|
มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ตลอดทั้งสัปดาห์ ประกอบกับ ช่วงวันที่ 11-13 ธ.ค. 68 มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวไทย ภาคใต้ตอนล่าง และอันดามัน ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 68 ภาคใต้เริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2025 เวลา 10:59 น. |
|
|
ช่วงวันที่ 1 – 4 ธ.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง จากนั้นในช่วงวันที่ 5 ธ.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน อ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีกลุ่มเมฆฝนปกคลุมหนาแน่น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 5 – 7 ธ.ค. 68
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 09 ธันวาคม 2025 เวลา 16:29 น. |
|
หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคใต้ และประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักหนึ่งที่ทำให้เกิดอุทกภัยของภาคใต้และประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 68 จนถึงปัจจุบัน (1 ธ.ค. 68) ก็ยังมีหลายพื้นที่ที่ยังได้รับผลกระทบอยู่นั้น ได้ทวีกำลังแรงขึ้นบริเวณช่องแคบมะละกาเป็นดีเปรสชัน 95B จนกลายเป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกที่ 4 (Tropical Cyclone 04B) ของฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ที่มีชื่อว่า พายุ “ซินญาร” (SENYAR) ในวันที่ 26 พ.ย. 68 ถือว่าเป็น “พายุหมุนเขตร้อนลูกแรกที่ก่อตัวขึ้นบริเวณช่องแคบมะละกาในเดือนพฤศจิกายน” และยังเป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกที่ 2 รองจากพายุ “วาเม” (Vamei ปี 2544) ที่ก่อตัว “ใกล้เส้นศูนย์สูตรที่สุด” โดยปกติแล้วบริเวณตั้งแต่เส้นศูนย์สูตรถึงละติจูดที่ 5 องศามีโอกาสเกิดพายุหมุนเขตร้อนน้อยมาก เพราะขาดปัจจัยเสริมในการหมุนที่เรียกว่า “แรงโคริโอลิส” (Coriolis Force) ประกอบกับบริเวณช่องแคบมะละกา ก็ไม่มีปัจจัยเสริมที่เอื้อต่อการเกิดพายุได้เลย ทั้งพื้นที่ที่เป็นทะเลแคบๆ และใกล้ชายฝั่งทั้งสองด้านที่เป็นพื้นดิน รวมถึงอุณหภูมิน้ำทะเลก็มักไม่สูงพอสำหรับการพัฒนาของพายุ ถือได้ว่า การเกิดขึ้นของ “พายุซินญาร” เป็นเหตุการณ์ที่หายาก ฝืนกฎฟิสิกส์ และอาจไม่เคยเกิดขึ้นเลยในรอบ 100-400 ปี ของข้อมูลที่มีบันทึกไว้
เกร็ดเล็กน่ารู้ : พายุ “วาเม” (VAMEI) เคยอยู่ในรายชื่อพายุหมุนเขตร้อนฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ปัจจุบันชื่อนี้ถูกยกเลิกและแทนที่ด้วยชื่อพายุ “เผ่ย์ผ่า” (PEIPAH) ซึ่งเป็นชื่อพายุชุดที่ 2 ลำดับที่ 49
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 02 ธันวาคม 2025 เวลา 13:28 น. |
|
"สงขลาอ่วม" ฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ประกาศ "เขตภัยพิบัติ" แล้วทั้ง 16 อำเภอ พื้นที่รับผลกระทบรวม 115 ตำบล 821 หมู่บ้าน 167 ชุมชน "โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่" ซึ่งเกิดอุทกภัยอย่างหนัก โดยมีสาเหตุมาจาก 1. ลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ จุดที่ต่ำที่สุดก็คือใจกลางเมืองหาดใหญ่ มีคลองอู่ตะเภาทอดยาวมาจาก อ.สะเดา ผ่าน อ.หาดใหญ่ ไหลไปลงทะเลสาบสงขลา และคลองระบายน้ำ ร.1 ซึ่งเป็นโครงการผันน้ำจากคลองอู่ตะเภาและน้ำที่จะไหลมาท่วมตัว อ.หาดใหญ่ เพื่อระบายลงสู่ทะเลโดยเร็ว ขณะที่น้ำไหลลงมาจากเขาคอหงส์ อ.นาหม่อม และ อ.จะนะ จะไหลลงสู่คลองหวะ ซึ่งไหลต่อลงสู่คลองอู่ตะเภา ด้านทิศตะวันออก นอกจากนี้ยังมีน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขานครศรีธรรมราชไหลลงคลองอู่ตะเภา ด้านทิศตะวันตก จะเห็นได้ว่า น้ำจากทุกทิศจะไหลลงสู่คลองอู่ตะเภา ซึ่งไหลผ่าน อ.หาดใหญ่ ก่อนลงสู่ทะเลสาบสงขลาต่อไป 2. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนบน ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำ ปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันตอนล่าง และประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากตลอดทั้งสัปดาห์ จากข้อมูลปริมาณฝนสะสม 3 วัน (21-23 พ.ย. 68) ที่สถานีสะเดา ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา วัดได้ 605 มม. ขณะที่สถานีอบต.พิจิตร ต.นาหม่อม อ.พิจิตร วัดได้ 693 มม. ทำให้ระดับน้ำคลองอู่ตะเภา อ.สะเดา และคลองหวะ อ.นาหม่อม เริ่มล้นตลิ่งตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 21 พ.ย. 68 และไหลลงมาล้นท่วมเมืองหาดใหญ่ ในช่วงบ่ายของวันที่ 22 พ.ย. 68 และยังคงมีฝนตกต่อเนื่องบริเวณ อ.หาดใหญ่ และพื้นที่โดยรอบ ทำให้ระดับน้ำที่ไหลลงสู่ อ.หาดใหญ่ ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างเนื่องจนถึงปัจจุบัน
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2025 เวลา 15:15 น. |
|
สัปดาห์นี้ประเทศไทยมีเมฆปกคลุมกระจายตัวทั่วทุกภาคของประเทศ ประกอบกับ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ตั้งแต่ช่วงวันที่ 14 พ.ย. 68 และจากการปะทะของบริเวณความกดอากาศสูง ประกอบกับความชื้นในอากาศที่ยังมีอยู่ รวมถึงลมตะวันออกและลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอ่าวไทย อันดามัน และประเทศไทย ที่มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ ประเทศไทยตอนบนรวมถึงภาคใต้มีกลุ่มเมฆฝนปกคลุม และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เวลา 12:00 น. |
|
|
|
|
<< เริ่มแรก < ย้อนกลับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ถัดไป > สุดท้าย >>
|
|
หน้า 1 จาก 89 |