สัปดาห์ที่ผ่านมาหย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุ “นากรี” บริเวณประเทศกัมพูชา ซึ่งยังคงทำให้ความชื้นพัดเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 13 พ.ย. 62 ทำให้เกิดแนวปะทะกับความชื้นที่ปกคลุมอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 13-14 พ.ย. 62 หลังจากนั้นในช่วงปลายสัปดาห์บริเวณความกดอากาศสูงอ่อนกำลังลง ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้มีกระแสลมตะวันออกเฉียงเหนือกลับมาพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้อีกครั้ง ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ทั้งนี้ปริมาณฝนสะสม 7 วัน ที่วัดได้จากระบบโทรมาตรของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส 96 มิลลิเมตร จังหวัดนครศรีธรรมราช 96 มิลลิเมตร และจังหวัดยะลา 83 มิลลิเมตร
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2019 เวลา 17:18 น. |
วันที่ 5 พ.ย. 62 ร่องมรสุมพาดผ่านจากบริเวณอ่าวเบงกอล ภาคใต้ อ่าวไทย เข้าสู่พายุดีเปรสชันที่ทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมทะเลอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลางตลอดสัปดาห์ ส่งผลให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกปานกลางถึงตกหนักกระจายตัวตลอดทั้งสัปดาห์ ส่วนประเทศไทยตอนบนมีความกดอากาศสูงกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมในช่วงกลางสัปดาห์ส่งผลให้ช่วงดังกล่าวภาคเหนือมีฝนตกเพิ่มขึ้นโดยมีฝนตกปานกลางถึงตกหนัก ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีฝนตกเล็กน้อยกระจายตัวในช่วงกลางสัปดาห์ ทั้งนี้ปริมาณฝนสะสม 7 วัน ที่วัดได้จากระบบโทรมาตรของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส 194 มิลลิเมตร จังหวัดยะลา 166 มิลลิเมตร และจังหวัดพังงา 148 มิลลิเมตร
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2019 เวลา 10:58 น. |
พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกและทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “แมตโม” บริเวณด้านตะวันออกของประเทศเวียดนาม ในวันที่ 30 ต.ค. 62 พร้อมกับเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศเวียดนาม ในวันที่ 31 ต.ค. 62 และอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามและภาคตะวันออกของประเทศไทยในวันที่ 1 พ.ย. 62 และบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ในช่วงต้นสัปดาห์และปลายสัปดาห์ ประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยและทะเลอ่าวไทยมีกำลังปานกลางในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์ ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนตกปานกลางถึงตกหนักในช่วงต้นสัปดาห์และปลายสัปดาห์ ส่วนภาคใต้มีฝนตกปานกลางถึงตกหนักตลอดทั้งสัปดาห์ ทั้งนี้ปริมาณฝนสะสม 7 วัน สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดตรัง 196 มิลลิเมตร จังหวัดนราธิวาส 174 มิลลิเมตร และจังหวัดสงขลา 130 มิลลิเมตร
|
ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนอ่อนกำลังลงในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์ หลังจากนั้นความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ยในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ ทำให้ลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนลดลงในหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกปานกลางถึงตกหนักบริเวณภาคใต้ในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์หลังจากนั้นปริมาณฝนลดลงจนถึงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้ปริมาณฝนสะสม 7 วัน ที่วัดได้จากระบบโทรมาตรของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดยะลา 186 มิลลิเมตร จังหวัดตรัง 120 มิลลิเมตร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี 113 มิลลิเมตร
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2019 เวลา 09:16 น. |