|
พายุฤดูร้อน” ในช่วงวันที่ 6-8 มีนาคม 2565 โดยบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและมีความชื้นที่พัดเข้ามาจากลมใต้ ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้เกิดพายุฤดูร้อน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 6 มีนาคม 2565 มีพายุลูกเห็บตกในรอบ 30 ปี ที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 50 หลัง และในวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีลูกเก็บตก ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบริเวณบ้านแม่ตะละ ตำบลสันสลี อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 319 หลัง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งสามารถวัดปริมาณฝนตกสะสม 24 ชั่วโมง สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดน่าน 127 มิลลิเมตร เลย 113 มิลลิเมตร ตาก 97.5 มิลลิเมตร อุดรธานี 97 มิลลิเมตร ตราด 91.4 มิลลิเมตร เพชรบูรณ์ 86.5 มิลลิเมตร หนองคาย 85 มิลลิเมตร แพร่ 84.5 มิลลิเมตร สระแก้ว 83.5 มิลลิเมตร และฉะเชิงเทรา 82 มิลลิเมตร
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 15 มีนาคม 2022 เวลา 16:17 น. |
|
|
เดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีฝนตกเฉลี่ย 83 มิลลิเมตร มากกว่าปกติถึง 5 เท่า หรือสูงที่สุดในรอบ 50 ปี โดยแต่ละภาคมีฝนตกมากกว่าปกติ 5-6 เท่า โดยเฉพาะภาคใต้ที่มีฝนตกหนักจนทำให้มีน้ำไหลลงเขื่อนในเดือนกุมภาพันธ์มากถึง 420 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากที่สุดฅในรอบ 10 ปี และวันที่ 2 มี.ค. 65 กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศให้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการและจากข้อมูลตรวจวัดสภาพอากาศสถานีโทรมาตรของสสน. พบว่า ตั้งแต่วันที่ 2-7 มี.ค. 65 ประเทศไทยมีอุณหภูมิกลางแจ้งสูงมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะวันที่ 5 มี.ค. 65 ที่มีอุณหภูมิร้อนจัด (อุณหภูมิมากกว่า 40 องศาเซลเซียส) บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีอุณหภูมิสูงสุด 44 องศาเซลเซียส บริเวณจังหวัดแพร่และลำปางและจากคาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. 65 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ เนื่องจากจากบริเวณความกดอากาศสูงที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทั้งนี้ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสามารถดูรายงานเก่าๆ ย้อนหลังได้ที่ http://www.thaiwater.net/report
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 08 มีนาคม 2022 เวลา 22:05 น. |
|
ช่วงวันที่ 25-28 ก.พ. 65 เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช ตรัง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ช่วงวันที่ 25-28 ก.พ. 65 โดยมีปริมาณฝนสะสม 5 วัน (วันที่ 24-28 ก.พ. 65) สูงสุด บริเวณจังหวัดนราธิวาส 889 มิลลิเมตร ยะลา 689 มิลลิเมตร และจังหวัดปัตตานี 362 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นปริมาณฝนสะสมสูงสุดในรอบ 10 ปี รวมถึงมีน้ำไหลลงเขื่อนบางลางมากถึง 154 ล้าน ลบ.ม. ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. 65 เดือนกุมภาพันธ์ 2565 บริเวณภาคใต้ที่รับลมมาจากมหาสมุทรแปซิฟิกมีแนวโน้มฝนตกมากกว่าค่าปกติ เนื่องจากอุณหภูมิผิวน้ำของมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางมีสภาวะเป็น “ลานีญา” และรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงแผ่ลงมา ปกคลุมประเทศไทยตอนบนส่งผลให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนเข้าใกล้ประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้โดยเฉพาะบริเวณสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในช่วงวันที่ 24-27 ก.พ. 65
|
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 02 มีนาคม 2022 เวลา 10:19 น. |
|
กระแสลมตะวันตกที่แผ่เสริมลงมาบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์มีกำลังค่อนข้างแรงกว่าในหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับเป็นช่วงที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามามีกำลังแรง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงภาคใต้ โดยช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. 65 ได้เกิดน้ำหลากจังหวัดกำแพงเพชรและอุทัยธานี มีปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงสูงสุด ที่ จังหวัดกำแพงเพชร 189 มิลลิเมตร และอุทัยธานี 134 มิลลิเมตร ในวันที่ 15 ก.พ. 65 และในช่วงวันที่ 15-17 ก.พ. 65 ภาคใต้มีฝนหนักถึงหนักมาก ทำให้ เกิดน้ำหลากในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช และพัทลุง ซึ่งมีปริมาณฝนสูงสุด 24 ชั่วโมง ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 145 มิลลิเมตร นครศรีธรรมราช 189 มิลลิเมตร และพัทลุง 145 มิลลิเมตร ในวันที่ 16 ก.พ. 65 ซึ่งถือเป็นปริมาณฝนที่ตกมากสุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เมื่อเทียบกับปริมาณฝนที่ตกในช่วงเวลาเดียวกัน
|
|
สัปดาห์นี้บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยอ่อนกำลังลง ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้าปกคุลมประเทศไทยตอนบนตลอดทั้งสัปดาห์ และมีลมตะวันตกในระดับลมชั้นบนพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นและมีฝนตกในบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังปานกลาง ส่งผลให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกตลอดทั้งสัปดาห์
|
|
|
|
|
<< เริ่มแรก < ย้อนกลับ 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 ถัดไป > สุดท้าย >>
|
|
หน้า 22 จาก 89 |