|
เหตุการณ์ : จังหวัดเชียงรายเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่สาย อำเภอเมือง อำเภอแม่จัน อำเภอเทิง อำเภอเวียงชัย อำเภอแม่ลาว และอำเภอเชียงแสน ในวันที่ 15-17 ส.ค. 67 และจังหวัดแม่ฮ่องสอนเกิดน้ำป่าไหลหลากพื้นที่อำเภอปางมะผ้า อำเภอปาย และอำเภอเมือง ในวันที่ 16-17 ส.ค. 67
สาเหตุ : จากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลให้ภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายมีปริมาณฝนสะสม 8 วัน ในช่วงวันที่ 11-18 ส.ค. 67 สูงสุด 264 มิลลิเมตร โดยมีปริมาณฝนรายวันสูงสุดที่สถานีแม่จัน อำเภอเเม่จัน 85.8 มิลลิเมตร (ฝนสะสมในช่วงวันที่ 14 ส.ค. 67 เวลา 21.00 น.- วันที่ 15 ส.ค. 67 เวลา 02.00 น. 78 มิลลิเมตร) รองลงมาคือสถานีสะพานแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมืองเชียงราย 83 มิลลิเมตร (ฝนสะสมในช่วงวันที่ 14 ส.ค. 67 เวลา 20.00 น. - วันที่ 15 ส.ค. 67 เวลา 03.00 น. 80 มิลลิเมตร) และสถานีท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย 81 มิลลิเมตร ในวันที่ 17 ส.ค. 67 (ปริมาณฝนสูงสุด 36 มิลลิเมตร เวลา 18.00 น.) ส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีปริมาณฝนสะสม 8 วัน ในช่วงวันที่ 11-18 ส.ค. 67 สูงสุด 192 มิลลิเมตร โดยมีฝนรายวันสูงสุดที่สถานีปางมะผ้า 66.6 มิลลิเมตร ในวันที่ 16 ส.ค. 67 (ฝนสะสมช่วงเวลา 18.00 -23.00 น. 59.6 มิลลิเมตร)
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2024 เวลา 13:43 น. |
|
|
เหตุการณ์ : วันที่ 12 ส.ค. 67 เวลา 7.00 น. เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ และบ้านเรือนราษฎร บ้านไร่และบ้านท่าไคร้ หมู่ที่ 3 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเส้นทางระหว่างทางหลวงแผ่นดิน 1095-บ้านไร่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถเดินทางสัญจรได้ รวมทั้งยังมีนักท่องเที่ยวติดอยู่ในรีสอร์ทจำนวน 6 ราย สาเหตุ : เกิดจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของประเทศเมียนมาและประเทศลาวเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ดังกล่าว โดยวันที่ 12 ส.ค. 67 เวลา 02.00-04.00 น. บริเวณสถานีอบต.ปางมะผ้ามีฝนตกหนักสะสม 2 ชั่วโมง 66.8 มิลลิเมตร วัดฝนสะสมรายชั่วโมงสูงสุดได้ 36.2 มิลลิเมตร เวลา 03.00-04.00 น. ของวันเดียวกัน และยังคงมีฝนตกต่อเนื่องจนถึงวันที่ 12 ส.ค. 67 เวลา 22.00 น. โดยสามารถวัดปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงได้สูงสุด 126.6 มิลลิเมตร
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2024 เวลา 19:02 น. |
|
เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งใน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำปาง น่าน พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี จันทบุรี ตราด ระยอง และปราจีนบุรี รวมพื้นที่ 41 อำเภอ 130 ตำบล 605 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 11,684 ครัวเรือน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่ผาดผ่านบริเวณภาคเหนือ ประเทศเมียนมา ลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรง ทำให้มีฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทั้งนี้มีฝนตกหนักมาก (มากกว่า 90 มิลลิเมตร) ใน 19 จังหวัด ปริมาณฝนรายวันสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย 211 มิลลิเมตร สุโขทัย 211 มิลลิเมตร อุตรดิตถ์ 207 มิลลิเมตร น่าน 185 มิลลิเมตร ตาก 154 มิลลิเมตร และตราด 152 มิลลิเมตร
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันจันทร์ที่ 05 สิงหาคม 2024 เวลา 15:50 น. |
|
เหตุการณ์ : สัปดาห์นี้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก กาญจนบุรี จันทบุรี ตราด ระยอง และปราจีนบุรี รวมทั้งสิ้น 22 อำเภอ 73 ตำบล 347 หมู่บ้าน และบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 8,236 ครัวเรือน
สาเหตุ : เกิดจากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง ทำให้เกิดฝนตกหนักมากในพื้นที่ 15 จังหวัด และสามารถวัดปริมาณฝนรายวันสูงสุด 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตราด 337.5 มิลลิเมตร จันทบุรี 192 มิลลิเมตร กาญจนบุรี 137 มิลลิเมตร ตาก 137 มิลลิเมตร และปราจีนบุรี 128.4 มิลลิเมตร
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 31 กรกฏาคม 2024 เวลา 15:58 น. |
|
เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ พะเยา พิษณุโลก เชียงราย แพร่ ชัยภูมิ เลย มหาสารคาม ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ตราด และจันทบุรี ช่วงวันที่ 14-22 ก.ค. 67 เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงที่พาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังค่อนข้างแรง รวมทั้งอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน 03W ที่สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณประเทศเวียดนาม ก่อนเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือองไทยในวันที่ 16 ก.ค. 67 ทำให้ตั้งแต่ช่วงวันที่ 14-20 ก.ค. 67 มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคเหนือ ทั้งนี้จังหวัดที่มีฝนตกสะสม 7 วัน สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดตราด 541 มิลลิเมตร จันทบุรี 342 มิลลิเมตร อุบลราชธานี 282 มิลลิเมตร หนองคาย 263 มิลลิเมตร และระนอง221 มิลลิเมตร
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 24 กรกฏาคม 2024 เวลา 13:42 น. |
|
|
|
|
<< เริ่มแรก < ย้อนกลับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ถัดไป > สุดท้าย >>
|
|
หน้า 8 จาก 89 |