อิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมจนถึงปลายเดือนสิงหาคม ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณตอนบนของภาคเหนือ ปริมาณฝนสะสมเชิงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 16-31 ส.ค. 67 สูงสุด 5 อันดันแรก ได้แก่ จังหวัดน่าน 284 มิลลิเมตร รองลงมาคือจังหวัดพะเยา 266 มิลลิเมตร เชียงราย 231 มิลลิเมตร แพร่ 174 มิลลิเมตร และแม่ฮ่องสอน 151 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งบริเวณในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำน่าน และเป็นพื้นที่รับน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำกักเก็บ 5,568 ล้าน ลบ.ม. สามารถรองรับน้ำได้อีก 3,942 ล้าน ลบ.ม ในวันที่ 16 ส.ค. 67 และจากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงวันที่ 16-31 ส.ค. 67 ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนสะสม 1,767.44 ล้าน ลบ.ม. และเริ่มมีน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 67 โดยน้ำไหลลงเขื่อนสูงสุด 192.67 ล้าน ลบ.ม ในวันที่ 25 ส.ค. 67 ทำให้เขื่อนสิริกิติ์เริ่มลดการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.67 และปิดการระบายน้ำในช่วงวันที่ 29-30 ส.ค. 67 ช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลลงมาสมทบและลดผลกระทบการอุทกภัยที่เกิดบริเวณท้ายน้ำ
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 04 กันยายน 2024 เวลา 10:59 น. |