คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ (ThaiWater)
ความเป็นมา
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงห่วงใยสถานการณ์น้ำมาโดยตลอด ทรงให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจบริหารจัดการน้ำ ในปี พ.ศ. 2538 เกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ ทรงพบว่าข้อมูลน้ำขาดการบูรณาการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้ Massachusetts Institute of Technology (MIT) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) วางแผนพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย เกิดเป็น “โครงการระบบเครือข่ายเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำแห่งประเทศไทย” มีนายเชาวน์ ณศีลวันต์ องคมนตรี เป็นประธานโครงการ และมอบหมายให้สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร หรือ สสนก. ซึ่งในขณะนั้นเป็นหน่วยงานวิจัยภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ รับผิดชอบดำเนินการพัฒนาระบบ ปี พ.ศ. 2541 เริ่มพัฒนาระบบสารสนเทศเชื่อมต่อและเก็บรวบรวมข้อมูลทรัพยากรน้ำ เริ่มจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2545 และได้ใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจพัฒนาและบริหารจัดการน้ำ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพัฒนาและนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย
ต่อมาได้นำข้อมูลสารสนเทศน้ำจากระบบดังกล่าว พัฒนาเป็นเว็บไซต์ทรงงานส่วนพระองค์ weather901 เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงติดตามสถานการณ์น้ำผ่านเว็บไซต์เป็นประจำ ทำให้ทรงทราบสถานการณ์ฝนและน้ำอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
โครงการระบบเครือข่ายเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำแห่งประเทศไทย ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำและการเกษตร จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมากว่า 10 ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ขึ้น เป็นองค์การมหาชน สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันฯ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552
คอมพิวเตอร์แม่ข่ายชุดปฐมฤกษ์ (Weather901)
พัฒนาสู่คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ
ปี พ.ศ. 2555 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร หรือ สสนก. ได้น้อมนำแนวพระราชดำริ ขยายผลรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านทรัพยากรน้ำและภูมิอากาศ จำนวน 12 หน่วยงาน ได้แก่ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมเจ้าท่า กรมอุทกศาสตร์ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาที่ดิน และ กรมทรัพยากรธรณี เกิดเป็น “คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ”
ข้อมูลเริ่มต้นจาก 12 หน่วยงาน ในระบบคลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ
ปี พ.ศ. 2558 รัฐบาลมอบหมายให้สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ขยายการเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเป็น 35 หน่วยงาน ปัจจุบันมีข้อมูลทั้งหมด 388 รายการ ทั้งข้อมูลติดตามสภาพอากาศ เช่น เส้นทางพายุ ภาพถ่ายจากดาวเทียม การติดตามและคาดการณ์สภาพอากาศจากค่าความสูงน้ำทะเลและอุณหภูมิผิวน้ำทะเล แผนภาพคาดการณ์ฝนล่วงหน้า 7 วัน จากแบบจำลองสภาพอากาศ และข้อมูลติดตามสถานการณ์น้ำ เช่น ข้อมูลฝนตกในพื้นที่ ปริมาณและระดับน้ำในเขื่อน เส้นทางและผังการระบายน้ำ แสดงปริมาณการไหลของน้ำที่ตำแหน่งต่างๆ ระดับน้ำในแม่น้ำและลำน้ำสายสำคัญ สำหรับใช้ติดตาม เฝ้าระวัง วิเคราะห์ และคาดการณ์สถานการณ์น้ำ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการน้ำทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤตอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลจากคลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ ได้นำไปใช้สนับสนุนการตัดสินใจบริหารจัดการสถานการณ์น้ำในภาวะวิกฤตหลายครั้ง เช่น เหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อเดือนตุลาคม 2557 เหตุการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อเดือนธันวาคม 2559 และเดือนมกราคม 2560 โดยใช้ข้อมูล ติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค หน่วยงานท้องถิ่นและชุมชน ร่วมกันวิเคราะห์แนวทางบรรเทาอุทกภัย และเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถวางแผนรับมือสถานการณ์และแจ้งเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็ว ช่วยป้องกันและลดความเสียหายจากอุทกภัยได้เป็นอย่างดี
คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ
เปิดให้บริการข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.thaiwater.net และ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ทั้งระบบปฏิบัติการ
ios และ
android ชื่อ "ThaiWater" ให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูล สามารถติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศด้วยตนเองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา
คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ (ThaiWater)
คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ ความร่วมมือจาก 35 หน่วยงาน
- กรมชลประทาน
- กรมอุตุนิยมวิทยา
- กรมทรัพยากรน้ำ
- กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
- กรมเจ้าท่า
- กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ
- สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)
- สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน)
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
- กรุงเทพมหานคร
- กรมพัฒนาที่ดิน
- กรมทรัพยากรธรณี
- การประปาส่วนภูมิภาค
- กรมป้องกันและบรรเทา
- ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
- กรมควบคุมมลพิษ
- กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
- การประปานครหลวง
- กรมทางหลวง
- กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ
- กรมแผนที่ทหาร
- กรมป่าไม้
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
- สํานักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
- สำนักงบประมาณ
- สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
- กรมโยธาธิการและผังเมือง
- กรมโรงงานอุตสาหกรรม
- การนิคมอุตสาหกรรม
- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- กรมทางหลวงชนบท
- องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)