ภาพเคลื่อนไหวแสดงปริมาณฝนสะสม
ช่วงวันที่ 29 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายน 2559
ช่วงวันที่ 25-30 ตุลาคม 2559
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางอย่างต่อเนื่อง
ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงเช่นกัน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง รวมทั้งหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างที่ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศมาเลเซียแล้วเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยในวันที่ 30 ตุลาคม 2559 ส่งผลทำให้เกือบทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในช่วงวันที่ 31 ตุลาคม ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ใกล้เคียง
โดยเหตุการณ์ฝนตกหนักในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ทำให้ปริมาณน้ำในลุ่มน้ำแม่ประจันต์มีปริมาณมาก เนื่องจากมีน้ำจาก จ.ราชบุรี เข้ามาสมทบเพิ่มมากขึ้น ทำให้อ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ น้ำเต็มอ่างเกินจำนวนที่จะรับได้ จึงมีการระบายน้ำจากห้วยแม่ประจันต์ลงในแม่น้ำเพชรบุรีมากขึ้น ส่งผลทำให้เขื่อนเพชรต้องเปิดการระบายน้ำในอัตรา 190 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และต้องเร่งผลักดันน้ำระบายออกทะเลโดยเร็ว เนื่องจากอำเภอเมือง ในพื้นที่ 4 ตำบล คือ บ้านกุ่ม บ้านหม้อ หนองโสน ต้นมะม่วง มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวม 1,880 หลังคาเรือน อำเภอบ้านแหลม 2 ตำบล คือ บางครกและท่าแร้ง รวม 880 หลังคาเรือน น้ำได้ไหลเข้าท่วมที่นาและบ้านเรือน ตลอดจนถนนหนทางในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี และต่อมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559
ชลประทานจังหวัดเพชรบุรีได้เพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชร จากวันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 ระบายอยู่ที่ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 228 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลบ่าเข้าท่วม 2 อำเภอ ประกอบด้วย 1) อำเภอเมือง ทั้งหมด 5 ตำบล 1 เทศบาลเมือง 2) อำเภอบ้านแหลม 3 ตำบล โดยปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก
ข้อมูลโดย : Kochi University
จากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม Himawari-8 พบว่าตั้งแตวันที่ 25 ตุลาคม ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 มีกลุ่มเมฆปกคลุมประเทศไทยค่อนข้างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากในบางพื้นที่
![]() 25/10/59 15GMT |
![]() 26/10/59 10GMT |
![]() 27/10/59 10GMT |
![]() 28/10/59 8GMT |
![]() 29/10/59 10GMT |
![]() 30/10/59 10GMT |
![]() 31/10/59 10GMT |
![]() 1/11/59 10GMT |
![]() 2/11/59 5GMT |
![]() 3/11/59 10GMT |
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaiwater.net/TyphoonTracking/Goes9.php
ข้อมูลโดย : กรมอุตุนิยมวิทยา
ช่วงวันที่ 25-30 ตุลาคม 2559 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางอย่างต่อเนื่อง ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 25-27 ตุลาคม 2559 จากนั้นได้อ่อนกำลังลง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง และหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างที่ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศมาเลเซียแล้วเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยในวันที่ 30 ตุลาคม 2559 ส่งผลทำให้เกือบทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในช่วงวันที่ 31 ตุลาคม ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน
![]() 25/10/59 |
![]() 26/10/59 |
![]() 27/10/59 |
![]() 28/10/59 |
![]() 29/10/59 |
![]() 30/10/59 |
![]() 31/10/59 |
![]() 1/11/59 |
![]() 2/11/59 |
![]() 3/11/59 |
![]() 25/10/59 |
![]() 26/10/59 |
![]() 27/10/59 |
![]() 28/10/59 |
![]() 29/10/59 |
![]() 30/10/59 |
![]() 31/10/59 |
![]() 1/11/59 |
![]() 2/11/59 |
![]() 3/11/59 |
![]() 25/10/59 |
![]() 26/10/59 |
![]() 27/10/59 |
![]() 28/10/59 |
![]() 29/10/59 |
![]() 30/10/59 |
![]() 31/10/59 |
![]() 1/11/59 |
![]() 2/11/59 |
![]() 3/11/59 |
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://live1.hii.or.th/wrf_image/weather_map.php, http://live1.hii.or.th/wrf_image/weather_map_latest.php?img=pressure_upperwind_1500m_low_latest.flv
ข้อมูลโดย : Ocean Weather Inc.
แผนภาพแสดงความสูงของคลื่นและทิศทางของคลื่นแสดงให้เห็นว่า จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำส่งผลให้ความสูงของคลื่นในทะเลเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันบริเวณทะเลจีนใต้มีคลื่นสูงเพิ่มขึ้นมาก จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นที่เคลื่อนตัวอยู่บริเวณดังกล่าว
![]() 25/10/59 |
![]() 26/10/59 |
![]() 27/10/59 |
![]() 28/10/59 |
![]() 29/10/59 |
![]() 30/10/59 |
![]() 31/10/59 |
![]() 1/11/59 |
![]() 2/11/59 |
![]() 3/11/59 |
![]() 25/10/59 11:00GMT |
![]() 26/10/59 12:00GMT |
![]() 27/10/59 04:00GMT |
![]() 28/10/59 15:00GMT |
![]() 29/10/59 16:00GMT |
![]() 30/10/59 15:00GMT |
![]() 31/10/59 11:00GMT |
![]() 1/11/59 02:00GMT |
![]() 2/11/59 15:00GMT |
![]() 3/11/59 02:00GMT |
![]() 25/10/59 06:03GMT |
![]() 26/10/59 04:03GMT |
![]() 27/10/59 07:03GMT |
![]() 28/10/59 23:03GMT |
![]() 29/10/59 00:03GMT |
![]() 30/10/59 02:03GMT |
![]() 31/10/59 03:03GMT |
![]() 1/11/59 02:03GMT |
![]() 2/11/59 07:03GMT |
![]() 2/11/59 07:03GMT |
![]() 25/10/59 |
![]() 26/10/59 |
![]() 27/10/59 |
![]() 28/10/59 |
![]() 29/10/59 |
![]() 30/10/59 |
![]() 31/10/59 |
![]() 1/11/59 |
![]() 2/11/59 |
![]() 3/11/59 |
วันที่ |
ชื่อสถานี |
ตำบล |
อำเภอ |
จังหวัด |
ปริมาณฝนสะสมรายวัน(มม.) |
2016-10-26 | บ้านปากคลอง | บ้านกุ่ม | เมืองเพชรบุรี | เพชรบุรี | 51.6 |
อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ | ห้วยสัตว์ใหญ่ | หัวหิน | ประจวบคีรีขันธ์ | 50.6 | |
แยกยางชุม | หาดขาม | กุยบุรี | ประจวบคีรีขันธ์ | 49.6 | |
ไร่ใหม่พัฒนา | ไร่ใหม่พัฒนา | ชะอำ | เพชรบุรี | 44.4 | |
บ้านลาด | บ้านลาด | บ้านลาด | เพชรบุรี | 43.4 | |
อบต.ทับใต้ | ทับใต้ | หัวหิน | ประจวบคีรีขันธ์ | 38.4 | |
อบต.บางกระเจ้า | บางกระเจ้า | เมืองสมุทรสาคร | สมุทรสาคร | 38.0 | |
แยกชะอำ | ชะอำ | ชะอำ | เพชรบุรี | 37.8 | |
เขื่อนเพชร | ท่ายาง | ท่ายาง | เพชรบุรี | 37.6 | |
น้ำตกเก้าชั้น | สวนผึ้ง | สวนผึ้ง | ราชบุรี | 37.6 | |
วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน | ทองมงคล | บางสะพาน | ประจวบคีรีขันธ์ | 36.4 | |
บ้านมะเดื่อทอง | เขาล้าน | ทับสะแก | ประจวบคีรีขันธ์ | 33.6 | |
2016-10-27 | บ้านปากคลอง | บ้านกุ่ม | เมืองเพชรบุรี | เพชรบุรี | 50.4 |
แยกชะอำ | ชะอำ | ชะอำ | เพชรบุรี | 42.4 | |
อบต.ปลายโพงพาง | ปลายโพงพาง | อัมพวา | สมุทรสงคราม | 34.0 | |
เขื่อนเพชร | ท่ายาง | ท่ายาง | เพชรบุรี | 32.6 | |
อบต.ทับใต้ | ทับใต้ | หัวหิน | ประจวบคีรีขันธ์ | 32.0 | |
2016-10-28 | ขุนทะเล | ขุนทะเล | ลานสกา | นครศรีธรรมราช | 62.6 |
อบต.บางกระเจ้า | บางกระเจ้า | เมืองสมุทรสาคร | สมุทรสาคร | 38.2 | |
ศาลาดิน | มหาสวัสดิ์ | พุทธมณฑล | นครปฐม | 33.2 | |
อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ | ถนนพญาไท | ราชเทวี | กรุงเทพมหานคร | 30.4 | |
กระทรวงวิทยาศาสตร์ | ถนนพญาไท | ราชเทวี | กรุงเทพมหานคร | 30.4 | |
2016-10-29 | น้ำตกเก้าชั้น | สวนผึ้ง | สวนผึ้ง | ราชบุรี | 58.8 |
แยกยางชุม | หาดขาม | กุยบุรี | ประจวบคีรีขันธ์ | 54.8 | |
อบต.ทับใต้ | ทับใต้ | หัวหิน | ประจวบคีรีขันธ์ | 44.8 | |
อบต.บางกระเจ้า | บางกระเจ้า | เมืองสมุทรสาคร | สมุทรสาคร | 35.8 | |
อบต.ปลายโพงพาง | ปลายโพงพาง | อัมพวา | สมุทรสงคราม | 35.2 | |
บ้านหนองตาจอน | ทุ่งหลวง | ปากท่อ | ราชบุรี | 35.0 | |
กุยบุรี | กุยบุรี | กุยบุรี | ประจวบคีรีขันธ์ | 34.0 | |
โป่งกระทิง | บ้านบึง | บ้านคา | ราชบุรี | 32.0 | |
ศาลาดิน | มหาสวัสดิ์ | พุทธมณฑล | นครปฐม | 31.0 | |
บ้านลาด | บ้านลาด | บ้านลาด | เพชรบุรี | 30.4 | |
2016-10-30 | บางสะพานน้อย | บางสะพาน | บางสะพานน้อย | ประจวบคีรีขันธ์ | 42.4 |
ทุ่งคาวัด | ทุ่งคาวัด | ละแม | ชุมพร | 30.0 | |
2016-10-31 | อบต.เกาะหลัก | เกาะหลัก | เมืองประจวบคีรีขันธ์ | ประจวบคีรีขันธ์ | 115.4 |
แยกยางชุม | หาดขาม | กุยบุรี | ประจวบคีรีขันธ์ | 66.8 | |
ท่าไม้ลาย | วังใหม่ | เมืองชุมพร | ชุมพร | 59.0 | |
วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน | ทองมงคล | บางสะพาน | ประจวบคีรีขันธ์ | 55.2 | |
น้ำตกเก้าชั้น | สวนผึ้ง | สวนผึ้ง | ราชบุรี | 55.2 | |
โป่งกระทิง | บ้านบึง | บ้านคา | ราชบุรี | 52.0 | |
บางสะพานน้อย | บางสะพาน | บางสะพานน้อย | ประจวบคีรีขันธ์ | 35.4 | |
กุยบุรี | กุยบุรี | กุยบุรี | ประจวบคีรีขันธ์ | 34.6 | |
บ้านหนองตาจอน | ทุ่งหลวง | ปากท่อ | ราชบุรี | 31.0 | |
2016-11-01 | บางสะพานน้อย | บางสะพาน | บางสะพานน้อย | ประจวบคีรีขันธ์ | 33.6 |
วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน | ทองมงคล | บางสะพาน | ประจวบคีรีขันธ์ | 32.0 | |
2016-11-02 | อบต.เกาะหลัก | เกาะหลัก | เมืองประจวบคีรีขันธ์ | ประจวบคีรีขันธ์ | 72.2 |
แยกยางชุม | หาดขาม | กุยบุรี | ประจวบคีรีขันธ์ | 46.8 | |
วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน | ทองมงคล | บางสะพาน | ประจวบคีรีขันธ์ | 33.4 | |
2016-11-03 | วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน | ทองมงคล | บางสะพาน | ประจวบคีรีขันธ์ | 104.0 |
บางสะพานน้อย | บางสะพาน | บางสะพานน้อย | ประจวบคีรีขันธ์ | 57.2 |
![]() |
![]() |
|
![]() |
![]() |
|
![]() |
![]() |
![]() 25/10/59 |
![]() 26/10/59 |
![]() 27/10/59 |
![]() 28/10/59 |
![]() 29/10/59 |
![]() |
![]() 30/10/59 |
![]() 31/10/59 |
![]() 1/11/59 |
![]() 2/10/59 |
![]() 3/10/59 |
วันที่ |
สถานี |
ตำบล |
อำเภอ |
จังหวัด |
ปริมาณฝนสะสมรายวัน(มม.) |
2016-10-25 | กรุงเทพฯ ท่าเรือคลองเตย | คลองเตย | คลองเตย | กรุงเทพมหานคร | 131.0 |
สนามบินดอนเมือง | สีกัน | ดอนเมือง | กรุงเทพมหานคร | 63.0 | |
หนองคาย | โพธิ์ชัย | เมืองหนองคาย | หนองคาย | 53.6 | |
2016-10-26 | นครสวรรค์ | นครสวรรค์ออก | เมืองนครสวรรค์ | นครสวรรค์ | 118.4 |
2016-10-27 | กระบี่ | เหนือคลอง | เหนือคลอง | กระบี่ | 69.8 |
พลิ้ว สกษ. | ตะปอน | ขลุง | จันทบุรี | 69.2 | |
หนองพลับ สกษ. | หนองพลับ | หัวหิน | ประจวบคีรีขันธ์ | 64.2 | |
พัทยา | หนองปรือ | บางละมุง | ชลบุรี | 63.6 | |
กาญจนบุรี | บ้านเหนือ | เมืองกาญจนบุรี | กาญจนบุรี | 61.1 | |
หัวหิน | หัวหิน | หัวหิน | ประจวบคีรีขันธ์ | 54.2 | |
เขื่อนภูมิพล | สามเงา | สามเงา | ตาก | 51.1 | |
เพชรบุรี | หาดเจ้าสำราญ | เมืองเพชรบุรี | เพชรบุรี | 50.1 | |
2016-10-28 | จันทบุรี | วัดใหม่ | เมืองจันทบุรี | จันทบุรี | 67.7 |
หัวหิน | หัวหิน | หัวหิน | ประจวบคีรีขันธ์ | 52.4 | |
2016-10-29 | ภูเก็ต | ตลาดใหญ่ | เมืองภูเก็ต | ภูเก็ต | 81.8 |
พัทลุง สกษ. | ลำปำ | เมืองพัทลุง | พัทลุง | 61.2 | |
นครศรีธรรมราช | ปากพูน | เมืองนครศรีธรรมราช | นครศรีธรรมราช | 60.8 | |
2016-10-30 | ราชบุรี | อ่างทอง | เมืองราชบุรี | ราชบุรี | 63.9 |
ตราด (คลองใหญ่) | คลองใหญ่ | คลองใหญ่ | ตราด | 61.8 | |
เกาะสีชัง | ท่าเทววงษ์ | เกาะสีชัง | ชลบุรี | 60.9 | |
กาญจนบุรี | บ้านเหนือ | เมืองกาญจนบุรี | กาญจนบุรี | 57.8 | |
2016-10-31 | สุราษฎร์ธานี สกษ. | ท่าอุแท | กาญจนดิษฐ์ | สุราษฎร์ธานี | 80.5 |
นครศรีธรรมราช | ปากพูน | เมืองนครศรีธรรมราช | นครศรีธรรมราช | 65.6 | |
นครศรีธรรมราช สกษ. | บางจาก | เมืองนครศรีธรรมราช | นครศรีธรรมราช | 61.4 | |
เกาะสมุย | มะเร็ต | เกาะสมุย | สุราษฎร์ธานี | 54.1 | |
ชุมพร | ท่าตะเภา | เมืองชุมพร | ชุมพร | 52.8 | |
2016-11-01 | สวี สกษ. | วิสัยใต้ | สวี | ชุมพร | 72.0 |
เกาะสมุย | มะเร็ต | เกาะสมุย | สุราษฎร์ธานี | 66.1 | |
หนองพลับ สกษ. | หนองพลับ | หัวหิน | ประจวบคีรีขันธ์ | 57.9 | |
2016-11-02 | นครศรีธรรมราช | ปากพูน | เมืองนครศรีธรรมราช | นครศรีธรรมราช | 78.3 |
ข้อมูลโดย : NARVAL
จากแผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมรายวันจากสถาบันวิจัยทหารเรืออเมริกา (NARVAL) ช่วงวันที่ 25 ตุลาคม ถึง วันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 พบว่ามีกลุ่มฝนกระจุกตัวอยู่บริเวณภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะช่วงวันที่ 26-28 ตุลาคม 2559 และช่วงวันที่ 30 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2559
![]() 25/10/59 |
![]() 26/10/59 |
![]() 27/10/59 |
![]() 28/10/59 |
![]() 29/10/59 |
![]() 30/10/59 |
![]() 31/10/59 |
![]() 1/11/59 |
![]() 2/11/59 |
![]() 3/11/59 |
วันที่เตือนภัย |
เวลาเตือนภัย |
ช่วเวลาฝนสะสม |
ตำบล/สถานี |
จังหวัด |
ปริมาณฝนสะสม(มม.) |
ระดับการเตือนภัย |
1/11/2016 | 9:00:00 | ฝนวานนี้ | สถานีประจวบคีรีขันธ์ | จ.ประจวบคีรีขันธ์ | 144.0 | เฝ้าระวังสูงสุด |
1/11/2016 | 4:00:00 | ฝน31/07-01/04น. | ต.เกาะหลัก | จ.ประจวบคีรีขันธ์ | 107.2 | เฝ้าระวังสูงสุด |
3/11/2016 | 11:00:00 | ฝน07-11น. | ต.ทองมงคล | จ.ประจวบคีรีขันธ์ | 103.2 | เฝ้าระวังสูงสุด |
3/11/2016 | 9:00:00 | ฝน3วัน | ต.เกาะหลัก | จ.ประจวบคีรีขันธ์ | 192.4 | เฝ้าระวังสูงสุด |
3/11/2016 | 2:00:00 | ฝน01-02น. | ต.เกาะหลัก | จ.ประจวบคีรีขันธ์ | 61.2 | วิกฤต |
ข้อมูลโดย : กรมชลประทาน / การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
อิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำชนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และเพชรบุรีเพิ่มมากขึ้น โดยที่เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีปริมาณน้ำไหลงสูงสุด 19.37 ล้านลูกบาศกเมตร ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ส่วนเขื่อนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีปริมาณน้ำไหลเข้าสูงสุด 9.02 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 เช่นกัน
ปริมาณน้ำกักเก็บอ่างเก็บน้ำ เขื่อนแก่งกระจาน![]() |
ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ เขื่อนแก่งกระจาน![]() |
ปริมาณน้ำกักเก็บอ่างเก็บน้ำ เขื่อนปราณบุรี![]() |
ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ เขื่อนปราณบุรี![]() |
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.html
ข้อมูลโดย : สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) , กรมชลประทาน
อิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ที่ส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ส่งผลทำให้เกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและน้ำไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ สถานีโทรมาตรตรวจวัดระดับน้ำของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) ตรวจพบสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งบริเวณ ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองเพชรบุรี ต.วันจันทร์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยมีลักษณะเป็นน้ำท่วมฉับพลัน สามารถกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติได้โดเร็ว รายละเอียดตามกราฟด้านล่าง
![]() สถานี BSP001-บางสะพาน ต. ร่อนทอง อ. บางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ |
![]() สถานี PCH001-เมืองเพชรบุรี ต. ต้นมะม่วง อ. เมืองเพชรบุรี จ. เพชรบุรี |
![]() สถานี PCH002-แก่งกระจาน ต. วังจันทร์ อ. แก่งกระจาน จ. เพชรบุรี |
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaiwater.net/wl_summary.php
จากการติดตามพื้นที่น้ำท่วม โดยใช้ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม COSMOS-SkyMed-1 , 2 , 3 และข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม LANDSAT-8 ในวันที่ 3 5 6 และ 7 พฤศจิกายน 2559 บริเวณจังหวัดเพชรบุรี พบว่ามีพื้นที่ถูกน้ำท่วมในเขตอำเภอท่ายาง บ้านลาด บ้านแหลม เขาย้อย เมืองเพชรบุรี โดยเฉพาะในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2559 ที่ตรวจพบพื้นที่ถูกน้ำท่วมมากที่สุด ทั้งสิ้น 42,536 ไร่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 736 หลังคาเรือน โดยอำเภอที่มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมมากที่สุดคือ อำเภอเมืองเพชรบุรี
![]() รายงานการติดตามพื้นที่น้ำท่วมปี2559 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมCOSMO-SkyMed-3 บันทึกภาพวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 เวลา 06.16น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดเพชรบุรี |
![]() ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() รายงานการติดตามพื้นที่น้ำท่วมปี2559 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมCOSMO-SkyMed-1 บันทึกภาพวันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 เวลา 06.22 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดเพชรบุรี |
![]() จากการวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมพบว่า พื้นที่น้ำท่วมขังส่วนใหญ่เป็นบริเวณพื้นที่ราบต่ำและพื้นที่ลุ่มการเกษตร บริเวณริมแม่น้ำสายหลักและลำน้ำย่อย ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() รายงานการติดตามพื้นที่น้ำท่วมปี 2559 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม LANDSAT-8 บันทึกภาพวันที่ 6 พฤศจิกายน 2559 เวลา 10.38 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดเพชรบุรี |
![]() ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() รายงานการติดตามพื้นที่น้ำท่วมปี2559 โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมCOSMO-SkyMed-2 บันทึกภาพวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 เวลา 06.10 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัดเพชรบุรี |
![]() ข้อมูลเพิ่มเติม |
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี ได้สรุปข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ประจำ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ดังนี้
อำเภอเมืองเพชรบุรี 1) ตำบลบ้านกุ่ม หมู่ที่ 1-13 น้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำเพชรบุรี เข้าบ้านเรือนราษฎร ประมาณ 150 หลังคาเรือน 2) ตำบลบ้านหม้อ หมู่ที่ 1-4 น้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำเพชรบุรี เข้าบ้านเรือนราษฎร ประมาณ 1,500 หลังคาเรือน 3) ตำบลหนองโสน หมู่ที่ 1,2,5 และ 7 น้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำเพชรบุรี เข้าบ้านเรือนราษฎร ประมาณ 100 หลังคาเรือน 4) ตำบลต้นมะม่วง หมู่ที่ 1,3 และ 6 น้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำเพชรบุรี เข้าบ้านเรือนราษฎร ประมาณ 130 หลังคาเรือน 5) เทศบาลเมืองเพชรบุรี น้ำท่วมขังจากน้ำฝนและน้ำล้นตลิ่ง บริเวณถนนราชดำเนิน จากแยกบริเวณสหกรณ์การเกษตรจังหวัดเพชรบุรี ถึงบริเวณวัดยาง น้ำท่วมขังระดับฟุตบาท ถนนดำเนินเกษมบริเวณหน้าวัดพลับพลาชัย และบริเวณหน้าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ถึงหน้าวัดอัมพวัน น้ำท่วมขังระดับฟุตบาท แยกต้นมะม่วง น้ำท่วมขังระดับฟุตบาท
อำเภอบ้านแหลม 1) ตำบลบางครก หมู่ที่ 1-4,6,7,10,12 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรประมาณ 730 หลังคาเรือน 2) ตำบลท่าแร้ง หมู่ที่ 1-3 และ 6,7 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรประมาณ 150หลังคาเรือน
นอกจากนี้โรงเรียนอนุบาลจังหวัดเพชรบุรี โรงเรียนราษฎร์วิทยา และโรงเรียนเทศบาล 3 ชุมชนวัดจันทราวาส ได้ประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 4 วัน และจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559
น้ำตอนบนยังเพิ่ม เร่งระบายผ่านเขื่อนเพชร พื้นที่ลุ่มต่ำเตรียมรับมือ [ ไทยรัฐ : 31 ตุลาคม 2558 เวลา 15.48 น.]
สถานการณ์น้ำท่วมสายใต้-เอ่อล้นยังน่าห่วง ทั้งเพชรบุรี-ประจวบ-ชุมพร [ ไทยรัฐ : 1 พฤศจิกายน 2559 เวลา 20.14 น. ]
ขณะที่ จ.ชุมพร ปริมาณน้ำฝนไหลหลากท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.เมือง อ.สวี อ.ท่าแซะ และ อ.ปะทิว ส่วนใหญ่น้ำฝนไหลหลากมาจากเทือกเขากระบุรีและเทือกเขาตะนาวศรีแนวชายแดนไทย-เมียนมา ไหลเอ่อท่วมขังบ้านเรือนพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มติดริมแม่น้ำลำคลอง และไหลข้ามถนนทั้งสายหลักสายรองหลายแห่งนาน 1-2 ชั่วโมง น้ำได้ลดลงเนื่องจากระบายไม่ทัน ส่วนการสัญจรยังเป็นปกติ
ขณะที่นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ รอง ผวจ.ชุมพร ได้ออกประกาศเตือนภัยถึงนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน ผู้นำชุมชน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และป้องกันแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากฝนตกน้ำป่าไหลหลากไปจนถึงวันที่ 5 พ.ย.59 ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนกองอำนวยการป้องกันและสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) แจ้งเตือนให้ จ.ชุมพร เฝ้าระวังดินโคลนถล่มในพื้นที่ อ.หลังสวน อ.สวี อ.ท่าแซะ อ.ปะทิว โดยให้กำนันผู้ใหญ่บ้านและท้องถิ่นประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระมัดระวังเตรียมความพร้อมและติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
ด้าน นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร เปิดเผยว่าในส่วนพื้นที่รับผิดชอบได้รับผลกระทบในหมู่ 2, 4, 7, 10, 11 ตำบลสะพลี ถนนเข้าหมู่บ้านได้รับความเสียหาย 4 สาย ส่วนพื้นที่การเกษตรอยู่ระหว่างการสำรวจ ซึ่งเป็นน้ำหลากที่ระบายไม่ทัน เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางทางน้ำจำนวนมาก ได้แก่ เศษขยะจากวัชพืช ทางปาล์ม กิ่งไม้ จึงได้นำรถแบ็กโฮ เครื่องจักร ออกจัดเก็บสิ่งกีดขวางออกจากทางน้ำไหล จากนั้น 1-2 ชั่วโมงน้ำก็ลดลง แต่ก็ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะฝนยังตกๆ หยุดๆ อย่างต่อเนื่อง
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังฝนหยุดตกในช่วงสายของวันนี้ เริ่มมีน้ำไหลบ่าจากฝั่งตะวันตกเข้าสู่ตัวเมืองตามเส้นทางธรรมชาติ น้ำท่วมถนนในจุดที่พื้นที่ต่ำ ซึ่งท่วมซ้ำซากทุกปี เอ่อล้นทางลอดใต้ทางรถไฟ มวลน้ำมหาศาลไหลเข้าลำน้ำสาธารณะ จุดล่อแหลมยังไม่มีเครื่องสูบ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเร่งแจกข้าวแจกน้ำ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน ได้นำน้ำบรรจุขวดและอาหารกล่องตระเวนแจกจ่ายยังบ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะบริเวณ หมู่บ้านนิวนิเวศน์ หลังโรงเรียนกิตติคุณ ถนนสุขสมบูรณ์ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ในละแวกดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยบ้านปูนชั้นเดียว ประมาณ 30 หลังคาเรือนอยู่ในระดับต่ำที่น้ำท่วมถึง พร้อมทั้งนำกระสอบทรายวางกั้นทางน้ำในบางจุด
นอกจากนี้ที่โรงเรียนกิตติคุณ เจ้าหน้าที่ทหารอากาศกองบิน 5 นำกระสอบทรายปิดประตูทางเข้าโรงเรียนฝั่งถนนประจวบศิริ และฝั่งถนนสุขสมบูรณ์ เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าโรงเรียน เนื่องจากมีพื้นที่ต่ำกว่าถนน ส่วนภายในโรงเรียนได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำนำน้ำออกไปทิ้งที่ถนนที่เป็นเส้นทางน้ำไหลผ่าน ทั้งนี้โรงเรียนได้ประกาศปิดการเรียนการสอนตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมขังจะคลี่คลาย
สถานการณ์น้ำท่วมเพชรบุรี ยังวิกฤติ 2 อำเภอ ล่าสุดปรับระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะชลประทาน เตรียมลดการปล่อย
นายเรวัตร ผ่องสุวรรณ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี (ปภ.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ในวันนี้ ชลประทานจังหวัดเพชรบุรีได้ระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชรเพิ่มจากเมื่อวาน ที่ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 228 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลบ่าเข้าท่วม 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง 5 ตำบล 1 เทศบาลเมือง, อ.บ้านแหลม 3 ตำบล อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก
เบื้องต้นหลัง 20.00 น. ชลประทานแจ้งว่าจะทำการพร่องน้ำที่ระบายผ่านเขื่อนเพชร เพื่อกระจายไปยัง อ.บ้านลาด รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตรบางส่วนในเขตชลประทาน สำหรับลดผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยทันทีที่มีการลดปริมาณน้ำลงสถานการณ์น่าจะดีขึ้น แต่ต้องจับตาว่าวันที่ 5 - 6 พ.ย. 2559 จะมีฝนตกลงมาเติมน้ำเขื่อนหรือไม่ ทั้งนี้หากไม่มีฝน ปัญหาน้ำท่วมขังตามจุดต่าง ๆ น่าจะคลี่คลายได้เร็ว
อย่างไรก็ตาม นายเรวัตร ระบุว่า ปัจจุบันทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อม ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ประสบอุทกภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่ง นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้มีการเรียกประชุมติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ปภ.สรุปสถานการณ์น้ำ
วันที่ 2 พ.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งใน 7 จังหวัด รวม 21 อำเภอ 128 ตำบล 618 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคกลาง 4 จังหวัด 13 อำเภอ 100 ตำบล 494 หมู่บ้าน ได้แก่ จ.นครสวรรค์ จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.กาญจนบุรี ภาคเหนือ 1 จังหวัด 3 อำเภอ 12 ตำบล 48 หมู่บ้าน ได้แก่ จ.พิจิตร ภาคใต้ 2 จังหวัด 5 อำเภอ 17 ตำบล 82 หมู่บ้าน ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากมีปริมาณฝนลดลง ขณะที่ภาคใต้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้ลำน้ำสายสำคัญมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนจึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว พร้อมเร่งซ่อมแซมสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว และจากการตรวจสอบสภาพอากาศ พื้นที่ภาคใต้ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ปภ.จึงได้ประสาน 7 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา และภูเก็ต ให้เฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือดินถล่ม ดินไหล และน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 2-3 พ.ย. โดยจัดเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญเหตุ ชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
อุตุฯ เตือนใต้ระวังฝนหนัก
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ย.นี้ โดยบริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 8 พ.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนอง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า อนึ่ง ในช่วงวันที่ 6-8 พ.ย. ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง โดยในช่วงวันที่ 2-8 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศ ที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 6-8 พ.ย. ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วน ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในขณะที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุก กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในบริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วม ฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ สำหรับประเทศไทยตอนบนมีฝนลดน้อยลง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีฝนลดน้อยลง
ทบ.ช่วยชาวบ้านถูกน้ำท่วม
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากที่เกิดฝนตกหนักในจ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก โดยมณฑลทหารบกที่ 15 และกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ได้นำกำลังพลกว่า 300 นาย เข้าช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย ก่อกระสอบทรายทำทำนบกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมเขตชุมชนในพื้นที่ หมู่ 1,2,5 และ 8 ต.บ้านกุ่ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี รวมถึงช่วยประชาชนสูบน้ำออกจากบ้านเรือน ขณะนี้ระดับน้ำยังทรงตัว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ล่าสุดในวันนี้หน่วยทหารในพื้นที่ยังคงร่วมกับทางจังหวัดออกให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเข้าก่อกระสอบทรายทำเป็นแนวกั้นน้ำในแหล่งชุมชน และบ้านเรือนประชาชนในเขตอ.เมือง และ อ.บ้านแหลม รวมถึงได้เข้าทำทำนบกั้นน้ำบริเวณโดยรอบพระรามราชนิเวศน์ (พระราช วังบ้านปืน) นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพชรบุรี นำอาหารและน้ำแจกจ่ายให้กับประชาชน ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้วย
เพชรบุรีน้ำท่วมยังทรงตัว
บรรยากาศน้ำท่วมจ.เพชรบุรี บริเวณถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ตั้งแต่แยกโรงพยาบาล เพชรรัชต์ ยังมีน้ำท่วมผิวจราจรสูงจนถึง4 แยกทางหลวง ใช้ได้ 1 ช่องทางจราจร ส่วนขาเข้ากทม ยังใช้การได้ดี ขณะที่ถนนหลายสายในเขตตัวเมืองเพชรบุรี ทั้งถนนทางไปสถานีรถไฟเพชรบุรี ถนนหน้าโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเพชรบุรี แยกสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ถนนแยกหน้าอำเภอเมืองเพชรบุรี ถนนเส้นหน้าเขาวัง ตลอดสาย ถนนหน้าโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ ถนนหน้าวัดถ้ำแก้วผ่านท่ารถตู้โดยสารประจำทาง ถนนบันไดอิฐ ถนนราชดำเนิน ถนนหน้าวัดมหาธาตุและอีกหลายสายยังมีระดับน้ำขึ้นสูง แต่บางเส้นทางรถยนต์ยังสามารถใช้สัญจรไปได้ แต่หลายเส้นทางต้องปิดการจราจรเนื่องจากระดับน้ำสูง
นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผวจ.เพชรบุรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ โดยขณะนี้อำเภอเมืองมีพื้นที่น้ำท่วม 5 ตำบล มีครัวเรือนเดือด ร้อน 2,000 กว่าหลังคาเรือน อ.บ้านแหลม 21 หมู่บ้านใน 4 ตำบล รวม 1,200 ครัวเรือน การระบายน้ำจากเขื่อนเพชร 210 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะนี้น้ำทรงตัวและยังไม่มีน้ำฝนตกลงมาเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีการระบายน้ำออกทางคลองส่งน้ำสายหลัก 1-3 และฝั่งซ้ายเหนือเขื่อนเพชร 30 ลบ.ม. ต่อวินาที อีกทางหนึ่งด้วย หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มหรือน้ำทะเลหนุนน่าจะระบายลงทะเลได้เร็วขึ้น
ร.ร.ประกาศหยุดต่อ
ขณะที่โรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองเพชรประกาศหยุดเรียนดังนี้ ร.ร.พรหมานุสรณ์ ร.ร.เบญจมเทพอุทิศ ร.ร.คงคาราม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเพชรบุรี วิทยาลัยเทคนิคเพชรบุรี หยุด 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 – 3 พ.ย. ร.ร.วัด จันทราวาส (ศุขประสารราษฎร์) ร.ร.อรุณประดิษฐ หยุด 1 วัน คือ วันที่ 2 พ.ย. ร.ร.วัดดอนไก่เตี้ย ร.ร.อนุบาลเพชรบุรี ร.ร.ราษฎร์ วิทยาและร.ร.ปริยัติรังสรรค์ หยุด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 – 4 พ.ย.
คันกั้นน้ำพังกลางดึก
ด้านนายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ ผอ.สนง.ชลประทานที่ 14 กล่าวว่าเมื่อคืนวันที่ 1 พ.ย. 59 คันกั้นน้ำริมแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณค่ายทหาร มทบ.15 ได้ขาดลง ทำให้มีน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเพชรบุรี นั้น ตนจึงได้สั่งการให้ ผอ.ชล ประทานเพชรบุรี และผอ.ส่งน้ำเพชรบุรี ส่งเจ้าหน้าที่ชลประทานไปช่วย ทหารจาก มทบ.15 และ สนง.ป้องกันสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี ในการสร้างทำนบชั่วคราวปิดกั้นช่องขาด สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ ในเวลาประมาณ 22.00 น.
นอกจากนี้ยังได้ออกติดตามผลการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ที่นำมาเพิ่มในแม่น้ำเพชรบุรีบริเวณหลังวัดเขาตะเครา จำนวน 6 เครื่อง รวมของเดิมเป็น 8 เครื่อง เพื่อเร่งผลักดันน้ำออกสู่ทะเล และสั่งการให้นำเครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่เทศบาลเมืองเพชรบุรีเพิ่มขึ้น เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ต่อไป
อุโมงค์ประจวบฯ ยังจมมิด
ส่วนสถานการณ์ล่าสุด ในเขตตัวเมือง ประจวบฯ บริเวณถนนสุขสมบูรณ์และถนนประจวบศิริ หน้าโรงเรียนกิตติคุณ ปริมาณน้ำป่าที่ไหลท่วมลดลงจนแห้งเหลือน้ำท่วมขังเล็กน้อย ส่วนในโรงเรียนกิตติคุณยังมีน้ำท่วมขังจุดที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ อาทิ ห้องเรียนของเด็กชั้น ป. 1 และป. 2 ทางโรงเรียนได้ติดตั้งท่อสูบน้ำขนาด 3 นิ้วเร่งระบายน้ำเป็นการเร่งด่วน จึงให้หยุดเรียนเป็นการชั่วคราวไปอีกระยะ นอกจากนี้บริเวณทางลอดใต้อุโมงค์รถไฟที่เป็นเส้นทางใช้สัญจรเชื่อมต่อกันระหว่างถนนมหาราช 1 และมหาราช 2 ยังไม่สามารถใช้งานได้ยังคงมีปริมาณน้ำที่ท่วมสูงกว่า 2 เมตร เนื่องจากยังไม่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้
ประกาศปิดน้ำตกป่าละอู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน ได้ประกาศปิดน้ำตกป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นการชั่วคราวโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในแนวป่าเทือกเขาตะนาวศรี ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากลงสู่น้ำตกป่าละอู ระดับน้ำเพิ่มสูงและเชี่ยวกรากอย่างมาก ทางอช.แก่งกระจานจึงประกาศปิดน้ำตกเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกคน โดยขณะนี้พบว่าน้ำป่าได้หลากท่วมเส้นทางเดิน และทำให้สะพานไม้บริเวณป้ายชื่อน้ำตกหักเสียหาย รวมถึงมีต้นไม้หักโค่นหลายจุด ส่วนจะใช้เวลานานเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ป่าชั้นใน ทั้งนี้ทางอุทยานได้จัดเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเข้าประจำจุด เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
จับตาพายุลูกใหม่
ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายทวี นริสศิริกุล ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายกิตติกรณ์ เทพอำนวย ปภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่าล่าสุดในเขตอ.เมือง ใกล้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และแต่ยังต้องจับตามรสุมที่ก่อตัวเป็นพายุไซโคลน กำลังจะพัดเข้ามาในประเทศไทย
นายกิตติกรณ์กล่าวอีกว่า จากการติดตามรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วง 1-2 วันนี้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาจได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมซึ่งได้ก่อตัวเป็นพายุบริเวณทางใต้ของอ่าวตังเกี๋ย ประเทศเวียดนาม ด้วยความเร็วแรงลม 300 ก.ม./ช.ม. กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทยขึ้นอยู่กับทิศทางลม หากลมพัดมาทางตะวันตกก็จะเข้าสู่ประเทศไทย แต่ถ้าพัดขึ้นเหนือประเทศไทยก็จะได้รับผลกระทบน้อยลง จึงอยากฝากเตือนถึงประชาชนอย่าตื่นตระหนก ให้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์จากรายงานสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมยกสิ่งของขึ้นไว้บนที่สูงด้วย
จอมบึงท่วมหนัก 30 ปี
ขณะที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ถูกน้ำท่วมหนักเต็มพื้นที่เป็นวงกว้างนับ 100 ไร่ หลายพื้นที่ ถนนสายหลักจากตลาดจอมบึง จนถึงที่บริเวณหน้าที่ทำการไปรษณีย์จอมบึง น้ำเอ่อล้นท่วมรถเล็กต้องสัญจรกันอย่างระมัดระวัง ขณะที่ฝูงลิงภายในสวนรุกขชาติอำเภอจอมบึง ต้องอพยพมาอยู่รวมกันที่บริเวณพื้นที่สูงเพื่อหนีน้ำ โดยเฉพาะเมื่อช่วงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดฝนตกอย่างหนักทำให้เกิดมวลน้ำจำนวนมาก และไหลเข้าท่วมในพื้นที่บริเวณเขตเทศบาลตำบลจอมบึง ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร ชาวบ้านในเขตตลาดเทศบาลต่างตื่นตระหนกเพราะกว่า 30 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเจอน้ำท่วมหนักเช่นนี้ จนถึงช่วงเช้าวันนี้จึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ที่บริเวณถนนหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาอำเภอจอมบึง ยาวไปจนถึงหน้าที่ทำการไปรษณีย์จอมบึง ประมาณ 20 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ต้องนำเรือท้องแบนมาช่วยในการขนสัมภาระและพัสดุ เพื่อนำส่งยังรถบรรทุกออกส่งให้กับประชาชน นอกจากในเขตตลาดแล้ว น้ำยังไหลเข้าท่วมตามถนนสายเข้าหมู่บ้านต่างๆ ในเขต ต.จอมบึง บางจุดน้ำทะลักเข้าภายในบ้านและร้านค้าตลอดทั้งสองฝั่งของถนน รวมทั้งพื้นที่นาข้าวและพืชไร่ของเกษตรกร ขณะที่วัดเขาปิ่นทองและพื้นที่ ต.ปากช่อง อ.จอมบึง ปริมาณน้ำยังคงทรงตัวประกอบกับยังคงมีฝนตกอยู่ในช่วงนี้