สัปดาห์นี้ประเทศไทยมีร่องมรสุมพาดผ่านตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. -16 ก.ย. 62 โดยเริ่มมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือในช่วงต้นสัปดาห์ และร่องมรสุมค่อยๆ เลื่อนลงมาพาดผ่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง จนถึงปลายสัปดาห์ ประกอบกับมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใตที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลางในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์ ส่งผลให้มีฝนตกปานกลางถึงตกหนักกระจายตัวในบางพื้นที่ของภาคเหนือ ตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ต่อมาในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกปานกลางถึงตกหนักในหลายพื้นที่จนถึงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้ปริมาณฝนสะสม 7 สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดตราด 381 มิลลิเมตร จันทบุรี 198 มิลลิเมตร และพังงา 190 มิลลิเมตร
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 17 กันยายน 2019 เวลา 14:43 น. |
|
ในช่วงวันที่ 1-5 ก.ย. 62 อิทธิพลของพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ได้ปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม ทำให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงมีกำลังแรง ส่งผลให้ตอนบนของประเทศมีฝนตกหนักถึงหนักมาก หลังจากที่พายุ “คาจิกิ” อ่อนกำลังลงและสลายตัวไปในวันที่ 5 ก.ย. 62 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ก็ได้อ่อนกำลังลง ในช่วงวันที่ 7 ก.ย. 62 ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักในบางแห่งของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และด้านตะวันตกของประเทศ ทั้งนี้ปริมาณฝนสะสม 7 วัน ที่วัดได้จากระบบโทรมาตรของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี 330 มิลลิเมตร จังหวัดตราด 264 มิลลิเมตร และจังหวัดศรีสะเกษ 263 มิลลิเมตร ส่งผลทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากในหลายเขื่อน จนทำให้ปริมาณน้ำกักเก็บเพิ่มขึ้นในหลายเขื่อน
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 11 กันยายน 2019 เวลา 11:46 น. |
สัปดาห์นี้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 27-28 ส.ค. 62 หลังจากนั้นร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเข้าสู่พายุโซนร้อน “โพดุล” ในช่วงวันที่ 29-31 ส.ค. 62 ต่อจากนั้นร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่ พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ ในช่วงวันที่ 1-2 ก.ย. 62 ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน อ่าวไทย และประเทศไทยตลอดสัปดาห์ ส่งผลให้สัปดาห์นี้ทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณถาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากเป็นบริเวณกว้าง ทั้งนี้ปริมาณฝนสะสม 7 วัน น้ำสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด 440 มิลลิเมตร จังหวัดมหาสารคาม 389 มิลลิเมตร และจังหวัดอำนาจเจริญ 371 มิลลิเมตร
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 11 กันยายน 2019 เวลา 11:08 น. |
สัปดาห์นี้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมอ่าวตัวเกี๋ยและเวียดนามตอนบนมีกำลังแรงขึ้น เกิดเป็นแนวร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นอีกครั้งและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน เชียงราย แพร่ สุโขทัย เพชรบูรณ์ อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ปริมาณฝนสะสม 7 วัน ที่วัดได้จากระบบโทรมาตรของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ 343 มิลลิเมตร จังหวัดยโสธร 300 มิลลิเมตร และจังหวัดหนองคาย 296 มิลลิเมตร
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2019 เวลา 16:30 น. |
สัปดาห์นี้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน อ่าวไทย และประเทศไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับในช่วงวันที่ 15 ส.ค. 62 มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวตังเกี๋ย ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนมาปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 16-18 ส.ค. 62 และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน อ่าวไทย และประเทศไทยอ่อนกำลังลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่วนภาคใต้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ ทั้งนี้ปริมาณฝนสะสม 7 วัน ที่วัดได้จากระบบโทรมาตรของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ 267 มิลลิเมตร จังหวัดระนอง 259 มิลลิเมตร และจังหวัดสตูล 200 มิลลิเมตร
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2019 เวลา 12:14 น. |
|
|
|
<< เริ่มแรก < ย้อนกลับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ถัดไป > สุดท้าย >>
|
หน้า 4 จาก 11 |