|
เหตุการณ์ : เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และแพร่ รวมทั้งสิ้น 4 อำเภอ 208 ตำบล 984 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 22,969 ครัวเรือน จากฝนที่ตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากให้หลายพื้นที่ของภาคเหนือในช่วงวันที่ 21-23 ก.ค. 68 ทั้งนี้สถานีที่ทำการอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน (MOU026) อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน ตรวจวัดปริมาณฝนสะสม 3 วันได้สูงสุดถึง 456.4 มิลลิเมตร โดยมีฝนสะสมรายวันสูงมากกว่า 200 มิลลิเมตร ต่อเนื่องในช่วงวันที่ 22-23 ก.ค. 68 รองลงมาคือสถานีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สก. 2 (ภูลังกา) อำเภอปง จังหวัดพะเยา ปริมาณฝน 340.6 มิลลิเมตร และสถานีหน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 243.2 มิลลิเมตร ส่งผลให้ที่สถานีตรวจวัด N.1 ระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่ 9.49 ม. อัตราการไหลสูงสุด 2,735.50 ลบ.ม./วินาที ณ วันที่ 24 ก.ค. 68 เวลา 18.00 น. สถานีตรวจวัด Y.20 ระดับน้ำสูงสุด อยู่ที่ 11.04 ม. อัตราการไหลสูงสุด 1,283.80 ลบ.ม./วินาที ณ วันที่ 24 ก.ค. 68 เวลา 09.00 น. สถานีตรวจวัด Y.1C ระดับน้ำสูงสุด อยู่ที่ 11.03 ม. อัตราการไหลสูงสุด 1,648.50 ลบ.ม./วินาที ณ วันที่ 25 ก.ค. 68 เวลา 14.00 น. และสถานีตรวจวัด Y.4 ระดับน้ำสูงสุด อยู่ที่ 7.96 ม. อัตราการไหลสูงสุด 468.10 ลบ.ม./วินาที ณ วันที่ 26 ก.ค. 68 เวลา 12.00 น. สาเหตุ : เนื่องจากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ที่เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองท้ายบิ่ญ ประเทศเวียดนามในวันที่ 22 ก.ค. 68 แล้วอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวในวันที่ 23 ก.ค. 68 และเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 22-24 ก.ค. 68
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 30 กรกฏาคม 2025 เวลา 17:30 น. |
|
|
สัปดาห์นี้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีกลุ่มเมฆปกคลุมกระจุกหนาแน่นทั่วทั้งประเทศตลอดทั้งสัปดาห์ จากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบนในช่วงต้นสัปดาห์ ประกอบกับสัปดาห์นี้มีหย่อมความกดอากาศต่ำ 2 หย่อมที่ส่งผลกับสภาพอากาศของประเทศไทย หย่อมแรกปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนเกือบตลอดสัปดาห์ และหย่อมที่สองปกคลุมประเทศลาวตอนบนในช่วงวันที่ 16-17 ก.ค. 68 นอกจากนี้ พายุ “วิภา” ซึ่งอยู่ในระดับพายุโซนร้อนกำลังแรง ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในวันที่ 20 ก.ค. 68 เวลา 19.00 น. ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะดังกล่าวส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนภาคใต้ด้านฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 30 กรกฏาคม 2025 เวลา 17:32 น. |
|
เหตุการณ์ : เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออก โดยภาคเหนือด้านตะวันออกเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งบริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ รวม 8 อำเภอ 24 ตำบล 92 หมู่บ้าน 1,513 ครัวเรือน ทั้งนี้สามารถตรวจวัดปริมาณฝนรายวันสูงสุดที่จังหวัดแพร่ 202 มิลลิเมตร น่าน 185 มิลลิเมตร เชียงราย 141 มิลลิเมตร และอุตรดิตถ์ 115 มิลลิเมตร และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดตราดที่เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมชุมชนและพื้นที่เกษตรในอำเภอเขาสมิง โดยที่สถานีคลองประณีต บ.ตลุง วัดฝนรายวันสูงสุด 201 มิลลิเมตร ในวันที่ 11 ก.ค. 68 และมีฝนสะสม 3 ชั่วโมง สูงถึง 188 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 00.00-02.00 น. สาเหตุ : เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศเวียดนามตอนบนกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน อ่าวไทย และประเทศไทย ในช่วงวันที่ 9-13 ก.ค. 68
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 30 กรกฏาคม 2025 เวลา 17:34 น. |
|
เหตุการณ์ : เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำท่วมขัง ที่ อ.ขลุงและ อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี ในคืนวันที่ 2 ก.ค. 68 ถึงเช้าวันที่ 3 ก.ค. 68 สถานีเมืองจันทบุรี (CHN001) ต.จันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี ตรวจวัดปริมาณฝนรายชั่วโมงสูงสุดได้ 33.4 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 22.00-23.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค. 68 และวัดปริมาณฝนรายวันสูงสุดได้ถึง 210.5 มิลลิเมตร ที่ อ.ขลุง รองลงมาคือที่ อ.เมืองจันทบุรี ที่มีปริมาณฝน 146 มิลลิเมตร นอกจากนี้ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ที่ ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ในช่วงเช้าของวันที่ 3 ก.ค. 68 สถานีหน่วยจัดการต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย (MOU030) ต.พญาแก้ว อ.เชียงกลาง จ.น่าน วัดปริมาณฝนรายวันสูงสุดได้ 156 มิลลิเมตร และวัดปริมาณฝนสะสม 7 ชั่วโมง (ตั้งแต่เวลา 01.00-08.00 น. ของวันที่ 3 ก.ค. 68 ) ได้ 147 มิลลิเมตร โดยปริมาณฝนรายชั่วโมงสูงสุดอยู่ที่ 49.6 มิลลิเมตร ณ เวลา 01.00-02.00 น. ของวันเดียวกัน สาเหตุ : เกิดจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางถึงกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบนและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 30 กรกฏาคม 2025 เวลา 17:33 น. |
|
เหตุการณ์ : เกิดฝนตกหนักมากทำให้มีน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันใน 2 จังหวัด ช่วงวันที่ 26-28 มิ.ย. 68 ประกอบด้วย จังหวัดน่าน บริเวณอำเภอเชียงกลาง อำเภอปัว และอำเภอบ่อเกลือ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 4,725 ครัวเรือน ทั้งนี้ ในวันที่ 27 มิ.ย. 68 สถานีหน่วยจัดการต้นน้ำน้ำหมาวหมอก (MOU400) ที่ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ ตรวจวัดปริมาณฝนรายวันได้มากถึง 347.8 มิลลิเมตร โดยที่ช่วงเวลา 05.00-06.00 น. เพียงชั่วโมงเดียวมีฝนตกมากถึง 98.6 มิลลิเมตร จังหวัดเชียงราย บริเวณอำเภอพญาเม็งราย อำเภอเวียงชัย อำเภอเชียงแสน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และอำเภอเทิง ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,405 ครัวเรือน สถานีบ้านขุนห้วยแม่เปา ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย ตรวจวัดปริมาณฝนรายวันสูงสุดได้ 317.5 มิลลิเมตร ในวันที่ 26 มิ.ย. 68 สาเหตุ : เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน อ่าวไทย และประเทศไทยมีกำลังแรง ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือ และประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 26-28 มิ.ย. 68
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 30 กรกฏาคม 2025 เวลา 17:34 น. |
|
|
|
|
<< เริ่มแรก < ย้อนกลับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ถัดไป > สุดท้าย >>
|
|
หน้า 3 จาก 89 |