ปรากฎการณ์ลานีญาและอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่ต่างไปจากปกติ
ที่มา : National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA)

ปรากฏการณ์ลานีญา

ปรากฏการณ์ลานีญาเป็นปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตก บริเวณใกล้ประเทศฟิลิปปินส์สูงกว่าปกติ ส่วนทางฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ โดยวิเคราะห์ได้จากค่าดัชนี ONI (Ocean Nino Index) ที่มีค่าต่ำกว่าปกติ -0.5 ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยมีโอกาสที่ฝนจะตกมากกว่า

ปกติ ทั้งนี้ในช่วงเหตุการณ์ มหาอุทกภัยปี 2554 ปรากฎการณ์ลานีญาได้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2553 ต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2554 โดยมีกำลังแรงในช่วงปลายปี 2553 หลังจากนั้นได้ลดระดับเป็นลานีญากำลังปานกลางและกำลังอ่อนในช่วงต้นปี 2554 จากนั้นได้กลับเข้าสู่สภาวะเป็นกลาง (ดัชนี ONI อยู่ระหว่าง -0.5 ถึง 0.5) ช่วง

ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม และเริ่มกลับสู่สภาวะลานีญากำลังอ่อนและกำลังปานกลางอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2554 ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2555 ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกมากกว่าปกติ โดยเฉพาะช่วงปลายปี 2553 จนถึงกลางปี 2554 อีกทั้งยังทำให้ปี 2554 มีฝนตกมากตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งถือว่าเร็วกว่าปกติ

ตารางดัชนี ONI
หน่วย : องศาเซลเซียส
ที่มา : ข้อมูลดิบจาก https://www.cpc.ncep.noaa.gov/data/indices/oni.ascii.txt (ERSSTv5)


ตารางดัชนี NINO 3.4
หน่วย : องศาเซลเซียส
ที่มา : ข้อมูลดิลจาก https://origin.cpc.ncep.noaa.gov/products/analysis_monitoring/ensostuff/detrend.nino34.ascii.txt

ดัชนี NINO 3.4 คือ ค่าอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่เบี่ยงเบนไปจากค่าปกติของแต่ละเดือนบริเวณ Nino 3.4 [5oN-5oS, 120o-170oW] ดังนั้นค่าตัวเลขในตารางจึงเป็นค่าของเดือนนั้น ๆ
ดัชนี ONI คือ ค่าเฉลี่ย 3 เดือนของดัชนี NINO 3.4 โดยค่าตัวเลขในตารางเกิดจากการนำค่าของเดือนก่อนหน้า เดือนปัจจุบัน และเดือนถัดไปมาเฉลี่ยกัน เช่น ค่าตัวเลขของเดือนกุมภาพันธ์เกิดจากการเฉลี่ยกันของเดือนมกราคม กุมภาพันธ์และมีนาคม เป็นต้น
กลุ่มสีน้ำตาล หมายถึง ปรากฏการณ์เอลนิโญ (ค่า ONI มากกว่า 0.5 องศาเซลเซียส และต้องเกิดต่อเนื่องกันอย่างน้อย 5 ครั้ง)
สีเทา หมายถึง สภาวะเป็นกลาง (ค่า ONI อยู่ในช่วง -0.5 องศาเซลเซียส ถึง 0.5 องศาเซลเซียส)
กลุ่มสีน้ำเงิน หมายถึง ปรากฏการณ์ลานีญา (ค่า ONI น้อยกว่า -0.5 องศาเซลเซียส และต้องเกิดต่อเนื่องกันอย่างน้อย 5 ครั้ง)


Pacific Decadal Oscillation (PDO) คือ ปรากฏการณ์ทางสมุทรศาสตร์ที่อุณหภูมิน้ำทะเลฟากตะวันออกและฟากตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ ข้างหนึ่งจะอุ่นกว่าปกติ ส่วนอีกข้างจะเย็นกว่าปกติ ซึ่งจะเกิด

การสลับข้างกันทุก 30 ปีโดยประมาณ โดย กรณีค่าน้อยกว่า -0.5 หมายถึง แนวโน้มประเทศไทยอาจมีฝนตกมาก ซึ่งจากตารางจะพบว่าค่า PDO เริ่มน้อยกว่า -0.5 มาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2553 ต่อเนื่องจนถึง

ปี 2554 โดยเฉพาะช่วงปลายปี 2554 ที่ติดลบมากกว่า 2 และลดลงต่ำกว่า 2 อีกครั้งในช่วงต้นปี 2555 ซึ่งส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มมากในช่วงเวลาดังกล่าว

ตารางดัชนี PDO
หน่วย : องศาเซลเซียส

ที่มา : ข้อมูลดิบจาก https://www.ncei.noaa.gov/pub/data/cmb/ersst/v5/index/ersst.v5.pdo.dat


Indian Ocean Dipole (IOD) คือ ปรากฎการณ์การเคลื่อนไหวไปมาสลับกันสองด้านระหว่างด้านฝั่งตะวันตกและด้านฝั่งตะวันออกของกระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งส่งผลต่อการเกิดฝนบริเวณประเทศไทย

และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งใช้ค่าดัชนี DMI (Dipole Mode Index) ในการวิเคราะห์การเกิดปรากฎการณ์ กรณีค่าดัชนีน้อยกว่า -0.50 อาจส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยและพื้นที่ใกล้เคียงมีแนวโน้มฝนตกมากกว่า

ปกติ แต่จะพบว่าในช่วงปี 2553-2555 ไม่มีค่าดัชนีที่น้อยกว่า -0.5 ซึ่งหมายถึง ดัชนีตัวนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดฝนตกมากในปี 2554

ตารางดัชนี DMI เพื่อใช้วิเคราะห์ปรากฎการณ์ IOD
หน่วย : องศาเซลเซียส
ที่มา : ข้อมูลดิบจาก http://www.bom.gov.au/climate/enso/iod_1.txt (Jan 2024 updated)




อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่ต่างไปจากปกติช่วงเดือนมกราคมถึงธันวาคม 2554

มกราคม
กุมภาพันธ์
มีนาคม
เมษายน
พฤษภาคม
มิถุนายน

กรกฎาคม
สิงหาคม
กันยายนbr>
ตุลาคม
พฤศจิายน
ธันวาคม