บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุแกมี "GAEMI" (1-10 ตุลาคม 2555 )

3/10/55 19.00 น. - 4/10/55 19.00 น.

4/10/55 19.00 น. - 5/10/55 19.00 น.

5/10/55 19.00 น. - 6/10/55 19.00 น.

6/10/55 19.00 น. - 7/10/55 19.00 น.

7/10/55 19.00 น. - 8/10/55 19.00 น.

8/10/55 19.00 น. - 9/10/55 19.00 น.

9/10/55 19.00 น. - 10/10/55 19.00 น.

ภาพเส้นทางพายุแกมี "GAEMI" โดย UNISYS Weather

ที่มา : http://weather.unisys.com/hurricane/index.php พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) ในทะเลจีนใต้ตอนกลางได้เคลื่อนขึ้นฝั่งเมืองกวีนอน ประเทศเวียดนามในวันที่ 6 ต.ค. 55 จากนั้นเคลื่อนตัวผ่านประเทศกัมพูชาพร้อมทั้งอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นก่อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดสระแก้ว เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 ต.ค. 55 และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกในวันที่ 8 ต.ค. 55 ก่อนเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบนในเวลาต่อมา

ภาพถ่ายดาวเทียม GOES-9 โดย มหาวิทยาลัยโคชิ
3/10/2555[12GMT]	4/10/2555[09GMT]	5/10/2555[10GMT]	6/10/2555[11GMT]
7/10/2555[09GMT]	8/10/2555[11GMT]	9/10/2555[07GMT]	10/10/2555[10GMT]

ภาพแผนที่อากาศ โดย กรมอุตุนิยมวิทยา
1/10/2555[07UTC]	2/10/2555[07UTC]	3/10/2555126UTC]	4/10/2555[12UTC]	5/10/2555[12UTC]
6/10/2555[19UTC]	7/10/2555[19UTC]	8/10/2555[19UTC]	9/10/2555[19UTC]	10/10/2555[19UTC]

แผนที่อากาศระดับความสูง 1.5 ก.ม. โดย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร
1/10/2555[07น.]	1/10/2555[19น.]	2/10/2555[07น.]	2/10/2555[19น.]	3/10/2555[07น.]	3/10/2555[19น.]	4/10/2555[07น.]	4/10/2555[19น.]	5/10/2555[07น.]	5/10/2555[19น.]
6/10/2555[07น.]	6/10/2555[19น.]	7/10/2555[07น.]	7/10/2555[19น.]	8/10/2555[07น.]	8/10/2555[19น.]	9/10/2555[07น.]	9/10/2555[19น.]	10/10/2555[07น.]	10/10/2555[19น.]
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://live1.hii.or.th/wrf_image/weather_map.php จากภาพแผนที่อากาศระดับสูง 1.5 ก.ม. เหนือระดับน้ำทะเล พบว่ามีบริเวณความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกในวันที่ 7 ต.ค. 55 และเคลื่อนตัวไปปกคลุมพื้นที่ภาคกลาง ด้านตะวันตกของประเทศ และภาคใต้ตอนบน ในวันที่ 8-9 ต.ค. 55 โดยค่าความกดอากาศต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 846-848 hPa

แผนที่ความเร็วลมที่ระดับความสูง 1.5 ก.ม. โดย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร
1/10/2555[07น.]	1/10/2555[19น.]	2/10/2555[07น.]	2/10/2555[19น.]	3/10/2555[07น.]	3/10/2555[19น.]	4/10/2555[07น.]	4/10/2555[19น.]	5/10/2555[07น.]	5/10/2555[19น.]
6/10/2555[07น.]	6/10/2555[19น.]	7/10/2555[07น.]	7/10/2555[19น.]	8/10/2555[07น.]	8/10/2555[19น.]	9/10/2555[07น.]	9/10/2555[19น.]	10/10/2555[07น.]	10/10/2555[19น.]
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://live1.hii.or.th/wrf_image/weather_map.php จากภาพแผนที่อากาศระดับสูง 1.5 ก.ม. เหนือระดับน้ำทะเล พบว่าช่วงวันที่ 6-9 ต.ค. 55 มีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยค่าความเร็วลมสูงสุดสุดอยู่ที่ประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาพเรดาร์ตรวจอากาศ โดย กรมอุตุนิยมวิทยา
เรดาร์อุบลราชธานี รัศมี 120 กิโลเมตร
1/10/2555 [11:33GMT]	2/10/2555 [16:33GMT]	3/10/2555 [06:33GMT]	4/10/2555 [23:33GMT]	5/10/2555 [19:33GMT]
6/10/2555 [19:33GMT]	7/10/2555 [11:33GMT]	8/10/2555 [14:33GMT]	9/10/2555 [11:33GMT]	10/10/2555 [06:33GMT]
dBz     ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/radar/show_svpradar.php
เรดาร์สุรินทร์ รัศมี 120 กิโลเมตร
1/10/2555 [12:00GMT]	2/10/2555 [14:00GMT]	3/10/2555 [14:00GMT]	4/10/2555 [17:00GMT]	5/10/2555 [22:00GMT]
6/10/2555 [20:00GMT]	7/10/2555 [15:00GMT]	8/10/2555 [17:00GMT]	9/10/2555 [11:00GMT]	10/10/2555 [11:00GMT]
dBz ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/radar/show_srnradar.php
เรดาร์สุวรรณภูมิ รัศมี 240 กิโลเมตร
1/10/2555 [11:29GMT]	2/10/2555 [23:29GMT]	3/10/2555 [11:29GMT]	4/10/2555 [13:29GMT]	5/10/2555 [15:29GMT]
6/10/2555 [03:29GMT]	7/10/2555 [23:29GMT]	8/10/2555 [05:29GMT]	9/10/2555 [20:29GMT]	10/10/2555 [21:29GMT]
dBz ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/radar/show_svpradar.php
หมายเหตุ : เวลาประเทศไทย = เวลา GMT + 7 ชั่วโมง จากเครือข่ายภาพเรดาร์ตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เรดาร์อุบลราชธานี เรดาร์สุรินทร์ และเรดาร์สุวรรณภูมิ พบว่าช่วงวันที่ 5-7 ต.ค. 55 มีกลุ่มฝนมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง จากนั้นกลุ่มฝนได้เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกและประเทศและภาคใต้ตอนบน ช่วงวันที่ 8-10 ต.ค. 55

ภาพเรดาร์ตรวจอากาศ โดย สำนักงานฝนหลวงและการบินเกษตร
เรดาร์ชะอำ รัศมี 240 กิโลเมตร
1/10/2555 [12:00]	2/10/2555 [15:00]	3/10/2555 [14:00]	4/10/2555 [15:00]	5/10/2555 [15:00]
6/10/2555 [19:00]	7/10/2555 [18:00]	8/10/2555 [13:00]	9/10/2555 [15:00]	10/10/2555 [15:00]
dBz                 หมายเหตุ : เวลาที่แสดงเป็นเวลาประเทศไทย ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/radar/show_rm_hhnradar.php จากเครือข่ายภาพเรดาร์ตรวจอากาศของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร เรดารชะอำ พบว่าช่วงวันที่ 1-10 ต.ค. 55 มีฝนตกกระจายตัวในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะวันที่ 6 และ 8 ต.ค. 55 ที่มีฝนตกมาก

แผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมรายวัน โดย NASA
1/10/55[00Z]-2/10/55[00Z]	2/10/55[00Z]-3/10/55[00Z]	3/10/55[00Z]-4/10/55[00Z]	4/10/55[00Z]-5/10/55[00Z]	5/10/55[00Z]-6/10/55[00Z]
6/10/55[00Z]-7/10/55[00Z]	7/10/55[00Z]-8/10/55[00Z]	8/10/55[00Z]-9/10/55[00Z]	9/10/55[00Z]-10/10/55[00Z]	10/10/55[00Z]-11/10/55[00Z]
mm.

รายละเอียดเพิ่มเติม : http://disc2.nascom.nasa.gov/Giovanni/tovas/realtime.3B42RT.2.shtml

จากแผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมรายวันของ NASA พบว่าช่วงวันที่ 5-9 ต.ค. 55 มีกลุ่มฝนกระจุกตัวกันมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง
และด้านตะวันตกของประเทศ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากร่องความกดอากาศที่สลายตัวจากพายุดีเปรสชั่นแกมี "GAEMI" โดยเฉพาะช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. ที่มีฝนตกหนัก
ด้านตะวันตกของประเทศทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันที่ อ.สวนผึ้ง และ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี อ.ด่านมะขามเตี้ย และ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ปริมาณฝนสะสมรายวันจากสถานีตรวจอากาศ โดย กรมอุตุนิยมวิทยา

         รายงานข้อมูลปริมาณฝนสะสมรายวันจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยาช่วงวันที่ 1-10 ต.ค. 55
บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง พบว่าสถานีที่มีฝนตกเกิน 50 มิลลิเมตรต่อวัน
แสดงดังตารางด้านล่าง

ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โดย กรมชลประทาน
ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนคลองสียัด	ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนประแสร์
ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง	ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำพระเพลิง
ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรี	ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.html หย่อมความกดอากาศต่ำที่สลายตัวจากพายุดีเปรสชั่นแกมี "GAEMI" ทำให้เกิดฝนตกหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 6-10 ต.ค. 55 แต่้ปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในแนวร่องฝน มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ระดับน้ำจากสถานีตรวจวัดระดับน้ำท่า โดย กรมชลประทาน
(K.10) บ้านลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี	(K.12) บ้านทุ่งนานางรอง อ.เมือง จ.กาญจบุรี
(K.17) บ้านบ่อ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี	(K.37) บ้านวังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/show_itcwater.php           จากการตรวจวัดระดับน้ำของสถานีตรวจวัดน้ำท่า กรมชลประทาน พบว่าจากการที่มีฝนตกหนักช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. 55 ทางด้านตะวันตกของประเทศ ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณ จ.ราชบุรี และ จ.กาญจนบุรี เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยที่สถานี (K.17) บ้านบ่อ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ระดับน้ำขึ้นสูงสุด 4.67 เมตร ในวันที่ 9 ต.ค. 55 และสถานี (K.37) บ้านวังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ระดับน้ำขึ้นสูงสุด 8.21 เมตร ในวันที่ 10 ต.ค. 55

ระดับน้ำจากระบบโทรมาตร โดย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร
สถานี MUN002 ต. หนองยาง อ. เฉลิมพระเกียรติ จ. นครราชสีมา ระดับน้ำสูงสุด 166.14 ม.รทก. วันที่ 14 ต.ค. 55	สถานี MUN003 ต. โบสถ์ อ. พิมาย จ. นครราชสีมา ระดับน้ำสูงสุด 147.68 ม.รทก. วันที่ 13 ต.ค. 55
สถานี THA005 ต. ท่าพี่เลี้ยง อ. เมืองสุพรรณบุรี จ. สุพรรณบุรี ระดับน้ำสูงสุด 3.20 ม.รทก. วันที่ 11 ต.ค. 55	สถานี THA007 ต. บางเลน อ. บางเลน จ. นครปฐม ระดับน้ำสูงสุด 2.54 ม.รทก. วันที่ 13 ต.ค. 55
สถานี PRC002 ต. หน้าเมือง อ. เมืองปราจีนบุรี จ. ปราจีนบุรี ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ปริมาณฝนไม่ส่งผลให้น้ำในลำน้ำเพิ่มขึ้น	สถานี RAJ001 ต. เจ็ดเสมียน อ. โพธาราม จ. ราชบุรี ระดับน้ำสูงสุด 5.07 ม.รทก. วันที่ 11 ต.ค. 55

จากการตรวจวัดระดับน้ำจากระบบโทรมาตร ของ สสนก. พบว่าการที่มีฝนตกหนักช่วงวันที่ 6-9 ต.ค. 55 จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำที่สลายตัวจากพายุแกมี ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำสายหลัก
เพิ่มขึ้นจากเดิมเพียงเล็กน้อย ยกเว้นที่ราชบุรี ที่ระดับน้ำเพิ่มขึ้นมากแต่ยังไม่ล้นตลิ่ง

ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงพื้นที่น้ำท่วม โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA)

	รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-2 บันทึกภาพวันที่ 4 ตุลาคม 2555 เวลา 06.15 บริเวณบางส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี พิจิตร ฉะเชิงเทรา สุโขทัย นครสวรรค์ พิษณุโลก นครปฐม นครนายก ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ปทุมธานี สระบุรี ชลบุรี อุตรดิตถ์ นนทบุรี ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ ขอนแก่น หนองคาย อุดรธานี สระแก้ว นครราชสีมา และอุทัยธานี อ่านรายงานเพิ่มเติม		รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-2 บันทึกภาพวันที่ 5 ตุลาคม 2555 เวลา 18.26 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี พิจิตร ฉะเชิงเทรา กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา สุโขทัย นครสวรรค์ พิษณุโลก นครปฐม นครนายก อ่างทอง ปทุมธานี สิงห์บุรี ลพบุรี ชัยนาท สระบุรี ชลบุรี กรุงเทพมหานคร อุตรดิตถ์ นนทบุรี สมุทรปราการ และเพชรบูรณ์ อ่านรายงานเพิ่มเติม
	รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-1 บันทึกภาพวันที่ 6 ตุลาคม 2555 เวลา 06.01 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก ชัยภูมิ ขอนแก่น และสระแก้ว อ่านรายงานเพิ่มเติม		รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-1 บันทึกภาพวันที่ 7 ตุลาคม 2555 เวลา 18.16 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก พิจิตร ชลบุรี เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ชัยภูมิ นครราชสีมา ขอนแก่น ปทุมธานี สระบุรี หนองคาย อุดรธานี นครสวรรค์ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สระแก้ว กรุงเทพมหานคร และจังหวัดร้อยเอ็ด อ่านรายงานเพิ่มเติม
	รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-2 บันทึกภาพวันที่ 9 ตุลาคม 2555 เวลา 18.10 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดสกลนคร อุดรธานี สุรินทร์ หนองคาย ขอนแก่น นครพนม ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ นครราชสีมา บึงกาฬ ยโสธร อุบลราชธานี มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อ้านาจเจริญ อ่านรายงานเพิ่มเติม		รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-1 บันทึกภาพวันที่ 9 ตุลาคม 2555 เวลา 06.12 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม นครสวรรค์ พิจิตร สุโขทัย พิษณุโลก อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี ก้าแพงเพชร ชัยนาท สระบุรี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ราชบุรี นนทบุรี อุตรดิตถ์ นครนายก สมุทรปราการ อุทัยธานี กาญจนบุรี และกรุงเทพมหานคร อ่านรายงานเพิ่มเติม
	รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-1 บันทึกภาพวันที่ 10 ตุลาคม 2555 เวลา 18.27 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปราจีนบุรี นครสวรรค์ พิจิตร ฉะเชิงเทรา สุโขทัย นครปฐม พิษณุโลก ลพบุรี อ่างทอง นครนายก สิงห์บุรี ชัยนาท ปทุมธานี สระบุรี ชลบุรี นนทบุรี ก้าแพงเพชร อุตรดิตถ์ ราชบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร เพชรบูรณ์ และอุทัยธานี อ่านรายงานเพิ่มเติม		รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-2 บันทึกภาพวันที่ 11 ตุลาคม 2555 เวลา 06.08 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม สุพรรณบุรี นครนายก ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชลบุรี ปทุมธานี สระบุรี นครสวรรค์ นนทบุรี กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น สมุทรปราการ อุดรธานี หนองคาย เพชรบูรณ์ สกลนคร บึงกาฬ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และจังหวัดมหาสารคาม อ่านรายงานเพิ่มเติม
	รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-2 บันทึกภาพวันที่ 14 ตุลาคม 2555 เวลา 05.19 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดนครสวรรค์ สุพรรณบุรี สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ชัยนาท ก้าแพงเพชร ราชบุรี และอุทัยธานี อ่านรายงานเพิ่มเติม		รายงานการติดตามพื้นที่น้้าท่วม ปี 2555 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-1 บันทึกภาพวันที่ 17 ตุลาคม 2555 เวลา 18.23 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ นครปฐม ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา พิจิตร ลพบุรี พิษณุโลก นครนายก อ่างทอง สิงห์บุรี ปทุมธานี ชัยนาท สระบุรี ชลบุรี นนทบุรีสมุทรปราการ ราชบุรี กรุงเทพมหานคร อุทัยธานี และเพชรบูรณ์ อ่านรายงานเพิ่มเติม

ข้อมูลด้านความเสียหาย โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

รายงานเหตุด่วนสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม ประจำวันที่ 9 ตุลาคม 2555
(ตัดมาเฉพาะส่วนรายงานอุกทกภัยบริเวณจังหวัดราชบุรีและกาญจนบุรี)

1) จังหวัดราชบุรี วันที่ 8 ตุลาคม 2555 ฝนตกหนักทำให้ป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 3 ตำบล ได้แก่ อำเภอสวนผึ้ง ตำบลสวนผึ้ง ตำบลตะนาวศรี และอำเภอจอมบึง ตำบลแก้มอ้น ปัจจุบันสถานการณ์ระดับน้ำลดลง หากฝนไม่ตกเพิ่มคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในวันพรุ่งนี้
2) จังหวัดกาญจนบุรี วันที่ 8 ตุลาคม 2555 ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 3 ตำบล ได้แก่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย ตำบลหนองไผ่ ตำบลด่านมะขามเตี้ย และอำเภอเมือง ตำบลบ้านเก่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำจากราชบุรียังคงไหลเข้าท่วมในพื้นที่

---------------------------------------------------------
รายงานเหตุด่วนสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2555
(ตัดมาเฉพาะส่วนรายงานสถานการณ์อุทกภัย)

สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา พิษณุโลก พิจิตร อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และจังหวัดสมุทรปราการ รวม 42 อำเภอ 339 ตำบล 2,144 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 112,010 ครัวเรือน 325,474 คน สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และจังหวัดเพชรบุรี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายอยู่ระหว่างฟื้นฟู

- ลุ่มน้ำแม่กลอง
1) จังหวัดกาญจนบุรี ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 3 ตำบล ได้แก่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย ตำบลหนองไผ่ ตำบลด่านมะขามเตี้ย และอำเภอเมือง ตำบลบ้านเก่า ปัจจุบันสถานการณ์ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลดลง

- พื้นที่ภาคตะวันออก
1) จังหวัดปราจีนบุรี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 54 ตำบล ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วม 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ เมืองปราจีนบุรี บ้านสร้าง ศรีมโหสถ และอำเภอประจันตคาม อำเภอกบินทร์บุรี (ระดับวิกฤต 9.24 ม.) สูงกว่าวิกฤต 0.49 ม. ระดับน้ำลดลง อำเภอศรีมหาโพธิ (ระดับวิกฤต 9.00 ม.) ต่ำกว่าวิกฤต 0.12 ม. ระดับน้ำลดลง อำเภอเมืองปราจีนบุรี (ระดับวิกฤต 4.15 ม.) สูงกว่าวิกฤต 0.17 ม. ระดับน้ำลดลง อำเภอบ้านสร้าง (ระดับวิกฤต 3.00 ม.) สูงกว่าวิกฤต 0.56 ม. ระดับน้ำลดลง
2) จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เกิดฝนตกหนักและน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ 35 ตำบล 252 หมู่บ้าน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขัง 8 อำเภอ 33 ตำบล 236 หมู่บ้าน ได้แก่ (อ.เมือง บางคล้า บางน้ำเปรี้ยว พนมสารคาม คลองเขื่อน บ้านโพธิ์ ราชสาส์น และสนามชัยเขต) สถานการณ์ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำบางปะกง และคลองท่าลาด แนวโน้มระดับน้ำลดลง

- ลุ่มน้ำยม
1) จังหวัดพิษณุโลก เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำป่าไหลหลากทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ 39 ตำบล ปัจจุบันสถานการณ์น้ำที่อำเภอบางระกำ (บ้านบางระกำ Y.16 ระดับตลิ่ง 7.00 ม.) สูงกว่าตลิ่ง 1.07 ม. ระดับน้ำลดลง อำเภอพรหมพิราม และ อำเภอเมืองพิษณุโลก ตำบลบ้านกร่าง ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง แนวโน้มลดลง
2) จังหวัดพิจิตร น้ำจากแม่น้ำยมที่ไหลมาจากจังหวัดสุโขทัยได้เอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ 19 ตำบล ปัจจุบันสถานการณ์อำเภอสามง่าม ตำบลรังนก (หมู่ที่ 1-4,6-9,11,12) (บ้านสามง่าม Y.17 ระดับตลิ่ง 7.04 ม.) ต่ำกว่าตลิ่ง 1.79 ม. ระดับน้ำลดลง และอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ตำบลดงเสือเหลือง (หมู่ที่ 8) ไผ่ท่าโพ (หมู่ที่ 1,9) และตำบลวังจิก (หมู่ที่ 1,3,7,8,10) แนวโน้มระดับน้ำลดลง

- ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
1) จังหวัดอ่างทอง ได้เกิดน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยกัดเซาะตลิ่งและเอ่อล้นเข้าท่วม ในพื้นที่ 5 อำเภอ 12 ตำบล ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำอำเภอป่าโมก ตำบลโผงเผง บางเสด็จ และ ทต.ป่าโมก (ตำบลปางปลากด) ระดับน้ำลดลง สถานการณ์คลี่คลายอยู่ระหว่างการฟื้นฟู
2) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 90 ตำบล ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ (อ.พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางไทร) และ แม่น้ำน้อยตั้งแต่ (อ.ผักไห่ เสนา บางบาล) ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นประมาณ 0.01-0.10 ม. แม่น้ำลพบุรีตั้งแต่ (อ.บ้านแพรก มหาราช) และแม่น้ำป่าสัก ระดับน้ำลดลง
3) จังหวัดสมุทรปราการ เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ต่อเนื่อง เป็นเหตุให้น้ำในคลองประเวศน์บุรีรมย์ คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต คลองลำปลาทิว คลองจระเข้ใหญ่ คลองจระเข้น้อย ล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 5 ตำบล ได้แก่ อำเภอบางบ่อ อำเภอบางเสาธง ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขัง 2 อำเภอ ระดับน้ำทรงตัว

- ลุ่มน้ำท่าจีน
1) จังหวัดสุพรรณบุรี ได้เกิดฝนตกหนักประกอบกับน้ำจากจังหวัดกาญจนบุรีไหลเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 58 ตำบล มีผู้เสียชีวิต 3 ราย (อ.สองพี่น้อง) ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง อำเภออู่ทอง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี อำเภอบางปลาม้า และอำเภอหนองหญ้าไซ (อำเภอสองพี่น้อง T.13 ระดับตลิ่ง 3.00 ม.) ต่ำกว่าตลิ่ง 0.07 ม. ปัจจุบันสถานการณ์น้ำสูงเฉลี่ยประมาณ 0.10-0.30 ม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น
2) จังหวัดนครปฐม ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมขังที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำท่าจีนในพื้นที่ 7 อำเภอ 87 ตำบล ที่ อำเภอบางเลน (ระดับตลิ่ง 2.20 ม. สูงกว่าตลิ่ง 0.31 ม.) อ.นครชัยศรี (ระดับตลิ่ง 1.70 ม. สูงกว่าตลิ่ง 0.42 ม.) ปัจจุบันสถานการณ์น้ำสูงประมาณ 0.20-0.40 ม. โดยรวมระดับน้ำเพิ่มขึ้น

อ่านรายงานเพิ่มเติม

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ -------------------------------------------------------------------------------------- พิษ "แกมี" พื้นที่เกษตรเมืองกาญจน์เสียหายแล้วกว่าหมื่นไร่ [ ไทยรัฐออนไลน์ : 9 ต.ค. 55 ] จังหวัดกาญจนบุรีสำรวจพื้นที่หลัง "พายุแกมี" ผ่านพ้น พบพื้นที่ได้รับความเสียหายหลายตำบล ถนนถูกตัดขาด ที่ดินการเกษตรเสียหายกว่า 1 หมื่นไร่ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ภายหลังจากพายุ "แกมี" ได้เคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ภาคกลาง ทำให้มีฝนตกในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี อย่างหนาแน่น ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำลำพาชี ซึ่งไหลมาจากบ้านคา อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มีระดับสูงขึ้น จนเอ่อล้นตลิ่งเมื่อเวลา 23.00 น. วานนี้ (8 ต.ค.) และไหลบ่าเข้าท่วมสร้างความเสียหายในหลายหมู่บ้านของ อ.ด่านมะขามเตี้ย โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายจำรัส กังน้อย นอภ.ด่านมะขามเตี้ย ได้ออกตรวจสอบพื้นที่ ก่อนเปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ต.ค. 55 ว่า ล่าสุด อ.ด่านมะขามเตี้ย ได้รับความเสียหายทั้ง 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ด่านมะขามเตี้ย ต.จรเข้เผือก และ ต.กลอนโด โดยเฉพาะพื้นที่ ต.หนองไผ่ ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีระดับน้ำสูงเฉลี่ย 1-2 เมตร ถนนในหมู่บ้านหลายสายได้รับความเสียหาย รถยนต์ธรรมดาไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ส่งผลให้ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ทั้งนี้ ทางอำเภอด่านมะขามเตี้ยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งอพยพราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนไปพักพิงกับญาติๆ ประมาณ 50 ครัวเรือน พร้อมกับลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เป็นการเร่งด่วนแล้ว สำหรับความเสียหายในเบื้องต้นพบว่า มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนประมาณ 500 ครัวเรือน รวมกว่า 2,000 คน และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 1 หมื่นไร่แล้ว นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผวจ.กาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่ ต.หนองไผ่ ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ พร้อมเปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในขณะนี้พบว่า พื้นที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย ได้ถูกน้ำไหลบ่าเข้าท่วมในหลายหมู่บ้านในพื้นที่ 4 ตำบล และ ต.บ้านเก่า อ.เมือง ได้เกิดน้ำป่าได้ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ระดับน้ำสูงประมาณ 50–100 เซนติเมตร ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 ครัวเรือน ทางจังหวัดจึงได้สั่งการให้ทางอำเภอเร่งอพยพราษฎรผู้ประสบภัยไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย เช่น ที่ทำการ อบต.–เทศบาล โรงเรียน และวัด ซึ่งได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับ พร้อมอาหาร 3 มื้อไว้เรียบร้อยแล้ว และบางส่วนที่ยังพออาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมได้ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป   -------------------------------------------------------------------------------------- น้ำท่วมสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ยังน่าห่วง ปชช.เริ่มอพยพมาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว [ ThaiPBS : 9 ต.ค. 55 ] ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องจากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำ ที่อ่อนกำลังจากพายุแกมี ยังคงส่งผลให้สถานการณ์น้ำป่า ที่ไหลทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ในอ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี น่าเป็นห่วง ขณะที่ทหารเร่งระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ โดยเฉพาะสะพานที่ถูกน้ำซัดขาด ทหารจากกรมการทหารช่าง และทหารหน่วยเฉพาะกิจค่ายพระยาเสือ เร่งติดตั้งสะพานแบริ่ง บริเวณสะพานบ้านทุุ่งแฝก หมู่ที่ 2 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี หลังถูกน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีซัดขาดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (8ต.ค.55) เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านหลายหมู่บ้าน ที่ถูกตัดขาด ขณะที่ตลอดทั้งวัน ยังคงมีฝนตกในพื้นที่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำป่าเพิ่มขึ้นและไหลเชี่ยว ซัดสะพานในต.สวนผึ้งพังเสียหายอีก 5 แห่ง ได้แก่สะพานบ้านทุ่งไม้แดง ในพื้นที่หมู่ 2  สะพานบ้านหวาย หมู่ 3 สะพานบ้านนาขุนแสน หมู่ 4 สะพานเข้ารีสอร์ท และ สะพานหุบไซร์ ในหมู่ที่ 5 นอกจากนี้ กระแสน้ำยังได้ซัด ฝายน้ำล้นในหมู่ 3 และถนนเข้าศูนย์อพยพบ้านถ้ำหิน หมู่ 5 เสียหายทั้งหมด เช่นเดียวกับพื้นที่การเกษตรที่เสียหายอีกกว่า 1,000 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 ครอบครัว ล่าสุดสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนัก ทำให้ชาวบ้านบางพื้นที่ ต้องอพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เริ่มทยอยนำเครื่องอุปโภคบริโภค ไปแจกจ่ายให้กับราษฎรที่เดือดร้อน พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยได้ทันที -------------------------------------------------------------------------------------- แกมีทำน้ำท่วมราชบุรี-ด่านมะขามเตี้ย [ โพสต์ทูเดย์ : 9 ต.ค. 55 ] ปภ.เตือนราชบุรี -กาญจนบุรี ยังได้รับผลกระทบพายุแกมี ขณะที่ น้ำป่าหลากท่วมราชบุรี อ.สวนผึ้ง กลางดึก! สะพานขาด4 แห่ง ที่เมืองกาญจน์ ด่านมะขามเตี้ยน้ำสูงเกือบเมตร นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ "พายุแกมี"ได้อ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังมีจังหวัดราชบุรีและกาญจนบุรีในบางพื้นที่เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ และยังต้องจับตาฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้ แม้ร่องความกดอากาศต่ำ จะเคลื่อนตัวไปประเทศพม่าแล้วก็ตาม ขณะที่มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนได้เคลื่อนตัวลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือมีอากาศเย็นลง นอกจากนี้นายฉัตรชัย ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งสำรวจประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว โดยจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เพื่อให้ประชาชนมีความพึงพอใจมากที่สุด เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา น้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี และน้ำจาก จ.ราชบุรี ไหลลงสู่ลำคลอง ประกอบกับเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก วัดได้กว่า 130 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำในลำห้วยภาชี ต.หนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เพิ่มระดับขึ้นเกินจุดวิกฤติ เครื่องเตือนระดับน้ำมีเสียงดัง และมีไฟกะพริบสีแดงตลอดเวลา เป็นสัญญาณเตือนให้ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของไปอยู่ที่สูง นอกจากนี้ น้ำยังล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมาก ถนนและสะพานหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินไปไว้บนที่สูง แต่บางจุดไม่สามารถทำได้ เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว คาดว่าเช้าวันนี้ (9 ต.ค.) น้ำจะไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย ทั้งหมด นายชัยวัฒน์   ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำใน อ.ด่านมะขามเตี้ย น่ากังวลที่สุดหลังน้ำเริ่มท่วมในพื้นที่สูงกว่า 1 ม. และยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำต้องรับน้ำจาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ล่าสุดเริ่มอพยพประชาชนแล้ว เร่งระบายน้ำออกคลองสาขาสู่แม่น้ำแควน้อย ยืนยันบริหารจัดการน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ , เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนท่าม่วง ให้ดีที่สุด ส่วนที่ จ.ราชบุรี ได้รับผลกระทบจากพายุแกมี  ทำให้มีฝนตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดราชบุรี ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร โดยเฉพาะที่ อ.สวนผึ้ง มีน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี ไหลลงมารวมกับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กระแสน้ำรุนแรงมากซัดคอสะพานที่เชื่อมต่อถนนสายหลักเข้าหมู่บ้านขาดไปถึง 4 แห่ง ล่าสุดเช้านี้ นายปิติธรรม  ฐิติมนตรี  รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี  และนายรังสรรค์  ตันเจริญ  นายอำเภอสวนผึ้ง  ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณสะพานบ้านทุ่งแฝกหมู่ 2  ต.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นสะพานเข้าหมู่บ้านถูกน้ำป่ากัดเซาะคอสะพานขาดเป็นระยะทางกว้างกว่า 15 เมตร ชาวบ้านไม่สามารถสันจรไปมาได้  ต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นซึ่งมีระยะทางไกลออกไป  เจ้าหน้าที่ของกรมการทหารช่างได้เตรียมนำสะพานแบริ่งซึ่งเป็นสะพานชั่วคราวมาทอดเพื่อให้ชาวบ้านได้สันจรได้ก่อนที่จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาซ่อมแซม  สำหรับคอสะพานที่ขาดนั้นได้แก่ สะพานบ้านทุ่งแฝก หมู่ 2  ต.สวนผึ้ง  สะพานบ้านทุ่งไม้แดง หมู่ 2   ต.สวนผึ้ง สะพานเข้ารีสอร์ท สวนผึ้งฮิลล์รีสอร์ท  ซึ่งเป็นสะพานที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกรีสอร์ท  แต่ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางออกมาก่อนที่จะเกิดน้ำป่าซัดคอสะพานขาดแล้ว และสะพานบ้านนาขุนแสน  นอกจากนี้ยังมีสะพานอีกหลายตัวในพื้นที่อำเภอสวนผึ้งที่กำลังเสี่ยงต่อการถูกน้ำป่าเซาะตัดขาด  ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเฝ้าระวังเพื่อจะได้แจ้งเตือนไม่ให้ประชาชนไปใช้เส้นทางดังกล่าว  ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กำลังเร่งเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่อาจจะติดค้างอยู่ไม่สามารถออกเดินทางมาได้  เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป ส่วนบรรยากาศที่อำเภอสวนผึ้งในช่วงเช้านี้ฝนหยุดตก แต่ท้องฝ้าก็ยังมีเฆมฝนอยู่    ซึ่งคาดว่าถ้าฝนไม่ตกสภาพน้ำป่าที่ไหลแรงอยู่ในขณะนี้ก็จะเบาบางลงได้ -------------------------------------------------------------------------------------- 'สระแก้ว' เตรียมพร้อมรับมือพายุแกมีถล่มเต็มที่ [ ไทยรัฐออนไลน์ : 7 ต.ค. 55 ] สระแก้ว เตรียมพร้อมรับมือ พายุแกมี สั่งเฝ้าระวัง เตรียมความพร้อมและแจ้งเตือนในการช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง... เมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีรายงานว่า ที่ห้องประชุมบูรพา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายชัช กิตตินภดล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ในที่ประชุมได้กำหนดแผนเตรียมรับมือพายุแกมี คาดว่าจะมีผลกระทบในช่วงวันที่ 5 ถึงวันที่ 8 ตุลาคมนี้ โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อประสานการทำงานทั้ง 9 อำเภอ ในการช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งให้มิสเตอร์เตือนภัยในทุกหมู่บ้านแจ้งข้อมูลสถานการณ์ สำรวจฝาย อ่างเก็บน้ำ เขื่อน ให้มีความแข็งแรง สามารถรองรับน้ำในปริมาณมากได้ นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยง เช่น ริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณเชิงเขา ติดตามสถานการณ์และพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด จากสื่อสารมวลชนในพื้นที่ เช่น สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสระแก้ว หอกระจายข่าวในหมู่บ้าน เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น รวมทั้งเตรียมขนย้ายสิ่งของที่จำเป็นมาอยู่ในที่ปลอดภัยที่ทางราชการจัดให้ สำหรับผู้ประสบภัย สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว โทรศัพท์ 037-425-475-8 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นายวรศักดิ์ สิริภาพ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้วชี้แจงสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำในจังหวัดสระแก้วว่า จากจำนวนอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ทั้งหมด 15 แห่ง มีน้ำเต็มอ่างแล้ว 10 แห่ง ส่วนที่ยังไม่เต็มคืออ่างเก็บน้ำในเขตอำเภอเขตตาพระยา อ่างเก็บน้ำทั้งหมดมีขนาดความจุ 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ณ วันนี้ ทุกอ่างมีน้ำรวมกันทั้งหมด 174 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น ร้อยละ 86 ของความจุทั้งหมด นายวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือน้ำในลำคลองและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดคลองพระปรง ทั้งนี้โดยปกติจะสามารถใช้อ่างเก็บพระปรง อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก และอ่างเก็บน้ำคลองเกลือ ชะลอน้ำไว้ได้ แต่ขณะนี้ทั้งสามอ่างมีน้ำเต็มและล้นผ่านทางระบายน้ำล้นอยู่แล้ว ถ้าฝนตกมาอีก น้ำจะล้นผ่านอ่างเก็บน้ำมาเลย ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในที่ลุ่มในบริเวณที่ติดคลองพระปรงได้ จึงฝากเตือนประชาชนที่อยู่ติดคลองพระปรงที่เป็นที่ลุ่มให้ระมัดระวัง อาจเกิดน้ำท่วมได้ในกรณีที่เกิดฝนตกหนัก สำหรับการเตรียมการเพื่อรับสถานการณ์พายุแกมีที่อาจมีผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้วชี้แจงว่า ทางชลประทานได้เริ่มพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำ เช่น อ่างเก็บน้ำพระปรง และทำต่อเนื่องมาตลอดสัปดาห์เพื่อลดระดับน้ำลง และได้เปิดน้ำเข้าทุ่งบางส่วน ซึ่งต้องระวังไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ข้าวที่กำลังตั้งท้องอยู่ ส่วนสถานการณ์น้ำด้านอำเภออรัญประเทศ นายวรศักดิ์ สิริภาพ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้ว กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจเกิดน้ำท่วม เนื่องจากน้ำในคลองพรหมโหดตอนปลายมีระดับน้ำค่อนข้างสูง และน้ำในคลองลึกที่เป็นคลองพรมแดนระหว่างไทยกัมพูชาก็มีน้ำค่อนข้างมาก หากฝนตกลงมามาก น้ำในคลองพรหมโหดที่ไหลผ่านอำเภออรัญประเทศก็มีแนวโน้มที่จะล้นขึ้นมาได้ ประชาชนแถบนั้นจึงควรระมัดระวังไว้เช่นกัน อย่างไรก็ดี นายวรศักดิ์ สิริภาพ กล่าวว่า น้ำในจังหวัดสระแก้วปกติจะท่วมไม่เกิน 7 วัน โดยที่ยังสามารถระบายออกไปทางประเทศกัมพูชาและอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรีได้ เพราะเป็นที่ต่ำกว่าและน้ำที่ท่วมขังอยู่ก่อนหน้านี้ได้ลดระดับลงบ้างแล้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดสระแก้ว กล่าวในตอนท้ายแนะนำให้ประชาชนติดตามข่าวสารและสังเกตน้ำในลำคลอง ซึ่งโดยปกติแล้วสำหรับระดับน้ำในคลองต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว ทางโครงการชลประทานสระแก้ว สามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าได้ในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ส่วนทางอรัญประเทศ เตือนล่วงหน้าได้ในช่วง 6-10 ชั่วโมง อย่างไรก็ดี ขอให้ชาวบ้านสังเกตน้ำด้วยตนเองด้วย โดยให้ดูจากปริมาณฝนที่ตก ถ้าฝนตกมาก และน้ำในคลองมีสีขุ่นแดง ให้เพิ่มความระวังยิ่งขึ้น  ส่วนทางด้านพื้นที่ที่อยู่ติดกับอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ที่อาจได้รับน้ำเพิ่มมาจากทางสอยดาว ได้แก่ อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอวังสมบูรณ์ อำเภอคลองหาด อำเภอเขาฉกรรจ์ และอำเภอเมือง ทางชลประทานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว -------------------------------------------------------------------------------------- "แกมี" ถล่มแหลก โคราชระทมจมบาดาลแล้ว [เดลินิวส์ : 6 ต.ค. 55 ] วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และตำบลใกล้เคียงอย่างหนัก ถนนสายหลักหลายสายมีระดับน้ำท่วมขังสูงตั้งแต่ 10 ซม.ไปจนถึง 60  ซม. โดยเฉพาะถนนเดชอุดม , สืบสิริ , มุขมนตรี , ถนนสายราชสีมา – โชคชัย บริเวณแยกหัวทะเล และถนนสุรนารายณ์ระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50-60  ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ทั้งนี้ปริมาณน้ำท่วมขังเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเช้าซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนต้องใช้เส้นทางสัญจรผ่านไปมาอย่างหนาแน่น ทำให้มีรถเล็กอาทิรถจักรยานยนต์ และรถเก๋งหลายสิบคันต้องฝ่าระดับน้ำที่ท่วมขังจนเป็นเหตุให้ต้องจอดเสียอยู่บนถนนหลายสิบคันการจราจรติดขัดอย่างหนัก ขณะที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ออกกระจายลงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเพื่อกำจัดเศษมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลที่อุดตัดท่อระบายน้ำเพื่อเปิดทางน้ำน้ำไหลระบายได้อย่างสะดวกและให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในเที่ยงวันวันเดียวกัน -------------------------------------------------------------------------------------- พายุ"แกมี"ส่งผลโคราชแล้ว ฝนตกต่อเนื่อง "ลำพระเพลิง"ยันรับน้ำได้อีกมาก [ มติชนออนไลน์ : 5 ต.ค. 55 ] ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครราชสีมา ภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนพายุโซนร้อนที่กำลังก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลจีนใต้ ที่มีชื่อว่าแกมีได้เคลื่อนตัวมายังประเทศเวียดนาม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในตั้งแต่วันที่ 6-8 ตุลาคมนี้ ล่าสุดวันที่  5 ตุลาคม เมื่อเวลา 14.10 น. พายุโซนร้อนแกมีได้ส่งผลกระทบพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาแล้ว ทำให้ในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมามีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ ซึ่งทำให้ในหลายพื้นที่มีปริมาณน้ำท่วมขังเล็กน้อย แต่ยังสามารถระบายได้ดี ขณะที่นายประเทือง  วันดี หน.จัดสรรน้ำและบำรุงรักษาอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เปิดเผยว่า ในอ่างเก็บลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ที่เดิมทีมีระดับน้ำอยู่ที่ 103 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมด 110 ล้าน ลบ.ม. ล่าสุดปริมาณน้ำยังคงมีการไหลเข้าเฉลี่ยอยู่ที่ วินาทีละ 16 ลบ.ม. หรือ 1.7 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ทำให้ทางอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงต่อเร่งระบายอย่างเต็มพิกัด อยู่ที่ 3.2 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือเฉลี่ยวันละ 2.7 ล้านลบ.ม. ซึ่งการที่เร่งระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำล่าสุดอยู่ที่ 100.80 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งยังคงสามารถรองรับน้ำได้อีก 10 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งตนมั่นใจว่าพายุแกมี จะไม่ส่งผลกระทบในเรื่องของน้ำล้นตลิ่ง หรือทำความเสียหายให้แก่พื้นที่ทางการเกษตรอย่างแน่นอน --------------------------------------------------------------------------------------

ข้อมูลอ้างอิง

ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th

เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th

ผู้จัดการออนไลน์ http://www.manager.co.th

โพสต์ทูเดย์ http://www.posttoday.com

มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th

ThaiPBS http://www.thaipbs.or.th