008 13:03GMT |
ระยอง 17/10/2008 00:03GMT |
ระยอง 18/10/2008 23:03GMT |
ระยอง 19/10/2008 00:03GMT |
ระยอง 20/10/2008 06:03GMT |
ระยอง 21/10/2008 01:03GMT |
ระยอง 22/10/2008 05:03GMT |
ระยอง 23/10/2008 10:03GMT |
ระยอง 24/10/2008 23:03GMT |
ระยอง 25/10/2008 05:03GMT |
ระยอง 26/10/2008 23:03GMT |
ระยอง 27/10/2008 05:03GMT |
ระยอง 28/10/2008 05:03GMT |
ระยอง 29/10/2008 23:03GMT |
ระยอง 30/10/2008 11:03GMT |
ระยอง 31/10/2008 01:03GMT |
ระยอง 1/11/2008 05:03GMT |
ระยอง 2/11/2008 05:03GMT |
ระยอง 3/11/2008 11:03GMT |
ระยอง 4/11/2008 05:03GMT |
ระยอง 5/11/2008 17:03GMT |
ระยอง 6/11/2008 21:03GMT |
ระยอง 7/11/2008 06:03GMT |
ระยอง 8/11/2008 08:03GMT |
ระยอง 9/11/2008 03:03GMT |
ระยอง 10/11/2008 00:03GMT |
ระยอง 11/11/2008 05:03GMT |
ระยอง 12/11/2008 13:03GMT |
ระยอง 13/11/2008 13:03GMT |
ระยอง 14/11/2008 14:03GMT |
ระยอง 15/11/2008 20:03GMT |
||||
ข้อมูลจากเครือข่ายภาพเรดาร์ของกรมอุตุนิยมวิทยารัศมีครอบคลุมพื้นที่ตอนบนของประเทศ ซึ่งประกอบด้วย เรดาร์พิษณุโลก และเรดาร์ระยอง (เรดาร์แต่ละตัวรัศมีครอบคลุมพื้นที่ 240 กม.) พบว่าภาพถ่ายจากเรดาร์พิษณุโลกแสดงให้เห็นถึงในช่วงวันที่ 1-8 ตุลาคม มีกลุ่มฝนค่อนข้างหนาแน่นอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นกลุ่มฝนได้สลายตัวไป และกลับมาอีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน และภาพถ่ายจากเรดาร์ระยองแสดงให้เห็นว่าในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้อนเดือนพฤศจิกายนมีกลุ่มฝนค่อนข้างมากบริเวณอ่าวไทย ภาคตะวันออก และครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล |
ปริมาณฝนสะสม | ||||
1/10/2551 00am |
2/10/2551 12am |
3/10/2551 12am |
4/10/2551 00am |
5/10/2551 12am |
6/10/2551 00am |
7/10/2551 12am |
8/10/2551 12am |
9/10/2551 00am |
10/10/2551 00am |
|
12/10/2551 12am |
13/10/2551 00am |
14/10/2551 12am |
15/10/2551 00am |
16/10/2551 00am |
17/10/2551 12am |
18/10/2551 00am |
19/10/2551 12am |
20/10/2551 12am |
21/10/2551 12am |
22/10/2551 12am |
23/10/2551 00am |
24/10/2551 12am |
25/10/2551 12am |
26/10/2551 00am |
27/10/2551 12am |
28/10/2551 12am |
29/10/2551 00am |
30/10/2551 00am |
31/10/2551 00am |
1/11/2551 12am |
2/11/2551 00am |
3/11/2551 12am |
4/11/2551 12am |
5/11/2551 00am |
6/11/2551 00am |
7/11/2551 00am |
8/11/2551 00am |
9/11/2551 12am |
10/11/2551 12am |
11/11/2551 00am |
12/11/2551 12am |
13/11/2551 00am |
14/11/2551 00am |
15/11/2551 00am |
||||
รายงานจากแผนภาพฝนสะสมรายวันจัดทำโดยสถาบันวิจัยทหารเรืออเมริกา พบว่าในช่วงวันที่ 1-9 ตุลาคม บริเวณตอนบนและตอนกลางของประเทศมีฝนเกาะกลุ่มเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นได้สลายตัวลง และได้มีกลุ่มฝนค่อย ๆ รวมตัวขึ้นใหม่อีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคม ในบริเวณภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงภาคใต้่ โดยเฉพาะช่วงวันที่ 25-26 ตุลาคม ที่มีกลุ่มฝนค่อนข้างมากบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนบน และในวันที่ 29 ตุลาคม มีกลุ่มฝนรวมตัวค่อนข้างหนาตั้งแต่ด้านทิศตะวันตกของประเทศ กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ตลอดแนวไปถึงภาคตะวันออก และในช่วงวันที่ 7-11 พฤศจิกายน มีกลุ่มฝนค่อนข้างมากในบริเวณภาคใต้ รายละเอียดเพิ่มเติม |
ปริมาณฝนจากสถานีตรวจวัดกรมอุตุนิยมวิทยา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายงานข้อมูลฝนสะสมจากสถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน พบว่าปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง สูงสุด อยู่ที่สถานี ราชบุรี(1) ในวันที่ 26 ตุลาคม โดยมีปริมาณฝน 141.30 มิลลิเมตร รองลงมาคือ สถานีเกาะสมุยและสถานีนครศรีธรรมราช(1) โดยมีปริมาณฝน 140.30 และ 140 มิลลิเมตร ตามลำดับ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
ข้อมูลระดับน้ำจากสถานีวัดน้ำท่า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายงานข้อมูลระดับน้ำรายวันจากสถานีตรวจวัดระดับน้ำของกรมชลประทานจะพบว่าในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ปริมาณน้ำไหลผ่านได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำไหลผ่านสูงสุดของสถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์อยู่ที่ 2,398 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ส่วนสถานี C.13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่านสูงสุดอยู่ที่ 2,394 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 8 พฤศจิกายน และสถานี C.29 อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านสูงสุดอยู่ที่ 2,330 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 7 พฤศจิกายน |
ข้อมูลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ | ||
ปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนภูมิพล |
ปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนสิริกิติ์ |
ปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนป่าสัก |
ปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนแม่งัด |
ปริมาณน้ำกักเก็บในอ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ |
ปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนจุฬาภรณ์ |
|
ปริมาณน้ำกักเก็บในอ่างเก็บน้ำมูลบน |
ปริมาณน้ำกักเก็บในอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล |
จากกราฟแสดงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จะเห็นได้ว่า ปริมาณน้ำในอ่างฯ ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นมา โดยอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำกักเก็บเกิน 90% ที่ รนก. คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัด อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ อ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬากรณ์ อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำเขื่อนมูลบน และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ส่วนอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน แต่ยังไม่ถึง 90% ที่ รนก. |
ข้อมูลด้านความเสียหาย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สถานการณ์น้ำท่วม วันที่ 12 พฤศจิกายน 2551 รายงานพื้นที่ประสบอุทกภัยด้านการเกษตร ปี 2551 ข้อมูล ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม-11 พฤศจิกายน 2551
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ข้อมูลด้านความเสียหายจากแหล่งอื่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 1.สรุปสถานการณ์สาธารณภัยประจำเดือนตุลาคม 2551 2.สรุปสถานการณ์สาธารณภัยระหว่างวันที่ 4-10 พฤศจิกายน 2551 |
ข่าวจากหนังสือพิมพ์
-------------------------------------------------------------------------------------- สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก [ ฝ่ายข่าวสวท.พิษณุโลก : 8 ต.ค. 51 ] สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ระดับน้ำเริ่มลดลงพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 10,000 ไร่ นายกิตติพงษ์ สิริสานนท์ นายอำเภอบางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบางระกำขณะนี้ แม่น้ำยมที่ท่วม ต.ชุมแสงสงครามและ ต.บางระกำ และระดับน้ำได้ลดระดับลง ขณะนี้ลดไปแล้ว 20 ซม. อย่างไรก็ตามระดับน้ำที่ จ.สุโขทัยมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น คาดว่า 3-4 วันนี้น้ำจากจังหวัดสุโขทัยจะไหลมาถึง อ.บางระกำ จะทำให้บริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น นายอำเภอบางระกำกล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมในเขต อ.บางระกำได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 25 หมู่บ้านพื้นที่การเกษตร 18,530 ไร่ สาย ส่วนใหญ่เป็นนาข้าว บ่อปลา 348 บ่อ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 477 ครอบครัว ถนนลูกรังภายในหมู่บ้านถูกน้ำท่วม 33 สำหรับสถานการณน้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.บางระกำที่จะเข้าสู่ภาวะปกตินั้น ขึ้นอยู่กับการระบายน้ำจาก อ.บางระกำที่จะระบายลงสู่แม่น้ำน่านปริมาณมากน้อยเพียงใด -------------------------------------------------------------------------------------- พายุถล่มซัด 170 หลังคาเรือนพังยับ [ BEC News : 30 ต.ค. 51 ] -------------------------------------------------------------------------------------- กำแพงเพชร-สรุปสถานการณ์น้ำท่วมกำแพงเพชร [ BEC News : 30 ต.ค. 51 ] -------------------------------------------------------------------------------------- นครสวรรค์- น้ำท่วมชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน [ BEC News : 30 ต.ค. 51 ] ชุมชนในเขตเทศบาล ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 200 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ล่าสุดเจ้าหน้าที่ เทศบาลได้น้ำเต็นท์มากลางให้ชาวบ้านาศัยชั่วคราว พร้อมกับแจกจ่ายข้าวสารอาหารแห้งเป็นการเบื้องต้นแล้ว จังหวัดนครสวรรค์ สถานการณ์น้ำท่วมยังคงหน้าห่วง หลายพื้นที่ในจังหวัดนครสวรรค์ กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนัก อย่างชาวบ้านที่ ชุมชนบางปอง ในเขตเทศบาลนคร นครสวรรค์ และ ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ กว่า 200 หลังคาเรือน ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพขนของหนีน้ำขึ้นมาอาศัยอยู่บนที่สูง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับน้ำ ในบึงบอระเพ็ดได้ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครสวรรค์ก็ได้อำนวย ความสะดวกให้ด้วยการนำเต็นท์มากลางไว้ให้บริการชาวบ้าน เพื่อกันแดด กันฝนชั่วคราวในเบื้องต้นแล้ว ขณะที่นายสมเดช ตั้งจิตตถาวรกุล สมาชิกสภาจังหวัดนครสวรรค์ ได้ออกสำรวจความเสียหาย พร้อมทั้งเตรียม ข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งน้ำดื่ม และยาสามัญประจำบ้าน ออกแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน (30/10/51) -------------------------------------------------------------------------------------- อุบล-น้ำท่วมยังไม่คลี่คลายประชาชนเครียดส่งรพ.100ราย [ BEC News : 29 ต.ค. 51 ] -------------------------------------------------------------------------------------- กรุงเก่า-จมบาดาล! ฝนถล่มนํ้าเหนือบ่า [ ไทยรัฐ : 4 พ.ย. 51 ] นายปรีชา กมลบุตร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับพี่น้องชาว อ.ผักไห่ และ อ.บางบาล ที่ถูกน้ำท่วมเป็นรอบที่ 3 ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้หลายหน่วยงานคิดว่าเดือนพฤศจิกายนจะไม่มีฝนแล้ว แต่ก็ยังพบว่ามีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้เขื่อนเก็บน้ำไว้ไม่ได้ ต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เลยทำให้ท้ายเขื่อนถูกน้ำท่วมหนักอีก วันเดียวกัน นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำสิ่งของพระราชทานมามอบให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.บางบาล 500 ชุด และพื้นที่ อ.ผักไห่ 700 ชุด ที่ จ.อ่างทอง หลังเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่หมู่ 2 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ฉับพลัน บางพื้นที่ระดับน้ำสูงราว 50 ซม. ชาวบ้านพากันขนย้ายข้าวของหนีน้ำกลางดึก ขณะที่คันดินกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาท้องที่หมู่ 8 ต.โผงเผง เกิดทรุดตัวเป็นทางยาวเกือบ 100 เมตร ชาวบ้านพากันผวาดผวาอย่างหนัก เพราะล่าสุดน้ำทะลักท่วมพื้นที่ ต.โผงเผง เป็นวงกว้าง 7 หมู่บ้านแล้ว ส่วนเขต อ.เมืองอ่างทอง น้ำเอ่อล้นตลิ่งทะลักท่วมพื้นที่หมู่ 1 ต.จำปาหล่อ ชาวบ้านกว่า 40 หลังคาเรือน ต้องขนข้าวของและสัตว์ เลี้ยงขึ้นไปไว้บนถนนชลประทานสายอ่างทอง-ป่าโมก กันโกลาหล ด้าน จ.ชัยนาท พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมหลายแห่ง ทางจังหวัดประกาศเตือนให้ชาวบ้านระวังอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่นายพงศ์ศักดิ์ อรุณวิจิตรสกุล ผอ.ส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา ชป.12 จ.ชัยนาท เผยว่า เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ตั้งแต่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นภาคเหนือ โดยเฉพาะแม่น้ำปิง จ.ตาก และ จ.กำแพงเพชร มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ จะเพิ่มสูงสุด ระหว่างวันที่ 4-5 พ.ย.นี้ ขณะที่ จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น 73 ลบ.ม./วินาที ส่วนแม่น้ำปิงปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น 30 ซม. ส่งผลให้น้ำทะลักท่วมขยายวงกว้างขึ้น ทางเทศบาลนครนครสวรรค์ออกประกาศเตือนไปยังชุมชนต่างๆ ที่อยู่ในที่ลุ่มริมแม่น้ำปิง และแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เตรียมพร้อมขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของโดยทันที เนื่องจากมีฝนตกหนักในจังหวัดภาคเหนือติดต่อกันหลายวัน ทำให้ มีน้ำป่าไหลรวมกันในแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยา อาจทำให้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน ส่วน จ.กำแพงเพชร หลังมีฝนตกติดต่อกันหลาย วัน ส่งผลให้น้ำป่าไหลทะลักลงแม่น้ำปิง และแม่น้ำสาขา จนระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองต่างๆเพิ่มสูงขึ้น และเอ่อล้นเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ต.โกสัมพีนคร อ.โกสัมพีนคร ถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้าง 5 หมู่บ้าน ถนนทางเข้าหมู่บ้านหลายสายถูกน้ำท่วมสูง เช่นเดียวกับพื้นที่ ต.ลาน ดอกไม้ อ.เมืองกำแพงเพชร มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนัก 3 หมู่บ้าน โรงเรียนบ้านเกาะน้ำโจน หมู่ที่ 4 ต.ลานดอกไม้ จมอยู่ใต้บาดาล ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ต้องปิดเรียนไม่มี กำหนดทางจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มที่ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ในหลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิง ในเขตจังหวัดตาก และกำแพงเพชร เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำมากตามไปด้วยในช่วง วันที่ 4-5 พ.ย.นี้ จึงมอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินมาตรการในการบริหารจัดการน้ำที่จะไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ที่เหมาะสม และไม่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ภาคกลาง นอกจากนี้ยังได้สั่งให้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานในแต่ละจังหวัด จัดส่งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังโดยเร็วที่สุด คาดว่าหากปริมาณน้ำฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม จะทำให้ระดับน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์ข้างหน้า ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยว่า มอบหมาย พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.วรเทพ เมธาวัฒน์ รองโฆษก สั่งการให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องหามาตรการรองรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ประสานสถานีตำรวจจัดชุดอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ชุดชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ออกให้การช่วยเหลือและรักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชน สนับสนุนการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน นำรถยนต์และเรือท้องแบน ช่วยขนย้ายผู้ประสบภัย สิ่งของและรับ-ส่งประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ประสานกับทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ทางด้านภาคใต้หลายจังหวัดทั้ง นครศรีธรรมราช พัทลุง และชุมพร ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังน้ำป่าทะลักท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายลักษณะอากาศว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายน ร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้ รวมทั้งอิทธิพลพายุเขตร้อนจากมหาสมุทร แปซิฟิกด้านตะวันตก เคลื่อนตัวผ่าน ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกชุกหนาแน่นในบริเวณดังกล่าว -------------------------------------------------------------------------------------- ึ้นํ้าภาคกลางขยายวง อยุธยาปิดร.ร. 25 โรง [ ไทยรัฐ : 6 พ.ย. 51 ] สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางได้ขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากน้ำเหนือไหลทะลักลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 พ.ย. น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ระบายลงมาด้วยความเร็ว 2,560 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำน้อย และแม่น้ำลพบุรี ที่ไหลผ่านพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล เสนา มหาราช บางปะอิน บางไทร ผักไห่ และ อ.พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะ อ.เสนา น้ำจากแม่น้ำน้อย ไหลเอ่อท่วมศูนย์การค้าย่านธุรกิจของอำเภอ ระดับน้ำสูงกว่า 60 เซนติเมตร วัดและโรงเรียนหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องใช้ไม้ทำสะพานใช้สัญจรไปมา นางปลิดา กุลรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 (สพท.พระนครศรีอยุธยา เขต 2) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำเหนือไหลหลากลงมายังพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มแม่น้ำน้อย ซึ่งมีโรงเรียนอยู่ในเขตความรับผิดชอบจำนวน 185 โรง ใน อ.บางปะอิน บางบาล บางไทร และ อ.เสนา มีบางโรงเรียนถูกน้ำท่วมสูง เด็กนักเรียนไม่สามารถเดินทางเข้าเรียนหนังสือได้ตามปกติ โดยก่อนหน้านี้ทาง สพท.พระนครศรีอยุธยา เขต 2 ได้สั่งปิดโรงเรียนไปแล้วจำนวน 9 โรง แต่ปริมาณระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีโรงเรียนในเขตความรับผิดชอบทั้งหมดถูกน้ำท่วมสูง จึงได้มีคำสั่งสั่งปิดโรงเรียนรวมทั้งหมด 25 โรง ถ้าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังสูงขึ้นอีกจะต้องสั่งปิดเพิ่มตามความจำเป็น ที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี น้ำได้ล้นทะลักท่วมบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นวงกว้าง 6 ตำบล 1 เทศบาล โดย น.ส.สมคิด คำวิจิตร์ นายก อบต.ประศุก เปิดเผยว่า น้ำได้ท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้ง 7 หมู่บ้าน จำนวน 800 หลังคาเรือน ประชาชนต้องพากันมากางเต็นท์อาศัยอยู่บนคันคลองชลประทานเป็นการชั่วคราว ขณะเดียวกัน นายวิชัย ไพรสงบ ผวจ.สิงห์บุรี และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี ได้นำเครื่องอุปโภคบริโภค 400 ชุด มาแจกจ่ายให้ประชาชนที่ประสบภัยใน ต.ทับยา บริเวณที่ทำการ อบต.ทับยา ส่วนที่ จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง กระแสน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมืองอ่างทอง ที่ ต.จำปาหล่อ จนจมมิดเกือบหมดทั้งตำบล เหลือเพียงหมู่ 7 ซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งถนน ส่วนที่ หมู่ 4 ต.บ้านแห ถูกน้ำท่วมมิด ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร ชาวบ้านที่มีบ้านชั้นเดียว ต้องขนย้ายข้าวของออกมาพักอาศัยริมถนนหลวง ส่วนที่บ้านรอ ต.บางแก้ว เขตเทศบาลเมืองอ่างทอง เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา กระแสน้ำได้กัดเซาะใต้คันเขื่อนทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ต้องระดมเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายไปสร้างคันกั้นน้ำอย่างเร่งด่วน นายชัย สุวพันธุ์ นายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่ามีน้ำไหลทะลักลอดท่อที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งศูนย์ราชการและ รพ.อ่างทอง เนื่องจากระดับน้ำสูงกว่าพื้นดิน 1 เมตร จึงสั่งการให้ เจ้าหน้าที่เทศบาลนำกระสอบทรายอุดขวางท่อเอาไว้ และสร้างคันดินสูงกว่า 2 เมตร ล้อมรอบ รพ.อ่างทอง ถึง 3 ชั้น พร้อมทั้งนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาติดตั้งเพื่อสูบน้ำออกป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมโรงพยาบาล ส่วนที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร นายศุทธนะ ธีวีระปัญญา ผวจ.อ่างทอง เข้าตรวจเยี่ยมกำลังทหารจากหน่วยทหารพัฒนาพื้นที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 จ.กาญจนบุรี และทหารกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์ จ.ลพบุรี จำนวน 30 นาย ที่ลงมาให้ความช่วยเหลือประชาชนสร้างคันกั้นน้ำ จากนั้นจึงเข้าตรวจเยี่ยมประชาชนหมู่ 5 ที่ถูกน้ำท่วมสูงร่วม 2 เมตร ชาวบ้านต้องขนข้าวของออกมาเก็บไว้บนถนน ขณะที่นายสมชาย อนะวัชกุล นายอำเภอป่าโมก ได้ระดมกำลัง อปพร. ร่วมกันทหารสร้างคันกั้นน้ำล้อมรอบที่ว่าการอำเภอป่าโมก เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมที่ว่าการอำเภอ และได้ให้ เจ้าหน้าที่เร่งขนย้ายทรัพย์สินของทางราชการขึ้นไปไว้ในที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายแล้ว เนื่องจากระดับน้ำวันนี้สูงกว่าพื้นดิน 50 เซนติเมตร และได้รับรายงานว่าทางเขื่อนชัยนาทยังปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นจนคันกั้นน้ำอาจจะพังทลายลงได้ ด้านสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุพรรณบุรี นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าระดับน้ำที่ท่วมพื้นที่ อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง และ อ.เมืองสุพรรณบุรี ก็ยังคงสูงขึ้น ซึ่งได้รับรายงานจากโครงการชลประทานสุพรรณบุรี ว่าแนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังเพิ่มสูงขึ้น เฉพาะที่ประตูโพธิ์พระยา ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ระดับ 5.38 เมตร เกือบสูงเท่ากับถนนหน้าวัดไชนาวาส ในเขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา 117.85 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขอให้ประชาชนและเกษตรกรที่อยู่บริเวณริมฝังแม่น้ำท่าจีนเฝ้าระวังระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้สั่งการให้นายเกิดชัย ธัญวัฒนกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุพรรณบุรี ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ส่วนที่ จ.นครสวรรค์ พื้นที่ อ.บรรพตพิสัย น้ำเหนือที่ไหลมาตามแม่น้ำปิงได้ล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ 13 ตำบล 2 เทศบาล 118 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหายเกือบ 3 แสนไร่ ย่านการค้าตลาดเจริญผล ตลาดธีระชัยเมืองใหม่ และที่ว่าการอำเภอบรรพตพิสัย ระดับน้ำสูง 30 ซม.-1 เมตร นอกจากนี้น้ำป่าจาก อ.ลาดยาว ได้ไหลท่วม ต.บ้านแก่ง อ.เมืองนครสวรรค์ พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 2,000 ไร่ โดยเฉพาะหมู่ 3 บ้านวังยาง ได้รับความเสียหายมากที่สุด บ้านเรือน 193 หลังคา น้ำท่วมสูงเฉลี่ย 50 ซม.-1 เมตร ทางเข้าหมู่บ้านระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ ส่วนที่น้ำตกแม่เรวา แก่งลานนกยูง และเกาะแก่งใหญ่ อ.แม่วงก์ ประกาศปิดไม่ให้ประชาชนเข้าไปเพื่อระวังน้ำป่าเป็นเวลา 5 วัน รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ 65 ตำบล 484 หมู่บ้าน 53,689 ครอบครัว พื้นที่การเกษตรเสียหาย 284,796 ไร่ บ่อปลา 70 บ่อ ถนน 262 สาย ที่ จ.ชัยนาท นายพงศ์ศักดิ์ อรุณวิจิตรสกุล ผู้อำนวย การส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา ชป.12 เขื่อนเจ้าพระยา เผยว่า ระดับน้ำที่ไหลจากนครสวรรค์ มายังเขื่อนเจ้าพระยา ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 2,404 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระบายน้ำทิ้งท้ายเขื่อน 2,350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้พื้นที่ที่อยู่ท้ายเขื่อนและต่ำจะมีน้ำท่วมขัง -------------------------------------------------------------------------------------- ี่ |
ข้อมูลอ้างอิง |